“จตุพร” ชี้ร่างกม.นิรโทษฯต้องรอบคอบพิจารณาขอบข่าย ยกพระราชประสงค์สถาบันฯเป็นหลัก ถ้าคิดช่วยคนโดนคดี 112 ควรวางเป็นโมเดล วางกรอบลงโทษเพิ่มให้หนัก ถ้าก่อเหตุซ้ำ

"จตุพร" ชี้ร่างกม.นิรโทษฯต้องรอบคอบพิจารณาขอบข่าย ยกพระราชประสงค์สถาบันฯเป็นหลัก ถ้าคิดช่วยคนโดนคดี 112 ควรวางเป็นโมเดล วางกรอบลงโทษเพิ่มให้หนัก ถ้าก่อเหตุซ้ำ

“จตุพร” ชี้ร่างกม.นิรโทษฯต้องรอบคอบพิจารณาขอบข่าย ยกพระราชประสงค์สถาบันฯเป็นหลัก ถ้าคิดช่วยคนโดนคดี 112 ควรวางเป็นโมเดล วางกรอบลงโทษเพิ่มให้หนัก ถ้าก่อเหตุซ้ำ

 

 

สืบเนื่องเมื่อวันที่ 16 ก.ค. 2568 ที่ผ่านมา รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.เกี่ยวกับการนิรโทษกรรม จำนวน 5 ฉบับ ต่อเนื่องจากการประชุมสภาฯ ในสัปดาห์ที่แล้ว โดยเป็นการอภิปรายสรุปเนื้อหาร่าง พ.ร.บ.แต่ละฉบับก่อนจะลงมติ นายวิชัย สุดสวาสดิ์ สส.ชุมพร พรรครวมไทยสร้างชาติ อภิปรายสรุปว่า ร่าง พ.ร.บ.สร้างสังคมสันติสุข ที่นำเสนอ ไม่ได้ทำเพื่อกลุ่ม กปปส. แต่ทำเพื่อทุกกลุ่ม แต่ไม่ได้นิรโทษกรรมคนทุจริต ความผิดคดีอาญาเข่นฆ่าประชาชน และคดีมาตรา 112 ขอให้ลดการเป็นฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน มาทำหน้าที่เป็นตัวแทนประชาชน สิ่งที่จะเกิดขึ้น ไม่ใช่ว่ารับร่างกฎหมายแล้วจะตราเป็นกฎหมายทันที ต้องไปหารือในชั้น กมธ. เชื่อว่า สภาจะจับมือร่วมกันให้สังคมเกิดสันติสุข

ขณะที่นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ตัวแทนภาคประชาชน กล่าวว่า ไม่ได้ยิน สส.คนใดบอกไม่อยากให้อภัยคนที่ทำผิดจากการแสดงออกทางการเมือง คดีมาตรา 112 มีมูลเหตุจากความขัดแย้งทางการเมือง ควรได้รับนิรโทษกรรม ถ้ารับร่างเฉพาะฝ่ายรัฐบาล เท่ากับเปิดช่องนิรโทษกรรมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ที่ทำร้ายประชาชน แล้วไปนิรโทษกรรมข้อหากบฏ ก่อการร้าย ปิดสนามบิน ชุมนุมยึดทำเนียบรัฐบาล เพื่อเสนอข้อเรียกร้องทางการเมืองให้ตัวเอง จะเรียกว่าสร้างสังคมสันติสุขได้อย่างไร การนิรโทษกรรมแบบได้บางกลุ่ม แต่ตีตราคนอีกกลุ่ม ถือว่าผิดทาง เลือกปฏิบัติ อยากให้ผู้ที่มีอำนาจออกกฎหมาย โหวตนิรโทษกรรมคดีมาตรา 112 ให้เดินต่อไปได้ ถ้ามีคนไม่เห็นด้วยก็ไปอธิบายสื่อสารให้เข้าใจ อย่าไปตัดสินก่อนว่า คดีมาตรา 112 น่ารังเกียจ คดีมาตรา 112 มีมิติ มีเรื่องราวมากกว่าที่เคยทราบมา อย่าปิดประตูตาย ทอดทิ้งคนอีกหลายร้อยชีวิต เหมือนพวกเขาไม่มีตัวตน ขอให้รับร่างกฎหมายนี้ เพื่อเคารพต่อสามัญสำนึกของท่านเอง

 

ด้านนายกรวีร์ ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า หลักการนิรโทษกรรมพรรคภูมิใจไทยคือ ไม่รวมคดีทุจริต ไม่รวมคดีมาตรา 112 และการกระทำผิดให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย หรือต้องรับผิดชอบต่อตัวบุคคล ที่ไม่ใช่หน่วยงานรัฐ การจะเดินหน้าไปสู่สันติสุข ต้องมั่นใจกุญแจที่ไขจะนำไปสู่ความปรองดอง ไม่ใช่ไขแล้วไปสู่ความขัดแย้งรอบใหม่ ยอมรับเห็นใจคนทำผิดมาตรา 112 แต่ต้องยอมรับว่า คนที่ถูกลงโทษคดีมาตรา 112 มีไม่น้อย ที่เป็นทำผิดซ้ำแล้วซ้ำอีก การแก้กฎหมายต้องไม่นำไปสู่ความขัดแย้ง และการเผชิญหน้า คนทำผิดมาตรา 112 ยังมีช่องทางอื่น เช่น ถ้าสำนึกผิดก็ขอพระราชทานอภัยโทษ หลายคนที่ถูกลงโทษคดีนี้ก็ได้รับการอภัยโทษ พรรคภูมิใจไทยไม่ได้รังเกียจคนทำผิดมาตรา 112 แต่ถ้าไปเหมารวมทุกกรณี สิ่งตามมาคือความไม่สงบสุขในสังคมรอบใหม่ ต้องมาขอนิรโทษกรรมไม่จบสิ้น ขออภัยไม่สามารถรับร่างที่ขัดเหตุผล นำไปสู่ความขัดแย้งในสังคม เพราะไม่อาจเยียวยาบาดแผลเก่า เพื่อไปสร้างบาดแผลใหม่ขึ้นมาได้

ส่วนทางด้านน.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กทม. พรรคประชาชน อภิปรายว่า จะส่งเสริมสันติสุข โดยทิ้งคนอีกกลุ่มได้อย่างไร ที่ผ่านมาได้ไปทำความเข้าใจร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของพรรคก้าวไกลต่อ สส.ต่างพรรค หลายคนบอกเห็นใจ เข้าใจ แต่ทำไม่ได้เรื่องการนิรโทษกรรม มาตรา 112 เราเถียงกันในห้องแอร์จะนิรโทษกรรมให้คดีใดก่อน แต่ไม่คำนึงว่า ไม่ว่าเป็นคดีใด ทุกคนก็เป็นประชาชน คดีมาตรา 112 เป็นคดีที่ถูกแบ่งแยก จะส่งเสริมสันติสุข โดยทิ้งคนอีกกลุ่มได้อย่างไร แม้จะมีความหวังน้อยนิด เพราะรู้ลึกๆ ในใจแต่ละคนมีธงอย่างไร ร่างของพรรคก้าวไกลไม่มีนิรโทษกรรมคดีมาตรา 112 ในเนื้อหา เข้าใจดีว่า การรับร่างกฎหมายฉบับนี้ลำบากใจ แต่อย่างน้อยให้กดงดออกเสียงก็ยังดี ถือว่าเพียงพอให้ทุกร่างได้ไปถกในชั้น กมธ. ขอดึงสติทุกคนนี่คือวาระ 1 จะปิดประตูความหวังประชาชนตั้งแต่วาระ 1 คงไม่ใจร้าย ขอเปลี่ยนความเห็นใจเป็นการงดออกเสียงก็ยังดี

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากอภิปรายร่าง พ.ร.บ.เกี่ยวกับการนิรโทษกรรมครบทั้ง 5 ฉบับแล้ว ที่ประชุมจึงลงมติ โดยให้แยกการลงมติเป็นรายฉบับ ผลปรากฏที่ประชุมลงมติให้ความเห็นชอบ 3 ฉบับคือ ฉบับที่ 1 ร่าง พ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข ของนายวิชัย สุดสวาสดิ์ สส.ชุมพร พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้รับความเห็นชอบด้วยคะแนน 299 ต่อ 0 งดออกเสียง 172 ฉบับที่ 2 ร่าง พ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข ของนายปรีดา บุญเพลิง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคกล้าธรรม ได้รับความเห็นชอบ 311 ต่อ 0 งดออกเสียง 158 ไม่ลงคะแนน 1 และฉบับที่ 5 ร่าง พ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับความเห็นชอบด้วยคะแนน 311 ต่อ 3 งดออกเสียง 147 โดยตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ขึ้นมาพิจารณา 32 คน ใช้ร่างของนายวิชัยเป็นร่างหลัก

 

ขณะที่อีก 2 ฉบับไม่ได้รับความเห็นชอบคือ ฉบับที่ 3 ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแก่บุคคลซึ่งได้กระทำความผิดอันเนื่องมาจากเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง ที่นายชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกลเป็นผู้เสนอ ไม่ได้รับความเห็นชอบด้วยคะแนน 319 ต่อ 147 งดออกเสียง 6 ไม่ลงคะแนน 1 และฉบับที่ 4 ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมประชาชน ที่ภาคประชาชนเป็นผู้เสนอ ไม่ได้รับความเห็นชอบด้วยคะแนน 306 ต่อ 149 งดออกเสียง 20 ถือว่า ที่ประชุมไม่รับหลักการ ต้องตกไป

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ล่าสุดวันนี้ 17 ก.ค. 68 นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ให้สัมภาษณ์ท็อปนิวส์ ในรายการจับตาประเทศไทย กรณี ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมไม่รวมม.112 จะสร้างความปรองดองได้จริงหรือไม่ ว่า ตนมองว่าทั้ง 3 ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมวานนี้ ไม่รู้ว่าจะอยู่ถึงวันผ่าน ร่างพ.ร.บ.นิรโทษฯ ฉบับนี้ได้หรือไม่ ส่วนกรณี มาตรา 112 ควรดำเนินการในลักษะณะ ของการขอพระราชทานอภัยโทษ โดยที่รัฐบาลเป็นเจ้าภาพในการดำเนินการ เพราะตนได้เห็นพระราชประสงค์ ของในหลวงรัชการที่ 10 ในวันที่ขึ้นครองแผ่นดินนั้น ท่านได้ทรงไม่ประสงค์ที่จะดำเนินคดีมาตรา 112 กับผู้ใด ในระยะ 3 ปีของการเริ่มต้นรัชกาลนั้น คดีม.112 ที่อยู่ในศาล ได้ถูกยกฟ้อง และอยู่ในชั้นพนักงานสอบสวน และพนักงานอัยการไม่สั่งฟ้อง 100 % คดีที่พิพากษาไปแล้วก็ให้อภัยโทษตามลำดับ

 

 

 

จนกระทั่งรัฐบาลต่อมาได้ประกาศ แนวทางพระบรมราโชบายนี้ เมื่อมีเหตุควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ ก็กลับนำมาใช้อีกครั้งหนึ่ง ดังนั้นหากดำเนินการให้มีทางออกสำหรับทุกภาคฝ่าย และได้มีการภาคทัณฑ์เอาไว้ เช่น หากได้รับพระราชทานอภัยโทษแล้ว ถ้าใครทำอีกคดีที่มีอยู่เดิมทั้งหมด จะต้องถูกหยิบยกขึ้นมาพิจารณาใหม่ และวันนั้นสังคมจะต้องขานรับกันทั้งหมด ดังนั้นมองว่าในเรื่อง มาตรา 66/23 หรือคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 66/2523 ที่ประกาศเมื่อ 45 ปีที่แล้ว ในรัฐบาล พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ที่ได้มีการทำร้ายกันจนเสียชีวิตเกือบหนึ่งหมื่นคนในช่วงสงครามเมื่อสิบกว่าปีที่ผ่านมา ยังเลิกแล้วแต่กันได้ เรื่องนี้เป็นความผิดที่เกี่ยวกับพระองค์ท่านจะเห็นได้ว่าพระราชประสงค์ ที่ทรงไม่คิดจะเอาโทษกับพสกนิกรของตนเอง ด้วยความเมตตาตั้งแต่ต้น ตนมองว่าจึงควรมีทางออก เพราะในยุคสมัยนี้คนที่มีความผิดในทางคดี ไม่ควรที่จะเป็นคณะกรรมาธิการชุดนี้ แต่หลายเรื่องควรมีทางออกร่วมกัน หากเราต้องการความสงบ และสามัคคีจำเป็นต้องแยกแต่ละเรื่องออกจากกัน

เมื่อถามว่าต้องมีอีกโมเดลหนึ่ง ในการช่วยเยาวชนที่ติดคุก แต่เวลานี้ขอให้ผ่านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ทั้ง 3 ฉบับก่อน ที่สำคัญไม่สามารถแก้ไขหรือแปรญัตติ ให้เกินหลักการไม่ได้แล้ว ดังนั้นต้องมาทำอีกโมเดลหนึ่งเกี่ยวกับการหาทางออก คดีม.112 หรือไม่ นายจตุพร กล่าวว่า ในระหว่างนี้ไม่มีเชื่อใคร ในยุคที่ทรยศหักหลักหลอกลวง แต่สิ่งสำคัญอยู่ที่ว่าเราต้องการแก้ไขปัญหา หรือสร้างปัญหามากขึ้นกว่ากัน เพราะอันที่จริงตนมองว่าใครที่ได้รับการนิรโทษกรรมล้วนเป็นเรื่องที่ดี แต่ว่าความต้องการของตน สังคมต้องเดินต่อไปได้ ต้องใช้ความเมตตาระหว่างกัน และสิ่งสำคัญที่สุดคือการป้องกัน ทั้ง ชาติ-ศาสน์-กษัตริย์ และประชาชน ต้องมีมาตรการควบคุมไม่ให้สิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้นอีก และมีความแข็งแรงต่อไป

นายจตุพร กล่าวอีกว่า หลายเรื่องมีปัญหาและตนได้ทักท้วงเรื่องนี้ตั้งแต่ปี 2563 ว่าอย่าได้พาดพิงเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งในช่วงนั้นตนถูกกล่มจากพรรคเพื่อไทย และในบรรดาเพื่อนพ้อง กลุ่มนปช.และกองเชียร์ที่หนุนหลังเยาวชนทั้งหลาย พอวันที่มีเรื่องหลังจากนั้นเด็กกลุ่มนี้ ก็ผลัดพรากจากครอบครัว และส่วนหนึ่งก็ติดคุก และบางคนก็ติดคุกจนตาย ตนมองว่าเราต้องสร้างความแข็งแรงให้กับสถาบันของชาติ ซึ่งเป็นทางออกระหว่างกัน และเป็นการป้องกันไม่ให้สิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้นมาอีก หากกระทำผิดอีกคือโทษสถานหนัก

เมื่อถามว่าสรุปว่าทั้ง 3 ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมวานนี้ ในอนาคตนั้นยังไม่แน่ใช่หรือไม่ นายจตุพร กล่าวว่า ยังไม่แน่นอน ส่วนสิ่งที่หลายคนเสนอว่า ต้องมีโมเดลคล้ายมาตรา 66/23 เพื่อมาดูแลเด็กกลุ่มนี้หรือไม่ ตนมองว่าการคิดว่าจะเอาตัวรอดกันเป็นส่วนๆ จะกลายเป็นช่องว่างให้กับการปลุก หรือสร้างความขัดแย้งใหม่ขึ้นมาใหม่ ทำไมเราไม่ทำความขัดแย้งให้จบสิ้น และที่สุดหลังจากนี้เรื่องราว ที่กระทบกับความรู้สึกกับคนไทยจะจบลง พูดง่ายๆ ว่าหากเด็กเยาวชนทำซ้ำก็จะกลับมาใหม่ เพราะสังคมไม่ให้อภัย เรายืนยันแบบนี้ และอยากฝากถึงกองเชียร์ทั้งหลายต้องไม่เอาหน้า หากต้องการความสำเร็จ

 

เมื่อถามว่าตอนนี้ติดในเรื่องทางกฎหมาย ว่าไปแปรญัตติเกินหลักการ หรือไปแก้ไขเกินหลักการ จะทำให้เหมือนปี 2556-2557 หรือไม่ นายจตุพร กล่าวว่า ในความเป็นจริงยังตกค้างหลายเรื่องราว โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเมือง ยังเขียนแบบกว้างๆ เอาตัวเองเป็นหลัก หรือเขียนเกี่ยวกับตัวเองเป็นหลัก เพื่อให้ตัวเองรอด คนอื่นไม่รอดไม่เกี่ยว ซึ่งตนมองว่าเขียนกฎหมายแบบนี้ไม่ได้ เพราะจะหาความสำเร็จไม่เจอ เราต้องการยุติและสร้างความสามัคคี ให้เกิดขึ้นในแผ่นดิน ดังนั้นเรื่องนี้จัดการให้หมดไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ตนเชื่อว่าถือไว้หากคนในสังคมทำผิด สังคมจะไม่ให้อภัยเลย ตนอยากฝากไว้ว่าต้องการความสำเร็จหรือต้องการทิ้งปัญหาไว้ข้างหลัง

ทั้งนี้ประเด็นที่จตุพร ได้กล่าวว่า ในหลวงเคยกล่าวว่าไม่ให้ใช้มาตรา 112 นั้น หากย้อนไปในช่วงเดือนมิถุนายนปี 63 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เคยกล่าวว่า ที่ผ่านมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระเมตตา ไม่ให้ใช้มาตรา 112 จริง แต่การที่มาตรา 112 ถูกกลับมาบังคับใช้เพราะ นับตั้งแต่มีการชุมนุมของม็อบสามนิ้ว บรรดาแกนนำและผู้เข้าร่วมชุมนุม ต่างมีพฤติกรรมที่ละเมิดจาบจ้วง สถาบันพระมหากษัตริย์ ให้ได้รับความเสื่อมเสียอย่างรุนแรง ด้วยข้อมูลที่บิดเบือนทั้งผ่านการปราศรัยบนเวทีและในโลกออนไลน์ ทำให้แกนนำและแนวร่วมม็อบสามนิ้วที่กระทำความผิดถูกดำเนินคดีมาตรา 112 ซึ่งก็เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม มีการต่อสู้คดีทั้งสามศาล หลายคนถูกตัดสินให้มีความผิด และหลายคนก็ไม่มีความผิด แต่หลายคนที่ได้รับการประกันตัว ได้หลบหนีไปต่างประเทศ ดังนั้นหากเจ้าหน้าที่บ้านเมืองไม่บังคับใช้มาตรา 112 จะเกิดอะไรขึ้นกับสถาบันหลักของประเทศ

จากการติดตามของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน นับตั้งแต่เริ่มมีการเผยแพร่รายชื่อ ผู้ถูกดำเนินคดีประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2563 จนถึงเดือนมิถุนายน 2568 มีผู้ถูกดำเนินคดีตาตามมาตรา 112 แล้วอย่างน้อย 281 คน ใน 314 คดี

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) ห้างเซี่ยงไฮ้เพิ่มความบันเทิงกระตุ้นการใช้จ่าย
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) ยูนนานพบฝูง 'ช้างเอเชีย' พร้อมแก๊งช้างน้อยจอมซน
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) แม่น้ำประสานสาย 'ถักเปีย' บนที่ราบสูงชิงไห่-ทิเบต
"พลภูมิ" เผย "แพทองธาร" สั่งเร่งฟื้นศรัทธาในวงการสงฆ์ – ชี้ต้องสร้างความเข้าใจ-ความโปร่งใส พร้อมปรับวิธีสื่อธรรมะให้เข้ายุค
"ทักษิณ" ลั่นเรื่องเฮงซวย "นายกฯ" โดนสั่งพักงาน เสียโอกาสแข่งขันสิงคโปร์ ยันไม่คิดเปลี่ยนตัวผู้นำ เพราะเลือก "แพทองธาร" เหมือนได้ตนเป็นเสมียนประเทศ
เปิดใจ "3 ทหารกล้า" เล่านาทีเหยียบกับระเบิด ชายแดนช่องบก เผยภูมิใจที่ได้รับใช้ชาติ
"ทักษิณ" โชว์อีกเวทีทอล์ค ซัด "ผู้นำเขมร" ไร้จริยธรรม งงคนไทยไม่รักกัน ดันเข้าข้างกัมพูชา ไม่วายแขวะอดีตพรรคร่วมฯ กล่าวหาขายชาติ
ฝนถล่มปากีสถานทำผู้เสียชีวิตกว่า 60 คนใน 24 ชั่วโมง
"รมช.กลาโหม" ลงพื้นที่ช่องสะงำ ขอให้กำลังพลทุกนาย อดทนอีกนิด เผยเตรียมผ่อนปรนรถขนส่งสินค้าข้ามแดน
“วิสุทธิ์” ยันปัดตีตกกม.นิรโทษคดี 112 เชื่อมีทางอื่นช่วยเด็กติดคุกได้ ย้ำสิ่งสำคัญต้องสร้างสามัคคีให้บ้านเมือง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น