ก่อนหน้านี้ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยว่า กองปราบปรามฯ มี 2 คดีที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม คือ คดีฉ้อโกงอดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดพิจิตร หลังพบว่าพฤติการณ์ของสีกากอล์ฟ ได้หลอกลวงอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ว่า ป่วยและขอยืมเงิน 400,000 บาท แลกกับการมอบหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตรมีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ ซึ่งผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เข้าแจ้งความร้องทุกข์ในช่วงที่มีการร้องเรียนปี 2559 ก่อนจะรื้อคดีกลับขึ้นมาทำใหม่ในปี 2561 โดยมีหลักฐานเส้นทางการเงินที่ชัดเจน

ส่วนคดีรีดเอาทรัพย์ที่สีกากอล์ฟเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับอยู่แล้ว พบว่าสีกากอล์ฟมีความเชื่อมโยงกับอดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหารในเชิงชู้สาว แผนประทุษกรรมคือเริ่มมีความสนิทสนมจะทำทีขอยืมเงิน โดยมีหลักฐานเส้นเงินจากอดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ โอนไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องกับสีกากอล์ฟ 8,000 บาท ซึ่งสีกากอล์ฟอ้างว่าจะนำเงินไปใช้ลงทุนทำธุรกิจเกี่ยวกับเซรามิก

สำหรับการดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องกับการกระทำของพระชั้นผู้ใหญที่ผิดหลักพระธรรมวินัย เช่น การยักยอกเงินวัด หรือเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัด จะเป็นความรับผิดชอบของกองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ แต่หากเป็นความผิดอาญาที่เกี่ยวข้องกับสีกาหรือบุคคลอื่น เช่น การฉ้อโกง หรือยักยอกทรัพย์ จะเป็นหน้าที่ของกองปราบปรามในการดำเนินคดี แต่ขณะนี้ยังไม่พบว่ามีการแจ้งความร้องทุกข์ในข้อหาอื่นเพิ่มเติม