“พล.ท.กนก” อดีตผบ.กกล.สุรนารี แฉแผน “เขมร” จงใจส่ง “สาว” ยั่วยุทหารไทย หวั่นปะทะเดือดแน่ หากสร้างรั้วตาเมือนธม

พล.ท.กนก กล่าวว่า จุดที่ทหารไทยยืนอยู่ในคลิปยืนยันเป็นพื้นที่ดินแดนของประเทศไทย ตั้งแต่สมัยยังมีรั้วกั้น และต้นขี้เหล็กยังต้นเล็กอยู่ ปัจจุบันต้นขี้เหล็กได้มีการโตขึ้นใหญ่ขึ้น ซึ่งสมัยตอน ผมเป็น “ผบ. กองกำลัง ”ผ่านมา 17 ปีแล้ว รั้วหายไปตอนปี 54 ตอนที่สู้รบกันที่ปราสาทตาควาย ปราสาทตาเมือนธม ก่อนที่จะมีการเจรจาปรับกองกำลังให้ถอยออกไป และตรวจการวางกำลัง ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งมันทำให้รั้วตรงนั้นหายไป ถ้าพูดรั้วก็เหมือนเป็นหนามยอกอกกัมพูชา ถ้ามีรั้วแล้วเหมือนที่ตรงนั้นเป็นดินแดนของไทยฝ่ายเดียว แต่ก่อนรั้วมันมีทั้งหมด 2 ชั้น ชั้นไกลสุดเพื่อให้คนเข้ามา แล้วไทยเราจะมีโต๊ะมารับบัตรฉีกตรวจบัตรถึงจะได้เข้าไป ไม่ว่าจะเป็นปชช.หรือทหารต้องทำตามระบบนี้ถึงจะได้เข้า

ลองสังเกตว่าทำไม เหตุการณ์ถึงเกิดวันที่ 15 ก.ค. เพราะเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมปี 2551 ผม พล.ท.กนก บุกช่วย 3 คนไทยที่ถูกทหารกัมพูชาจับกุมตัว พร้อมตั้งกำลังอยู่ที่วัดแก้วฯ และเหตุการณ์มันก็วันตรงกันพอดี ตอนนี้กัมพูชาก็เลยมาทำเชิงสัญลักษณ์ที่นี่บ้าง

กัมพูชาถือว่าเตรียมการมา ใช้คนแค่ 1 คน ให้มาก่อเรื่องได้ ซึ่งทางด้านของเราถูกจำกัดด้วยกฎของการปะทะ และข้อตกลง ให้อยู่ร่วมกันที่ปราสาทตาเมือนธม มีทหารวันละ 5-7 นาย และต้องไม่มีอาวุธ

พล.ท.กนกก็ได้กล่าวต่อว่า ซึ่งวิธีการปฎิบัติของเราก็ชัดเจนแล้วว่าหาก กัมพูชารุกล้ำเข้ามา ประเทศไทยไม่ทำอะไร ประเทศไทยได้แต่ผลักดันให้ออกไป ประเทศไทยจะไม่ใช้อาวุธ จะใช้ก็ต่อเมื่อกัมพูชาใช้กับเราก่อน เพราะประเทศไทยมีกฎของการปะทะที่เป็นกฎล็อคไทยอยู่ ทำให้ทางกัมพูชาน่าจะคืบแบบนี้ทุกจุด

ยกตัวอย่างกัมพูชาก็มีพื้นที่ติดกับลาวแต่ทำไมถึงไม่ไปรุกล้ำพื้นที่ตรงนั้น ไม่ทะเลาะกับลาว ก็รองล้ำเข้าไปประเทศลาวยิงทันที ซึ่งไม่เหมือนกับประเทศไทย ไทยยึดถือแผนที่ 1:50,000 ถ้าเราเปลี่ยนกฎเป็นถ้าคุณเข้ามาเรายิงทันทีกัมพูชาก็จะไม่ค่อยกล้า