วันที่ 9 ต.ค. 2564 นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผวจ.มหาสารคาม พร้อมด้วย นายธรรมนูญ แก้วคำ รอง ผวจ.มหาสารคาม ร.ต.อ.ตนุพล พันธ์สวัสดิ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.มหาสารคาม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่บริเวณสะพานข้ามลำน้ำชี เขตรอยต่อ อ.เมืองมหาสารคาม – อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นจุดที่มีเศษวัชพืชกีดขวางทางระบายน้ำ ชะลอการไหลของน้ำ ทางจังหวัดได้ประสานแขวงทางหลวงมหาสารคาม นำเครื่องจักรเข้าดำเนินการกำจัดวัชพืชที่ติดอยู่ตอม่อสะพาน เพื่อให้น้ำไหลได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น และ กฟภ.มหาสารคาม ได้นำเสาไฟฟ้า ยาว12 เมตร มาทำคันขวางกั้นลำน้ำ ไม่ให้น้ำเอ่อล้นเข้าพื้นที่เพิ่ม
นายเกียรติศักดิ์ฯ ผวจ.มหาสารคาม เปิดเผยว่า แม่น้ำชีที่ไหลผ่าน จ.มหาสารคาม ระยะทาง 120 กม.ผ่านพื้นที่ 3 อำเภอ คือ โกสุมพิสัย กันทรวิชัย และ อ.เมืองมหาสารคาม จากข้อมูลปี 2554 มวลน้ำก้อนใหญ่ที่ไหลมา จะใช้เวลาประมาณ 5-7 วัน ก็จะผ่านเขต จ.มหาสารคาม ไป แต่ครั้งนี้มีความแตกต่าง เนื่องจากมี พนังกั้นน้ำแตกที่ อ.โกสุมพิสัย ทำให้น้ำทะลักเข้าพื้นที่การเกษตรเป็นบริเวณกว้าง หลังมวลน้ำก้อนใหญ่ผ่านไปแล้ว ก็จะดึงมวลน้ำเพิ่มเข้ามาด้วย น่าจะใช้เวลาเป็นสัปดาห์ ซึ่งขณะนี้ มวลน้ำระดับสูงสุด ได้ผ่านเขื่อนมหาสารคาม แล้ว และล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรใน 10 ตำบล 48 หมู่บ้าน อ.โกสุมพิสัย น้ำที่หนุนสูงทำให้คันกั้นน้ำฝั่งซ้ายลำน้ำชีขาด ระยะทางประมาณ 20 ม.น้ำทะลักเข้าพื้นที่เพิ่มเติมอีก ซึ่งเร่งซ่อมแซมแล้ว รวมถึงนำรถแบ็คโฮเข้าขุดลอกวัชพืชในจุดที่ขวางทางน้ำ เพื่อให้นำไหลได้สะดวก
ส่วนมวลน้ำก้อนใหญ่ คาดว่าจะเข้าเขต อ.กันทรวิชัย และ อ.เมืองมหาสารคาม ในวันพรุ่งนี้ ( 10 ต.ค.)โดย อ.กันทรวิชัย มีพื้นที่ได้รับผลกระทบแล้ว 3 ตำบล 10 หมู่บ้าน ,อ.เมืองมหาสารคาม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน จังหวัดได้เตรียมพร้อมรับมือ ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 33 เครื่อง ตามประตูระบายน้ำต่างๆ และเสริมคันดินพนังกั้นน้ำ หากพบว่าปริมาณน้ำด้านในสูงกว่าก็จะสูบออกทันที เพื่อป้องกันน้ำเอ่อล้นเข้าเขตชุมชน
สำหรับการช่วยเหลือ ได้แจ้งให้ทุกอำเภอ เร่งสำรวจประชากรที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงปศุสัตว์ เบื้องต้นได้นำถุงยังชีพ 300 ชุด ไปมอบให้กับราษฎรที่ บ.ม่วงใหญ่ อ.โกสุมพิสัย ที่ถนนเชื่อมหมู่บ้านถูกตัดขาด และขอรับการสนับสนุนถุงยังชีพเพิ่มเติมจากเหล่ากาชาดจังหวัด เครือข่ายมูลนิธิ ไปมอบให้กับผู้ประสบภัยเพิ่มเติม พร้อมสั่งการให้ อ.โกสุมพิสัย กันทรวิชัย และ อ.เมืองมหาสารคาม เร่งสำรวจความเสียหาย รวมถึงพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เพื่อให้การช่วยเหลือทันที พร้อมขอความร่วมมือประชาชนสองฝั่งลำน้ำชี พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม เร่งขนย้ายสิ่งของ และปศุสัตว์ ไว้ที่ปลอดภัย เพราะหากน้ำท่วมจะเข้าช่วยเหลือได้ยาก ต้องเตรียมพร้อมให้มากที่สุด โดยประสานขอความช่วยเหลือกับทุกหน่วยงานได้ทันที.
ภาพ/ข่าว พิเชษฐ ยากรี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.มหาสารคาม
