วันที่ 7 ก.ค.2568 เวลา 13.00 น. ที่กระทรวงสาธารณสุข เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย นำโดยนางสาวช่อขวัญ ช่อผกา ประธานเครือข่ายฯ นายประสิทธิ์ชัย หนูนวล เลขาธิการเครือข่าย พร้อมผู้ชุมนุมจำนวนมาก ได้เข้ายื่นหนังสือข้อเสนอเพิ่มเติมในการจัดระบบกัญชาไทย ต่อนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โดยมี นายธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ นพ.เทวัญ ธานีรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก รับมอบหนังสือ
ข่าวที่น่าสนใจ
ทั้งนี้นายประสิทธิ์ชัย กล่าวว่า ข้อเสนอครั้งนี้เป็นการขยายผลจากการยื่นหนังสือเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2568 เพื่อให้เกิดแนวปฏิบัติที่ชัดเจน 3 ข้อหลัก ดังนี้ 1. ยุติความพยายามนำกัญชากลับสู่บัญชียาเสพติด เพราะเป็นการผลักประชาชนออกจาระบบแล้วนำสู่การผูกขาดกัญชา 2. คงสถานะพืชสมุนไพรของกัญชา ให้เหมาะสมกับคุณสมบัติที่แท้จริง พร้อมรอพ.ร.บ.กัญชาออกมาควบคุมอย่างเหมาะสม ในระหว่างนี้เสนอให้ใช้ประกาศกระทรวงสาธารณสุขควบคุมและส่งเสริมอย่างสมดุล 3.ตั้งคณะกรรมการร่วมเพื่อจัดระบบอย่างรอบด้าน ได้แก่ ประกาศเรื่องการปลูก โดยกำหนดกติกาที่เป็นธรรมแก่เกษตรกร และเน้นความปลอดภัยของผู้บริโภค ,ประกาศเรื่องการบริโภค วางระบบการซื้อขายและการใช้อย่างเป็นธรรม , ประกาศเรื่องการคุ้มครองบุคคล ระบุชัดเจนถึงบุคคลที่ควรได้รับความคุ้มครอง และแนวทางปลูก ใช้ที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสาธารณชน
ขณะที่นายธนกฤต กล่าวว่า ตนไม่เคยปฏิเสธกัญชา ไม่ได้ห้ามปลูก ไม่ได้ห้ามสูบ และยืนยันว่ายังไม่มีวาระการนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด เพราะต้องดูเรื่องสังคมเป็นหลักว่ามีผลกระทบบอย่างนั้น ทั้งนี้ตนเห็นว่ากัญชายังคงมีส่วนดีในทางการแพทย์ แต่ยังมีคนที่มีผลกระทบอยู่บ้าง ดังนั้นจึงได้กำหนดกลุ่มคนที่มีความจำเป็นต้องใช้กัญชาในการรักษาโรค และถ้านายประสิทธิชัยมีความรู้เรื่องประโยชน์ เรื่องการใช้กัญชาก็ให้ไปปวารณาตัวเป็นหมอพื้นบ้าน สั่งจ่ายยาตามภ.ท.33 ขอย้ำว่าถ้าจะเป็นชาวกัญชาที่สมบูรณ์ได้ ก็ต้องเป็นชาวกัญชาที่มีเหตุผล ถ้าไม่มีเหตุผลก็คุยกันไม่รู้เรื่อง
ด้าน นพ.เทวัญ กล่าวว่า สำหรับข้อเรียกร้องที่เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาอยากให้กระทรวงสาธารณสุขออกเป็นกฎหมายระดับพระราชบัญญัติ และอิงตามฉบับที่นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขนั้น ก็ต้องยืนยันว่าขณะนี้เราได้ปรับแก้ไขร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชง อิงมาจากฉบับสมัย นพ.ชลน่านอยู่แล้ว ดังนั้นนายสมศักดิ์ เคลียร์ตั้งนานแล้ว อยู่ที่สำนักงานรัฐมนตรี รอเข้าครม. ถ้าครม.เห็นชอบก็ส่งไปที่คณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อตรวจสอบต่อ โดยสาระนั้นได้ปรับให้มีความรัดกุมและเข้มข้นว่าให้ใช้ทางการแพทย์เท่านั้น รวมทั้งมีโทษคนสูบสันทนาการ ซึ่งถือว่าผิดกฎหมาย มีโทษเข้มกว่าตัวประกาศสมุนไพรควบคุม คือจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน2 หมื่นบาท แต่คาดว่ายังต้องใช้เวลาอีกเป็นปี กว่ากฎหมายนี้จะออกมาบังคับใช้ ส่วนเหตุผลที่ไม่ได้กำหนดอายุผู้ที่สามารถใช้ได้ อย่างก่อนหน้านี้กำหนดว่าห้ามผุ้อายุต่ำกว่า 20 ปีใช้นั้น โดยปกติผู้ที่อายุต่ำกว่า 20 ปี แพทย์จะไม่สั่งให้ใช้อยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องไปเขียนกำกับไว้ แต่ถ้าในอนาคตศึกษาเพิ่มมากขึ้นว่า สามารถใช้ในเด็กต่ำกว่า 20 ปีได้ และจำเป็นต้องใช้ เราถึงได้เปิดตรงนี้เอาไว้
เมื่อถามว่า หากพ.ร.บ.ออกมาบังคับใช้แล้ว ยังจำเป็นต้องเอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติดหรือไม่ นพ.เทวัญ กล่าวว่า ถ้ามีพ.ร.บ.ออกมาบังคับใช้แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องให้กัญชาเป็นยาเสพติด แต่ถ้ายังมีเพียงประกาศที่กำกับดูแล ก็ยังถือว่ามีความเสี่ยงอยู่
ขณะที่บรรยากาศการชุมนุม กลุ่มผู้ชุมนุมได้สลับกันปราศรัย โดยนายประสิทธิ์ชัย ยังยืนยันว่า จะปักหลักค้างคืนแบบไม่มีกำหนดจนกว่าจะได้รับคำตอบที่ชัดเจนในข้อเรียกร้องทั้ง 3 ข้อจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ส่วนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่อนุญาตให้ปักหลักชุมนุมหลังเวลา 16.00 น. นั้น ตนยืนยันว่าในเรื่องนี้กลุ่มผู้ชุมนุมได้มีเอกสารแจ้งขออนุญาตการชุมนุมตามกฎหมายไว้แล้ว และการชุมนุมไม่ก่อให้เกิดความเสียหายหรือความเดือดร้อนต่อสถานที่ จึงยังถือว่าอยู่ในกรอบของข้อกฎหมายในการแสดงออก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
