นักวิเคราะห์ถอดบทเรียนจากข้อตกลงภาษีสหรัฐ-เวียดนาม

ผู้เชี่ยวชาญต่างวิเคราะห์ถึงฉากทัศน์ระบบการค้าโลกโดยถอดบทเรียนจากข้อตกลงการค้าสหรัฐ-เวียดนามที่เพิ่งบรรลุไปเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (2 กค.) พร้อมชี้ว่าไทยและมาเลเซียอาจได้รับผลกระทบเหมือนเวียดนาม

CNBC รายงานเมื่อวานนี้ (พฤหัสที่ 3 กค.) ว่าทุกสายตาต่างจับจ้องไปที่เวียดนามในขณะนี้หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศเมื่อวานนี้ (พุธที่ 2 กค.)ว่าสหรัฐได้บรรลุข้อตกลงการค้ากับเวียดนาม โดยเวียดนามยอมให้สหรัฐเก็บภาษีสินค้านำเข้า 20% และสินค้าสวมสิทธิ์ 40 % ขณะที่สินค้าสหรัฐเข้าเวียดนามได้รับการยกเว้นไม่ต้องจ่ายกำแพงภาษี

เซบาสเตียน แร็ดเลอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานด้านยุทธศาสตร์หุ้นยุโรปมองว่าจากข้อตกลงระหว่างสหรัฐและเวียดนาม ทำให้เชื่อได้ว่าข้อตกลงฉบับต่อไปของทรัมป์ กำแพงภาษีไม่น่าจะต่ำไปกว่า 20% เหมือนของเวียดนาม ถ้าไม่สูงกว่าก็เท่ากัน

ขณะที่มาร์ก วิลเลี่ยมส์ นักเศรษฐศาสตร์จากสถาบันเอเชียมองว่าหลังจากเวียดนาม การเจรจาของประเทศอื่นๆน่าจะง่ายขึ้น โดยบางประเทศอาจได้จ่ายภาษีที่ต่ำกว่าเวียดนาม เนื่องจากเวียดนามมีอำนาจต่อรองที่ต่ำมากเพราะมีระบบเศรษฐกิจที่พึ่งพาสหรัฐเป็นหลัก

ทางด้านผู้เชี่ยวชาญของซิตี้ เตือนว่าข้อตกลงของทรัมป์และเวียดนามอาจสร้างความวิตกให้กับหลายประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ในเอเชียอื่นๆที่มีเศรษฐกิจคล้ายเวียดนาม ที่โดนบีบให้ต้องจ่ายภาษีศุลกากรสูงกว่าภาษีพื้นฐานที่สหรัฐเรียกเก็บที่ 10% ถึงเท่าตัว แม้จะต่ำกว่าที่ทรัมป์กำหนดไว้ตอนแรกในวันที่ 2 เมษายนที่ 46% ก็ตาม แถมยังโดนเรียกเก็บภาษีสินค้าสวมสิทธิ์ถึง 40% ทำให้เชื่อว่าหลายประเทศในเอเชียอาจจำเป็นต้องยอมรับภาษีสินค้าสวมสิทธิ์ที่ 40% เท่ากับเวียดนามก็เป็นได้

ซึ่งนอกจากเวียดนามแล้ว ไทยและมาเลเซียอาจได้รับผลกระทบมากกว่าประเทศเอเชียอื่นๆ นอกจากนี้มาตรการภาษีตอบโต้ของทรัมป์ที่มีเป้าหมายเล่นงานจีนอาจลุกลามไปยังประเทศส่งออกรายอื่นๆ รวมทั้งเกาหลีใต้ที่มาตั้งโรงงานหลายแห่งในเวียดนามในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญบางส่วนคาดการณ์หลังจากทำข้อตกลงกับเวียดนามเสร็จสิ้น ข้อตกลงกับประเทศอื่นน่าจะทยอยตามมาในเร็วๆนี้ และดูเหมือนว่าทรัมป์จะเริ่มยอมรับกับกรอบข้อตกลงแบบกว้างๆ แทนที่จะเป็นข้อตกลงอย่างเต็มรูปแบบ เนื่องจากเส้นตายการผ่อนปรนภาษีที่กำหนดไว้วันที่ 9 กรกฎาคมใกล้จะถึงเต็มที และทรัมป์ก็ประกาศจะไม่ขยายออกไป ทั้งนี้คาดว่าอินเดียจะเป็นประเทศต่อไปที่อาจบรรลุข้อตกลงกับสหรัฐ แต่อินเดียก็ยังติดอุปสรรคที่ภาคการเกษตร เพราะหากปล่อยให้สินค้าเกษตรสหรัฐเข้าสู่ตลาดอินเดียแบบไม่มีเงื่อนไข ก็จะกระทบต่อเกษตรกรอินเดียและอาจเจอกับการต่อต้านอย่างแน่นอน

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สวธ. จัดประกวด Cosplay World Thailand 2025 หนุนคนรุ่นใหม่ แสดงพลัง Soft Power ผ่านศิลปะไทยประยุกต์ ต่อยอดสู่อาชีพในอนาคต
หลายหน่วยงาน เข้าช่วยเหลือ เด็กออทิสติก หลังแม่ผูกคอหนีปัญหาหนี้สิน ก่อนฟื้นคืนชีพต่อหน้าเจ้าหน้าที่
ด่านผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน อ.คลองหาด จ.สระแก้ว เงียบเหงา คนกัมพูชาทำงานในไทยรอดูสถานการณ์หลังไทยผ่อนปรน
"กรมบังคับคดี" ร่วมงานมหกรรมการเงินหาดใหญ่ MONEY EXPO 2025 เดินหน้าจัดงานไกล่เกลี่ยหนี้ ช่วยประชาชนเข้าถึงความยุติธรรมอย่างเป็นธรรม
"นิพนธ์" สวนเดือดผู้บริหารปชป. ลั่นเลือดแท้รับได้มติพรรค แต่รับไม่ได้พวกใช้อำนาจสั่ง ขู่ไล่คน เพื่อบังคับยัดเยียด ยอมรับมติโจร
RBSO ร่วมกับ สวธ. จัดการแสดงคอนเสิร์ต Royal Concert “A Celebration of Thai Masters” เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี
"วิโรจน์" หยันสุด "พิชัย" บินเจรจาภาษีการค้าสหรัฐไร้ข้อสรุป หยันเหมือนมวยโดนจระเข้ฟาดหาง จะฟื้นตัวทันเดดไลน์หรือไม่
ปิดประตูตีมาร! หยุดอนุญาตธุรกิจรักษ์โลกจอมปลอม ปูพรม ฟาดรีไซเคิล EEC เถื่อน
ลือ ! เปิดชายแดนหาดเล็ก 7 หรือ 10 กรกฎาคมนี้
"เอกนัฏ" เอาจริง จัดการบริษัทลักลอบนำกากอุตสาหกรรมม ไปฝั่งใต้ดินในพื้นที่โซน EEC

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น