ศาลอาญา สั่งจำคุก 3 ปี ไม่รอลงอาญา “บังเอิญ” 3 นิ้วหมิ่นเบื้องสูง ศาลฎีกา ยืนยกคำร้อง “บัสบาส” ขอประกันตัว แม้อดอาหารนาน 44 วัน – Top News รายงาน
เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 เวลา 09.00 น. ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในคดีของ “บังเอิญ” (สงวนชื่อสกุล) ศิลปินอิสระชาวขอนแก่นวัย 26 ปี ในข้อหามาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) หลังถูกกล่าวหาโพสต์รูปภาพตนเอง ใช้มือซ้ายถือรองเท้าหันไปทางพระบรมฉายาลักษณ์ เมื่อวันที่ 29 ก.ค. 2566 โดยมี อานนท์ กลิ่นแก้ว แกนนำกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) เป็นผู้กล่าวหาในคดีนี้
ที่มาของคดีนี้ ผู้กล่าวหาอ้างว่าเมื่อวันที่ 29 ก.ค. 2566 เวลาประมาณ 14.30 น. ได้เปิดเฟซบุ๊กของบังเอิญดู พบว่าบังเอิญได้โพสต์รูปภาพตนเองขณะยืนอยู่ใกล้แท่นด้านหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ของรัชกาลที่ 10 และพระราชินี โดยใช้มือซ้ายถือรองเท้า จำนวน 1 ข้าง หันไปทางบริเวณด้านหน้าพระบรมฉายาลักษณ์
ผู้กล่าวหาอ้างว่า ตนเองและประชาชนทั่วไปในราชอาณาจักร ที่พบเห็นรูปภาพดังกล่าว มีความเห็นว่าผู้ต้องหามีเจตนาที่จะใช้รองเท้าชี้ไปที่พระบรมฉายาลักษณ์ เป็นการกระทำที่มิบังควร จาบจ้าง ล่วงเกิน หรือกระทำให้ระคายเคืองเบื้องยุคลบาท อันเป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ดูหมิ่น ใส่ความ หมิ่นประมาท แสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ ทำให้เสื่อมเสียพระเกียรติยศ ชื่อเสียง ทรงถูกดูหมิ่นและถูกเกลียดชัง ทำให้ประชาชนทั่วไปเสื่อมศรัทธา ไม่เคารพสักการะ
บังเอิญเข้ารับทราบข้อกล่าวหาที่ สน.ชนะสงคราม ในวันที่ 10 พ.ย. 2566 โดยให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ในวันดังกล่าว พนักงานสอบสวนยังนำตัวไปขอฝากขังที่ศาลอาญา อ้างว่าเป็นคำสั่งของผู้บังคับบัญชา แม้ผู้ต้องหาจะมาพบตามหมายเรียกก็ตาม ก่อนศาลจะรับฝากขัง และให้ประกันตัว โดยให้วางหลักทรัพย์ 90,000 บาท
ก่อนอัยการมีคำสั่งฟ้องคดีนี้ต่อศาลอาญา เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2567 และต้องวางหลักทรัพย์ประกันตัวเพิ่มเติม 200,000 บาท
ในชั้นศาล บังเอิญยืนยันให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ศาลอาญานัดสืบพยานโจทก์และจำเลยทั้งสิ้น 3 นัด ในระหว่างวันที่ 20-22 พ.ค. 2568 โดยฝ่ายโจทก์ได้นำพยานเข้าสืบทั้งสิ้น 13 ปาก แยกเป็นผู้กล่าวหาและสมาชิกกลุ่ม ศปปส. 3 ปาก, พยานนักวิชาการฝ่ายอนุรักษ์นิยมที่มาให้ความเห็น 4 ปาก, บุคคลทั่วไปที่มาให้ความเห็น 1 ปาก, เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน 4 ปาก และพนักงานสอบสวน 1 ปาก
ส่วนฝ่ายจำเลยได้นำพยานเข้าสืบทั้งสิ้น 2 ปาก คือตัวจำเลยอ้างตนเองเป็นพยาน และพยานนักวิชาการ 1 ปาก
ฝ่ายจำเลยต่อสู้ในคดีว่า เป็นผู้โพสต์รูปภาพและข้อความดังกล่าวจริง แต่ไม่ได้มีเจตนาและจุดมุ่งหมายตามที่โจทก์ฟ้อง ภาพแต่ละภาพนั้นสามารถตีความได้อย่างหลากหลาย ทั้งยังไม่สามารถที่จะเข้าใจถึงเจตนาที่แท้จริงได้ มุมมองของภาพจะขึ้นอยู่กับพื้นเพทางความคิดของแต่ละคน และการโพสต์ภาพดังกล่าวในวันที่ 28 ก.ค. 2566 ซึ่งตรงกับวันเฉลิมฯ ก็ไม่ได้มีเจตนาพิเศษแต่อย่างใด มองว่าเป็นวันธรรมดาวันหนึ่งที่ทุกคนสามารถโพสต์ภาพอะไรก็ย่อมได้
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนระบุอีกว่า เห็นว่าจำเลยมีเจตนาชัดแจ้งว่าจำเลยกระทำลงไปเพราะมีเจตนาดูหมิ่น พยานหลักฐานของจำเลยนั้นเป็นเพียงขอแก้ตัวเพื่อให้พ้นผิดเท่านั้น พิพากษา จำคุก 3 ปี โดยไม่รอการลองโทษ ขณะนี้อยู่ระหว่างประกันตัวในชั้นอุทธรณ์