"ทักษิณ" มาแล้ว ฟังศาลสืบพยานโจทก์นัดแรกคดี 112-พ.ร.บ.คอมฯ เข้าประตูข้าง เลี่ยงเจอสื่อมวลชน
ข่าวที่น่าสนใจ
1 ก.ค.2568 เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ผ่านมา ศาลอาญานัดสืบพยานหลักฐานนัดแรกในคดีหมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงในราชอาณาจักร กรณีให้สัมภาษณ์สื่อของเกาหลีใต้เมื่อปี 2558
สำหรับการสืบพยานหลังจากนี้มีทั้งหมด 7 นัด โดยฝ่ายโจทก์นัดในวันที่ 1, 2 และ 3 ก.ค.2568 และนัดสืบพยานฝ่ายจำเลยจะเริ่มในวันที่ 15, 16, 22 และ 23 ก.ค.2568
โดยบรรยากาศแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของนายทักษิณ ให้สัมภาษณ์ถึงการนัดสืบพยานโจทย์นัดแรกว่า ศาลได้นัดสืบพยานแบบต่อเนื่องเป็นเวลา 3 วันติดต่อกัน คือ วันที่ 1 กรกฎาคม ถึงวันที่ 3 กรกฎาคม 2568 โดยฝั่งโจทก์มีพยานทั้งหมด 10 ปาก จำเลย 14 ปาก ซึ่งการสืบพยานมีทั้งหมด 7 นัด แต่สามารถเสร็จก่อน 7 นัดได้ ขึ้นอยู่กับกระบวนการของศาล และนัดสุดท้ายในการสืบพยานคือวันที่ 23 กรกฎาคม
สำหรับ อัยการที่เป็นโจทก์ฟ้องนายทักษิณนั้น ถือว่าวันนี้เป็นนัดแรก ใน 3 นัด ที่โจทก์นำพยานหลักฐานขึ้นสืบพยานในข้อหาความผิดมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ โดยฝ่ายโจทก์จะนำพยาน 3 ปากที่ได้นัดไว้จาก 10 ปากมาขึ้นเบิกความ และทนายฝ่ายจำเลยถามค้าน ส่วนกระบวนการพิจารณาก็มีเพียงเท่านี้ เพราะยังไม่ถึงเวลาที่นายทักษิณจะขึ้นมาเบิกความ
ส่วนนายทักษิณจะต้องเดินทางมาที่ศาลอาญาทุกรอบเลยหรือไม่ นายวิญญัติ ระบุว่า คดีนี้ เป็นคดีที่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว และได้รับการประกันตัวระหว่างพิจารณา ซึ่งนายทักษิณจะต้องมาปรากฏตัวต่อศาล เพราะในวันนี้เป็นนัดแรก ส่วนหลังจากนี้จะต้องดูว่าศาลจะออกข้อกำหนดในการพิจารณาคดีว่าอย่างไร เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย และราบรื่นต่อการพิจารณาคดี
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการพิจารณาลับหลังจำเลยหรือไม่ นายวิญญัติ กล่าวว่า ตามประมวลกฎหมายพิจารณาคดีอาญา การจะขอสืบพยานลับหลัง จะต้องมีอัตราโทษไม่เกิน 10 ปี แต่คดีนี้สูงกว่า 10 ปี และอาจเป็นข้อยกเว้น แต่ถ้าหากจำเป็น และจำเลยมีทนายอยู่แล้ว ก็ขอพิจารณาลับหลังได้ พร้อมยืนยันว่า เบื้องต้นนายทักษิณจะขอรับเข้าการพิจารณาคดีทุกรอบ หากไม่ติดภารกิจ
ส่วนที่ก่อนหน้านี้ เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ประเด็นที่ติดใจคือเรื่องการให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างชาติว่า อาจจะมีการแปลผิด ยังคงติดใจในประเด็นนี้อยู่หรือไม่ นายวิญญัติ กล่าวว่า ภายใน 1-2 วัน จะมีการพิจารณาเรื่องคลิปการสัมภาษณ์อย่างแน่นอน และจะทำให้เห็นว่าคลิปวิดีโอดังกล่าวน่าเชื่อถือหรือไม่ และมีการเก็บพยานหลักฐานมาได้อย่างไร สิ่งเหล่านี้เป็นขั้นตอนในการพิสูจน์หลักฐาน ที่เป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ และอิเล็กทรอนิกส์
เมื่อถามว่าศาลจะให้น้ำหนักในเรื่องใดในการพิจารณาคดี นายวิญญัติ เผยว่า ก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของท่าน ไม่สามารถก้าวล่วงท่านได้ ดังนั้นการพิจารณาคดีอาญามีหลักสำคัญ หลักเดียว จำเลยกระทำความผิดตามฟ้อง หรือไม่มีพยานหลักฐาน มีน้ำหนัก เพียงพอหรือไม่
ต่อมา เวลา 09:10 น. มีรายงานว่า นายทักษิณเดินทางมาถึงที่ศาล โดยเข้าประตูด้านข้างเพื่อขึ้นไปยังห้องพิจารณาคดี ก่อนที่รถ Mercedes-Maybach สีดำ – เงิน ทะเบียน ธศ 267 กทม. ของนายทักษิณจะเข้ามาจอดบริเวณด้านข้างของศาล ที่มีสื่อมวลชนปักหลักรอทำข่าวอยู่
นอกจากนี้ ยังมีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เดินทางมาที่ศาลอาญา ด้วยเช่นเดียวกัน แต่ไม่ได้มีการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมอีกว่า บริเวณด้านหน้าทางขึ้นศาลอาญา มีประชาชนจำนวน 4-5 คน สวมเสื้อยืดลายธงชาติไทย และเขียนคำว่า “คนไทยไม่ขายชาติ” มายืนรอเช่นเดียวกัน ซึ่งจากการสอบถามจากกลุ่มบุคคลดังกล่าว ตอบว่า “ตั้งใจเดินทางมาที่ศาลอาญาหลังจากรู้กำหนดการว่านายทักษิณจะเดินทางมาฟังการสืบพยานในนัดแรก หวังว่านายทักษิณ จะเห็นข้อความที่อยู่บนเสื้อ”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง