นายกฯ นำประชุมปราบอาชญากรรม พอใจมาตรการเข้ม ทำกัมพูชา รายได้ลดลง 3 หมื่นล้าน
ข่าวที่น่าสนใจ
23 มิ.ย. 2568 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมติดตามมาตรการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ, พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม, นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. และตัวแทนกองทัพ รวมถึงหน่วยงานด้านความมั่นคง เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วย
นางสาวแพทองธาร กล่าวก่อนการประชุมว่า ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติส่งผลต่อพี่น้องประชาชนเป็นวงกว้าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ สังคม และกระทบถึงความเชื่อมั่นในระดับนานาชาติ อย่างที่เราดำเนินการเรื่องนี้มาระยะหนึ่งแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการปราบปรามแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ และมาตรการต่าง ๆ ทำให้คดีการฟ้องร้องถูกหลอกเรื่องคอลเซ็นเตอร์ลดลงอย่างเห็นได้ชัด และการที่สหประชาชาติได้ข้อสรุปออกมาว่า ทางกัมพูชาเป็นอาชญากรรมไซเบอร์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งเราก็ทราบดี เราก็เพิ่มมาตรการในเรื่องนี้ให้หนักแน่นขึ้น เพราะเป็นส่วนรวมอยู่แล้ว เนื่องจากมีคดีมากมาย เป็นถึงอาชญากรรมระดับโลก และส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก เราเน้นย้ำในเรื่องนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดนที่มีปัญหาต้องปราบปรามอย่างเด็ดขาด ถ้ามีคดีไหนที่รู้สึกว่าสามารถต่อยอดได้อีก ต้องสกัดกั้นทุกวิถีทาง
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า หน่วยงานความมั่นคงตลอดจนกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ดำเนินการนโยบายที่ผ่านมาของรัฐบาลอย่างแข็งขัน ทำให้ตัวเลขลดลงในทุกมิติ และตัวเลขล่าสุดที่มีการรายงานออกมาก็บอกว่าฝั่งกัมพูชาเสียรายได้ โดยภาพรวมประมาณ 30,000 ล้านบาท ส่งผลกระทบต่ออาชญากรรมข้ามชาติตรงนั้นเป็นอย่างมาก ซึ่งเรื่องนี้ขอให้ทุกคนทำอย่างต่อเนื่อง และเราจะไม่หยุดเพียงแค่นี้ จะทำให้การปราบอาชญากรรมข้ามชาติเข้มข้นมากยิ่งขึ้น การที่เขาเสียรายได้มามากเท่าไหร่ ก็แปลว่าประชาชนของเราปลอดภัยมากขึ้นเท่านั้น เพราะฉะนั้น เราต้องทำเรื่องนี้อย่างเต็มที่
ความตั้งใจของรัฐบาลคืออยากให้ประเทศไทย และพี่น้องประชาชนอยู่ในบ้านที่อบอุ่น หรืออยู่ในประเทศของเราที่ปลอดภัย เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก อยากให้เจ้าหน้าที่ทุกระดับเป็นหูเป็นตากับพี่น้องประชาชน และให้ทุกคนรู้สึกปลอดภัยอีกครั้ง จากตัวเลขที่ลดลงอยู่แล้ว ก็ขอให้ลดลงแบบนี้ไปเรื่อย ๆ พร้อมขอบคุณทุกภาคส่วน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม นายกรัฐมนตรี และคณะจะแถลงผลการประชุมด้วยตัวเอง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น