No data was found

ชัยวุฒิ เตรียมหารือ ศบค.ลดขั้นตอนตรวจคัดกรองโควิดก่อนเข้าภูเก็ต

กดติดตาม TOP NEWS

ภูเก็ต 8 ต.ค.- "ชัยวุฒิ" เตรียมหารือ ศบค.ลดขั้นตอนการตรวจคัดกรองเชื้อโควิด ก่อนเข้าภูเก็ต ทบทวนใช้ ATK แทน RT-PCR เพราะราคาถูก ไม่เป็นภาระนักท่องเที่ยว เสนอให้มีคอมมานด์ เซ็นเตอร์ เป็น One Country One Platform One Country One Application มีแค่ 1 แอปพลิเคชัน เพื่อลดความซ้ำซ้อนข้อมูลแต่ละหน่วยงาน มั่นใจ ระบบดิจิทัลแอปติดตามตัวนักท่องเที่ยว ชี้ "ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์" มาถูกทาง 

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า วันนี้ได้ลงพื้นที่มาตรวจติดตามโครงการภูเก็ต sandbox จากการรับฟังสรุปรายงานจากผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และภาคเอกชนทุกภาคส่วนแล้ว ทำให้เกิดความมั่นใจว่าเราเดินมาถูกทางแล้ว จากตัวเลขข้อมูลต่าง ๆ ที่ได้รับยืนยันว่าภูเก็ตแซนด์บอกซ์เดินหน้าได้อย่างดีและจะขยายผลไปจังหวัดข้างเคียงคือพังงาและกระบี่เร็ว ๆ นี้ โดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลระบบ ICT สมัยใหม่มาใช้ในการติดตามตัวนักท่องเที่ยวและควบคุมมาตรการต่าง ๆ ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพโดยเชื่อว่าสิ่งที่ได้เดินหน้าโครงการมาแล้วทำให้เกิดความมั่นใจแก่คนไทยว่าเราสามารถเปิดประเทศได้ตามนโยบายนายกรัฐมนตรีที่เคยพูดไว้ว่าจะเปิดประเทศภายใน 120 วันซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เศรษฐกิจในประเทศเดินหน้าได้ต่อไปและกลับมาใช้ชีวิตปกติให้ได้เร็วที่สุดขอให้คนไทยทุกคนเชื่อมั่น

ต่อข้อถามว่าปัญหาขั้นตอนการตรวจคัดกรองเชื้อโควิคก่อนเข้าเมืองภูเก็ตที่มีความยุ่งยากจะมีการปรับขั้นตอนให้สะดวกรวดเร็วขึ้นง่ายต่อการเข้ามาท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตหรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งยังคงต้องระมัดระวังควบคุมมาตรการการเดินทางเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อการระบาดของโควิด ซึ่งมีความจำเป็นที่จะต้องตรวจหาเชื้อด้วยชุด Antigen Test Kit หรือ ATK และติดตามเรื่องการฉีดวัคซีนให้ครบก่อนจะเดินทาง แต่สุดท้ายจะต้องมีการผ่อนปรนมาตรการซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตจะมีการหารือต่อไปว่าจะมีมาตรการต่าง ๆ ออกมาเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดให้ดียิ่งขึ้น และเรื่องการตรวจแบบ rt-pcr กับนักท่องเที่ยวที่ค่อนข้างราคาสูงมากต่อครั้งอยู่ที่ 2,600 บาท ถ้าตรวจ 2 ครั้งก็อยู่ที่ 5,200 บาทแล้วและยังต้องมีค่าประกันสุขภาพด้วย ซึ่งถือเป็นเงินจำนวนมากเป็นภาระต่อนักท่องเที่ยวทำให้คนไม่อยากมาเที่ยว จึงคิดว่าน่าจะลองทบทวนการใช้ ATK แทน RT-PCR ได้หรือไม่ เนื่องจากประเทศไทยมีการยอมรับเรื่องการใช้ ATK แล้ว และ Rapid test ซึ่งมีความสะดวกและราคาถูกกว่าประมาณ 100-200 บาท ซึ่งตนจะนำเสนอต่อที่ประชุมศบค.ต่อไปเนื่องจากได้ข้อมูลรายงานมา และหลังจากนี้หากมีการขยายพื้นที่ท่องเที่ยวไปหลายจังหวัดมากขึ้นปัญหาคือการเชื่อมโยงข้อมูลนักท่องเที่ยวกันระหว่างจังหวัด เชื่อมโยงมาตรการให้เป็นเนื้อเดียวกันควรจะต้องมีคอมมานด์ เซ็นเตอร์ เป็นศูนย์รวมข้อมูลที่เดียว โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมาเชื่อมโยงข้อมูลให้เป็นหนึ่งเดียวกัน

“คาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวภูเก็ตประมาณวันละ 10,000 คน ประกอบกับการโปรโมทการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นและผ่อนปรนมาตรการและลดค่าใช้จ่ายก็จะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวมาภูเก็ตได้มากขึ้นและหากมีการขยายแหล่งท่องเที่ยวให้ข้ามไปถึงพังงาและกระบี่ด้วย จะยิ่งสร้างรายได้ให้กิจการท่องเที่ยวและโรงแรม ที่พักต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น” นายชัยวุฒิ กล่าว

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า เรื่องการเชื่อมโยงข้อมูล อยากให้ประเทศไทยเป็น One Country One Platform One Country One Application มีแค่ 1 แอปพลิเคชันเนื่องจากพบปัญหาว่าแต่ละหน่วยงานมีแอปของตัวเองทำให้นักท่องเที่ยวต้องโหลดแอปฯหลายแอป และข้อมูลไม่เชื่อมโยงกัน ต้องลดความซ้ำซ้อน และอำนวยความสะดวกให้ประชาชนมากยิ่งขึ้น เชื่อว่าจะมีการขยายพื้นที่ในการเปิดรับการท่องเที่ยวเพิ่มเติมไปหลายพื้นที่รวมถึงจังหวัดชลบุรี ไป อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี รวมถึงกรุงเทพฯ ที่จะเปิดรับการท่องเที่ยวได้ ซึ่งภูเก็ตเปิดให้ดื่มแอลกอฮอล์ในร้านได้แล้วซึ่งต้องมาติดตามกับผู้ว่าราชการจังหวัดว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งเชื่อว่าจะไม่มีการแพร่ระบาดโควิด จะมีมาตรการอื่นคอยระวังดูแลอยู่แล้วซึ่งถือเป็นวิถีชีวิตของนักท่องเที่ยวเมื่อมาพักผ่อนก็จะมีการดื่มสังสรรค์กันบ้างเพื่อกระตุ้นให้คนอยากมาเที่ยวมากขึ้น นอกจากนี้ระบบควบคุมการติดตามตัวนักท่องเที่ยว หากนักท่องเที่ยวโหลดแอปหมอชนะแล้วแต่มีการหนีออกจากพื้นที่ sandbox ก่อนเวลา 14 วันระบบจะสามารถรู้ได้ว่านักท่องเที่ยวคนใดหนีเนื่องจากมีการติดตั้งระบบติดตามตัวทุกคน รวมถึงมีการรายงานข้อมูลกลุ่มเสี่ยงที่ใกล้ชิดผู้ติดเชื้อโควิดสามารถติดตามตัวได้เช่นกัน

ด้านนายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ระบบรักษาความปลอดภัยมีกล้อง CCTV ระบบตรวจจับใบหน้าบริเวณด่านทางเข้าเชื่อมโยงความปลอดภัยด้านต่าง ๆ สามารถตรวจจับใบหน้าและสามารถควบคุมตัวผู้กระทำผิดได้หลายคดีมาแล้ว ซึ่งระบบทั้งหมดสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวได้ทางเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต จะเกิดความปลอดภัย

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ชาวบ้านร้องเรียน น้ำเสียทะลักขึ้นจากพื้น ส่งกลิ่นเหม็น อวด นทท.
รู้จัก "จิราพร" รมต.ป้ายแดง DNA "สินธุไพร" อดีต สส.เสื้อแดง ผลงานแน่นไม่แพ้ใคร
"ครอบครัว" สุดเศร้าไร้ปาฎิหาริย์ ร่วมรับร่าง "ดาบตาร์" กลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด
"Thailand Biennale" Chiang Rai 2023 ฉลองความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ จัดพิธีมอบธงสัญลักษณ์ให้ จ.ภูเก็ต เจ้าภาพจัดงานในปี 2025
"ท่านใหม่" ห่วงใยสุขภาพ "บิ๊กจิ๋ว" เตรียมเข้าเยี่ยมพร้อมอวยพรวันเกิด 2 พ.ค.นี้
เปิดโปรไฟล์ "เผ่าภูมิ" ขุนพลเศรษฐกิจเพื่อไทย รมช.คลังคนใหม่
สวนสัตว์เปิดเขาเขียว ชวนชมโชว์ช้างว่ายน้ำและเลือกซื้อสินค้าธงฟ้าราคาประหยัดเพื่อแรงงาน
“บิ๊กโจ๊ก” ย้ำไม่ได้สั่งลูกน้องปลดป้ายชื่อหน้าห้องทำงานสตช. ให้ขนแต่ของจำเป็นออกมาเท่านั้น
ล่าระทึก รถต้องสงสัยปิดไฟหน้าขับย้อนศรก่อนถึงด่าน ตำรวจต้องขับประกบเพื่อทำการสกัด สุดท้ายพบเสียหลัก ลงหลุมตอม่อเจ็บระนาว 7 คน คาดเป็นขบวนการขนแรงงานต่างด้าวข้ามชาติ
"ปานปรีย์" เปิดใจลาออกรมว.ต่างประเทศ มั่นใจผลงานรองนายกฯ ทำประโยชน์ชาติ แทงกั๊กอยู่ร่วมเพื่อไทยต่อไป

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น