“ทักษิณ” ส่ง “ทนาย” มาศาลฎีกา นัดไต่สวน ข้อเท็จจริงปมรักษาตัวชั้น 14 “ชาญชัย-หมอตุลย์” ร่วมฟังด้วย

"ทักษิณ" ส่ง "ทนาย" มาศาลฎีกา นัดไต่สวน ข้อเท็จจริงปมรักษาตัวชั้น 14 "ชาญชัย-หมอตุลย์" ร่วมฟังด้วย

“ทักษิณ” ส่ง “ทนาย” มาศาลฎีกา นัดไต่สวน ข้อเท็จจริงปมรักษาตัวชั้น 14 “ชาญชัย-หมอตุลย์” ร่วมฟังด้วย

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

13 มิ.ย.2568 ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ศาลได้นัดพร้อมหรือนัดไต่สวน กรณีการเข้ารับการรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นไปตามระเบียบกฎหมายหรือไม่ และมีการกระทำที่ขัดต่อกฎหมายและระเบียบของราชทัณฑ์หรือไม่

โดยเวลาประมาณ 08.30 น. นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของนายทักษิณ เดินทางมาที่ศาล พร้อมทีมทนาย 4-5 คน ซึ่งไม่ปรากฏในทักษิณเดินทางมาศาลด้วยแต่อย่างใด

 

ทั้งนี้นายวิญญัติ ให้สัมภาษณ์ว่า เป็นการนัดของศาลฎีกาฯ เพื่อจะดำเนินการกระบวนการไต่สวน หรือจะดำเนินการกระบวนการใดต้องรอดู ตนในฐานะทนายความผู้รับมอบอำนาจของนายทักษิณก็มาทำหน้าที่ ซึ่งเป็นเรื่องที่เราจะดูกันว่ากระบวนการพิจารณาคดีจากนี้ไป จะกำหนดหรือวางแนวทางอย่างไร ตนยังไม่สามารถตอบได้ ส่วนเรื่องรายละเอียดต่างๆ ขอให้สัมภาษณ์หลังจากที่เสร็จกระบวนการก่อน เนื่องจากว่ายังไม่ทราบว่าจะมีกระบวนการอย่างไรบ้าง แต่การเป็นทนายความมาพอจะคาดเดาได้

ส่วนในคดีนี้มีโอกาสที่นายทักษิณจะมาหรือไม่ นายวิญญัติ กล่าวว่ายังตอบไม่ได้ และ การพิจารณาวันนี้ไม่น่านาน ซึ่งเป็นกระบวนการที่ต้องดูว่าเราจะทำคำชี้แจงอย่างไร และหน่วยงานต่างๆบุคคลที่ได้รับหมายได้ยื่นคำชี้แจงมาหรือไม่ ต้องมาดูว่ามีใครยื่นมาบ้าง หลังจากนั้นศาลจะให้โอกาสทุกฝ่ายในการชี้แจง

บรรยากาศที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในเช้าวันนี้ นอกจากทนายความของนายทักษิณแล้ว ยังพบว่ามีนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ นายตุลย์ สิทธิสมวงศ์ และนายนิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา เดินทางมาที่ศาลด้วย

สำหรับคดีดังกล่าวสืบเนื่องจากนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เมื่อวันที่ 10 ม.ค.2568 ขอให้ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้นายทักษิณ ที่ถูกตัดสินจำคุก 8 ปีแต่ได้พระราชทานอภัยลดโทษเหลือ 1 ปี และเข้ารับการรักษานอกเรือนจำโดยไม่ได้รับอนุญาตจากศาล อาจขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 89 มาตรา 89/2 (1) (2) และมาตรา 246 และไม่อาจอ้างกฎกระทรวง เรื่องการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ พ.ศ.2563 ลงวันที่ 25 ก.ย.2563 ที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 55 วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ พ.ศ.2560 เพราะขัดต่อบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา

โดยเมื่อวันที่ 30 เม.ย.2568 ศาลพิเคราะห์คำร้องและเอกสารท้ายคำร้องแล้ว เห็นว่า ผู้ร้องไม่ใช่คู่ความในคดี อีกทั้งไม่ใช่ผู้ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหาย จากการบังคับโทษจำคุกแก่จำเลยในคดีดังกล่าว เมื่อผู้ร้องไม่ใช่ผู้มีส่วนได้เสีย ในชั้นบังคับตามคำพิพากษา จึงไม่มีสิทธิยื่นคำร้องต่อศาลนี้

แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อความปรากฏต่อศาลว่า อาจมีการบังคับตามคำพิพากษาที่ไม่เป็นไปตามหมายจำคุก เมื่อคดีถึงที่สุดของศาลนี้ ศาลย่อมมีอำนาจไต่สวนและมีคำสั่งตามที่เห็นสมควร จึงเห็นสมควรส่งสำเนาคำร้องให้โจทก์และจำเลย ในคดีหมายเลขแดงที่ อม.4/2551 จำเลยที่ 1 ในคดีหมายแดงที่ 10/2552 และจำเลยในคดีหมายเลขแดงที่ อม.5/2551 ของศาลนี้ แล้วให้โจทก์และจำเลยดังกล่าวแจ้งต่อศาลว่ามีข้อเท็จจริงตามที่กล่าวอ้างในคำร้อง หรือไม่ อย่างไร กับสำเนาคำร้องให้ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อให้ชี้แจงข้อเท็จจริงประกอบการพิจารณาของศาลว่าการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการบังคับโทษจำคุกแก่จำเลยเป็นไปตามหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดของศาล หรือไม่ อย่างไร

ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 6 โดยให้โจทก์ จำเลยดังกล่าว ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ แจ้งให้ศาลทราบ พร้อมกับแสดงหลักฐานที่เกี่ยวข้องภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับทราบคำสั่งศาล สำหรับกรณีที่ผู้ร้องขอให้เพิกถอนคำสั่งศาลนั้น เมื่อผู้ร้องไม่มีสิทธิยื่นคำร้องต่อศาล กรณีจึงไม่จำต้องวินิจฉัยคำขอดังกล่าว

ขณะที่นายชาญชัย เปิดเผยว่า วันนี้ก็จะเข้ามาฟังการไต่สวน ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมอยากจะแจ้งให้ศาลทราบทีหลัง เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการหาข้อเท็จจริงเพราะตนได้ส่งคำร้องพร้อมข้อเท็จจริงมาให้ศาลเยอะมาก ก็ต้องรอดูคำสั่งศาลอีกที ซึ่งวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา เรามาส่งรายละเอียดคำร้องไว้ อย่างไรก็ตามการไต่สวนวันนี้ศาลให้ตนเป็นคนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่ในขณะที่ผู้ร้องและศาลนำสำนวนของตนมาพิจารณา ตนอยากจะฟังว่ามีการแก้ไขอะไรหรือเปล่า หากไม่ตรงจะได้บันทึกให้ศาลทราบคดีวันนี้จะทำให้ขบวนการเป็นกฎหมาย เป็นระบบ บ้านเมืองจะได้มีขื่อมีแป คนอื่นจะได้ไม่มาถูกดูถูกเรา

ส่วนที่ นายวิญญัติ ทนายของนายทักษิณ ยื่นขยายระยะเวลาส่งเอกสารก็เป็นสิทธิ์ของเขา หมายที่ศาลส่งไปที่บ้านนายทักษิณอาจจะล่าช้ากว่ากำหนดจึงใช้สิทธิ์ตรงนี้ได้ โดยหลักแล้วศาลจะให้ความเป็นธรรมกับจำเลยมาก ไม่มีอะไรผิดปกติ

 

ทุกอย่างเป็นดุลย์พินิจของศาลที่จะใช้เวลาในการนัดคำสั่ง แล้วคดีนี้ไม่ใช่คดีใหม่ เป็นคดีที่ศาลเคยตัดสิน แล้วหน่วยงานเกี่ยวข้องจะปฏิบัติตามคำสั่งตัดสินไปแล้ว มีการจำคุกตามหมายศาลจริงหรือไม่ เป็นการหาความจริงในการจำคุก ไม่ต้องเริ่มคดีอะไรใหม่แค่หาข้อเท็จจริงเพิ่มเติม และศาลให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องชี้แจง ศาลก็จะพิจารณาว่าจริงหรือไม่ ท่านจะให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ส่วนการลงโทษของแพทย์จะมีส่วนเชื่อมโยงกันหมดแต่ศาลคงจะใช้ดุลย์พินิจ กับทุกอย่างที่เป็นองค์ประกอบศาลจะดูหลักกฏหมายว่าที่ศาลสั่งไปแล้วตาม ป.วิ อาญาแล้วกฎหมายที่ทางราชทัณฑ์ที่นำมาใช้ในการดำเนินการส่งตัวนักโทษ ทางกรมราชทัณฑ์มาอธิบายให้ศาล และศาลจะเป็นคนพิจารณาเองอีกทีว่าการที่มีคำตัดสินลงโทษจำคุกหนึ่งปีได้ เข้าคุกหนึ่งปีจริงไหมศาลคงพิจารณาเอง ทั้งนี้ศาลสั่งห้ามไม่ให้ตนเปิดเผยคำร้อง ดังนั้นจึงไม่อาจก้าวล่วงศาลได้ในการนัดฟังคำสั่ง

 

ตนเพียงมาเตรียมความพร้อมเพื่อเพิ่มเติมรายละเอียดให้ เรื่องนี้ศาลเป็นผู้เสียหายโดยตรงจึงให้ทุกฝ่ายมาชี้แจงว่าตั้งแต่อัยการ ป.ป.ช. มีเรื่องร้องเรียนอะไรหรือไม่แล้วศาลตัดสินแล้วได้จำคุกจริงหรือไม่ ก็ต้องชี้แจงกันมาส่วนทางราชทัณฑ์ทำหน้าที่ในการบริหารโทษถูกต้องหรือไม่ แพทย์มีหน้าที่ให้ความเห็นทางการรักษาแพทย์ป่วยจริงหรือไม่ นอนโรงบาล 180 กว่าวันป่วยจริงหรือไม่ก็ต้องให้ชี้แจงพร้อมกับนำพยานหลักฐานมาส่วนข้อเท็จจริงจะเป็นยังไง ศาลก็จะซักไซ้เชิญบุคคลที่สามมาผู้ชี้แจงมาให้ข้อมูลได้

 

ด้านนายตุลย์ สิทธิสมวงศ์ กล่าวว่า มีบางฝ่ายออกมากล่าวว่า การบังคับคดีเป็นเรื่องของกรมราชทัณฑ์เพียงฝ่ายเดียว ซึ่งเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เป็นเรื่องของฝ่ายบริหารด้วย ซึ่งการบังคับคดี กรมราชทัณฑ์ เรือนจำ และศาลจะมีอำนาจคอยติดตามว่าการบังคับคดีนี้ทำได้ถูกต้องหรือเปล่า ในกรณีนี้เมื่อนายชาญชัยพบเห็นว่ายังไม่มีการบังคับคดีอย่างถูกต้อง จึงมาร้องเรียนตามข้อบังคับข้อที่ 62 ต่อทั้งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ว่าบุคคลใดที่มีการพบเห็นว่ามีการกระทำความผิด ระหว่างการบังคับคดี สามารถเข้ามาร้องต่อศาลได้ การบังคับคดีจึงไม่ใช่เรื่องของกรมราชทัณฑ์ เพียงฝ่ายเดียว ศาลยังมีอำนาจอยู่

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

อิ่มอร่อยก่อนใครกับ “อาหารและเครื่องดื่ม” ใหม่ล่าสุด ในงาน “สหกรุ๊ป แฟร์ & เฟส ครั้งที่ 29” ช็อปมันส์ สนุกครบ จบในงานเดียว 26-29 มิ.ย.นี้ ไบเทค บางนา
ซีพีเอฟ จับมือภาครัฐ-ชุมชนลำพูน สู้ไฟป่า ฝุ่นควัน PM2.5
กรมส่งเสริมสหกรณ์ เดินหน้าส่งเสริมอาชีพและการตลาดในพื้นที่ คทช. ตามนโยบายรัฐบาลกระจายที่ดินทำกิน ยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกร ผ่านการรวมกลุ่มสหกรณ์และส่งเสริมนวัตกรรมการผลิตสู่ความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน
สระแก้ว บรรยากาศที่ด่านคลองลึก จ.สระแก้ว หลังประชุม JBC ไทย-กัมพูชา
"โฆษกกต." แถลงอัพเดทประชุม JBC "กัมพูชา" บรรยากาศดีปรับเข้าใจ ไทยเน้นย้ำไม่รับอำนาจศาลโลก
"ถวิล" ชี้กัมพูชารุกล้ำเกิดแล้วกว่า 400 ครั้ง ปมช่องบก เจตนายั่วยุยึดเป็นเจ้าของ แนะเดินหน้า MOU 43 เร่งปักปันเขตแดน
“สุขุม” อ่านมหิดลโพล เตือนระวัง “ทักษิณ” ซัดกลับ เหตุผลลัพธ์ไม่ถูกใจ
"มทภ. 2" ตรวจเยี่ยมทหารฐานฯ ปราสาทตาเมือนธม ชาวบ้าน-นักท่องเที่ยว แห่ให้กำลังใจ
"ฮุน มาเนต" พร้อมรับแรงงานกัมพูชากลับจากไทย โวในประเทศยังขาดอีก 7 หมื่นตำแหน่ง
กระทบแล้ว !! ฝ่ายกัมพูชาสั่งห้าม ผลไม้และสินค้าเกษตรเข้าประเทศ หน.ชุดด่านศุลกากรคลองใหญ่เริ่มตั้งแต่ 12.00 น.

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น