ภายหลังจาก พลโท สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ของกัมพูชา ได้หารือกับ พลตรี สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี และมีข้อตกลงร่วมกันที่จะถอนกำลังออกจากจุดปะทะกันบริเวณช่องบกเมื่อวันที่ 28 พ.ค.และฝ่ายกัมพูชาจะกลบคูเรดที่ขุดไว้ให้กลับสู่สภาพเดิมแล้วนั้น เมื่อคืนวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา จอมพลสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโชฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ได้โพสต์ข้อความในโพสต์เฟซบุ๊ก Samdech Hun Sen of Cambodia ระบุว่า “การปรับกำลังทหารในพื้นที่ขัดแย้ง ซึ่งผู้บัญชาการทหารของทั้งสองประเทศ กัมพูชาและไทย เห็นพ้องต้องกันเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะกันขนาดใหญ่ เป็นสิ่งจำเป็น
"ฮุนเซน" ปลุกใจชาวเขมร ลั่นแค่ปรับกำลัง ไม่ใช่ถอนทหารในเขตแดนตัวเอง ยืนกรานฟ้องศาลโลกแน่
ข่าวที่น่าสนใจ
“ประชาชนของทั้งสองประเทศ กัมพูชาและไทย ต้องการสันติภาพที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง และไม่ต้องการเห็นสงคราม การแสวงหาวิธีแก้ปัญหาผ่านการเจรจาได้ดำเนินการตั้งแต่ระดับรัฐบาลไปจนถึงผู้บัญชาการหน่วยในแนวหน้า ซึ่งนำไปสู่ผลลัพธ์ดังกล่าว
“ขอให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นว่ารัฐบาลกัมพูชาจะแก้ไขความขัดแย้งโดยสันติวิธี ซึ่งเป็นวิธีเดียวที่จะหลีกเลี่ยงสงครามนองเลือด และยังคงมิตรภาพและความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านที่ดีต่อไป”
สมเด็จฮุนเซนยังได้โพสต์ข้อความอธิบายเพิ่มเติมในคอมเมนต์ว่า “โปรดเข้าใจว่าการปรับกำลังทหารนั้นไม่ใช่การถอนทหารออกจากดินแดนของตนเอง แต่เป็นการปรับกำลังทหารในดินแดนของตนเอง การปรับกำลังทหารก็เหมือนกับการนอนบนเตียง ตั้งแต่หัวถึงปลายเท้าเราอยู่บนที่นอน แต่ตอนนี้เรายกหัวขึ้นเพื่อจะนอนใหม่ ดินแดนของเราก็ยังคงเป็นดินแดนของเรา”
ต่อมาผู้ใช้เฟซบุ๊กในชื่อ Rim Chanra ได้ถามว่า “นั่นหมายถึงการถอนทหารออกจากดินแดนที่เราอ้างสิทธิไว้ในตอนแรกใช่หรือไม่? ดูเหมือนว่าคำว่า “การส่งต่อกำลังไปยังพื้นที่ที่เหมาะสม” ไม่ค่อยเป็นที่เข้าใจนัก
สมเด็จฮุนเซนตอบว่า ขอให้เข้าใจคำว่าการปรับกำลัง แตกต่างจากการถอนทหาร
นอกจากนี้ สมเด็จฮุนเซนได้ตอบคำถามเรื่องการยื่นฟ้องคดีต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) โดยยืนยันว่าการฟ้องคดีต่อ ICJ ยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง