ตร.เรียกพยานเจอเงิน 12 ล้าน สอบเพิ่ม ลุยพิสูจน์หลักฐานหาที่มาเส้นทางเงิน

ตร.เรียก พยาน 3 ราย เจอเงิน 12 ล้าน สอบปากคำเพิ่มเติมกลางดึก

ตร.เรียกพยานเจอเงิน 12 ล้าน สอบเพิ่ม ลุยพิสูจน์หลักฐานหาที่มาเส้นทางเงิน – Top News รายงาน

เรียกพยานเจอเงิน 12 ล้าน

 

จากกรณีเมื่อวันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีพลเมืองดีพบธนบัตรเงินสดจำนวนกว่า 12 ล้านบาท บรรจุอยู่ภายในกล่องพลาสติกถูกวางทิ้งไว้บริเวณจุดทิ้งขยะคอนโดเมืองทองธานี พร้อมยังพบหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย และซองจดหมายเกี่ยวกับสำนักงาน กสทช. ซึ่งปรากฏชื่อ นายทวีวัฒน์ เส้งแก้วนั้น

ต่อมาตำรวจได้เชิญตัว นายทวีวัฒน์ มาให้ปากคำที่ สภ.ปากเกร็ดซึ่งยอมรับว่าตนเอง เป็นเจ้าของเงิน และเป็นคนเอามาวางไว้เนื่องจากที่ห้องมีน้ำท่วมตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ล่าสุดเมื่อเวลา 21.00 น. วานนี้ (7 มิ.ย. 68 ) ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัว น.ส.อุษา บุญนอก , น.ส.ณทภัต ชัยฉัตรสุรดิษ และ น.ส.ภัสสรหทัย บงกชธนัญ  ให้เข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติม เพราะทั้ง 3 คน เป็นคนพบกล่องเงิน 12 ล้าน

จากการสอบถาม น.ส.อุษา เล่าว่า วันที่เจอตนไปเยี่ยมหลานที่โรงพยาบาลมา หลานหิวข้าว ตนจึงสั่งอาหารทางออนไลน์ หลังจากที่ไรเดอร์มาส่งอาหาร ตนได้เจอกล่องอยู่ข้างถังขยะ ตนจึงกลับเข้าห้องเอากับข้าวเข้าไปเก็บ หลังจากนั้นได้เดินกลับมาที่กล่องเพื่อเปิดกล่องดู เพราะตนอยากได้กล่อง แต่เปิดข้างในพบ ว่าเจอเงินจำนวนเยอะ และให้น้องอีกสองคนเป็นคนอัดคลิปว่าเจอเงินเพื่อเป็นหลักฐาน ตนคิดว่าเงินจำนวนนี้ไม่ใช่ของตนเองจึงตัดสินใจกับน้องทั้ง 2 คน ว่าแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

หลังจากที่นำเงินส่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสบายใจขึ้น 80% และมีประเด็นที่ตนไม่รับสายโทรศัพท์เพราะว่ายุ่งกับงาน และบางครั้งเจอนักข่าวที่ไม่โอเค จึงปฏิเสธ ถ้าตอนไหนว่างจะรับโทรศัพท์เอง บางสื่อไปลงว่าตนเครียดที่เจอเงิน ตนจะไปเครียดทำไมเพราะไม่ใช่เงินของตน เจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกมาตอนไหนตนก็มาตามคำเชิญ

ส่วนเจ้าของเงินตนไม่เคยเจอเขามาก่อนเพราะตนเข้าออกไม่ตรงเวลาอยู่แล้ว ออกเช้ากลับดึก พอตอนมาเจอข่าวเมื่อวานว่าเขาเข้ามาที่สภ. ปากเกร็ด แสดงตัวเป็นเจ้าของ เราก็ได้แค่ดู ส่วนเรื่องน้ำที่ซึมตนไม่ทราบเพราะอยู่คนละชั้น ส่วนกล่องใส่เงินที่ตนไปเจอปรากฏว่ากล่องแห้งสนิทไม่ได้เปียกน้ำและมีฝาแง้มอยู่ แต่สึกแล้ว ถ้าเป็นหลายคนก็อาจจะตัดสินใจทิ้งแต่ตนอยากได้เพราะจะนำมาใส่ขวด ส่วนก่อนหน้านี้ใครมาเจอก่อนตนก็ไม่ทราบ รีบเจอก็รีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตอนนี้ตนก็ดีใจกับเจ้าของเงิน และตนก็ดีใจมากๆที่เจ้าของเงินมีตัวตนจริง

 

นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านั้นเวลา 17.20 น. วันเดียวกัน (7 มิ.ย.68) พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผบก.ภ.จว.นนทบุรี เดินทางมายัง สภ.ปากเกร็ด พร้อมเรียกเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องประชุมคดีเงิน 12 ล้านบาท ที่พบในจุดทิ้งขยะชั้น 4 คอนโดมิเนียมเมืองทองธานี

มีการขยายผลสอบสวน แหล่งที่มาของเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท แม้ว่านายทวีวัฒน์ เส้งแก้ว ที่ปรึกษา กสทช. เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมแสดงตัวว่า เป็นเจ้าของเงินแล้วก็ตาม ซึ่งต้องรอหลักฐานจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน รอเอกสารการเบิกเงินจากธนาคารกสิกรไทย จำกัด สาขาแจ้งวัฒนะ ซึ่งเบิกออกมาเมื่อปี 2563

 

ต่อมา เวลา 18.30 น. พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบธนบัตรจำนวน 12 ล้านบาท ที่ถูกเก็บไว้ในห้องควบคุมของ สภ.ปากเกร็ด เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเก็บตัวอย่างธนบัตรตรวจสอบ และตรวจสอบ ลายนิ้วมือบนธนบัตรเพิ่มเติม นานกว่า 5 ชม.

โดยจะแบ่งเงินตรวจสอบออกเป็น 2 ส่วน คือ

1.เก็บตัวอย่างเงินจำนวน 53,000 บาท เป็นธนบัตรแผ่นบนและแผ่นล่าง ของปึกที่ถูกหยิบจับขณะเปิดกล่องเงิน นำส่งตรวจสอบที่พิสูจน์หลักฐาน1

2.นำเงินส่วนที่เหลือนำกลับเข้าไปเก็บไว้ในห้องขัง และรอผลตรวจออกประมาณ 1 อาทิตย์ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เชิญตัว น.ส.อุษา บุญนอก  , น.ส.ณทภัต ชัยฉัตรสุรดิษ  และ น.ส.ภัสสรหทัย บงกชธนัญ  เข้ามาตรวจลายนิ้วมือว่าตรงกับธนบัตรที่ถูกหยิบไปหรือไม่

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ศบ.ทก." แถลงชัดจุดยืนไทย เจรจาหยุดยิง "กัมพูชา" ต้องจริงใจเป็นที่ประจักษ์ก่อน ไล่ไทม์ไลน์เขมรเสริมกำลังไม่หยุด ใช้ปืนใหญ่ จรวด BM-21 ถล่มไทยต่อเนื่อง ย้ำผลขัดแย้งเกิดจากรัฐบาล "ฮุน มาเนต" ล้วนๆ
อำเภอบางละมุง ขยายผลวันเดียว รวบเอเยนต์ วัย 24 ปี น้ำตาตกผันตัวพ่อค้าหม่าล่าค้ายาให้เด็กบาร์โฮสหวังจะได้รวยเร็วๆ
จันทบุรี แรงกัมพูชาแห่กลับบ้านกว่าหมื่นคนหวั่นถูกทำร้าย จากกระแสโซเชียล กรณีคนไทยบางกลุ่มตระเวนทำร้ายคนกัมพูชา
สระแก้ว คัดแยกคนไทยไม่มีเอกสารที่มาจากฝั่งกัมพูชา นำเข้าสู่กระบวนการคัดแยก หากไม่มีคดีจะปล่อยกลับบ้าน
"ภูมิธรรม" แจงคุย "ทรัมป์" ยันหารือกองทัพบกด้วย ยันไม่กังวลถูกบีบด้วยเงื่อนไขภาษีการค้า ย้ำถ้าเจรจากัมพูชาต้องจริงใจ ย้ายทหาร-อาวุธออกพื้นที่ก่อน
หยุดยิงไม่มีจริง "กองทัพไทย" เคลื่อนรถถัง VT-4 ประจันหน้าแล้ว หลัง "ทหารกัมพูชา" ระดมปืนใหญ่ จรวด BM-21 ใส่ชายแดนไทยไม่หยุด

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​