โกหกโลกเพื่อไปศาลโลก! โต้กลับ “ฮุน มาเนต” สุดบิดเบือน อ้างทำทุกอย่างเพื่อรักษาสัมพันธ์ 2 ปท. ความจริงสุดแถ กัมพูชารุกล้ำไทยกว่า 400 ครั้ง ละเมิด MOU ตลอด

โกหกโลกเพื่อไปศาลโลก! โต้กลับ "ฮุน มาเนต" สุดบิดเบือน อ้างทำทุกอย่างเพื่อรักษาสัมพันธ์ 2 ปท. ความจริงสุดแถ กัมพูชารุกล้ำไทยกว่า 400 ครั้ง ละเมิด MOU ตลอด

จากกรณี ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรี ของกัมพูชา ออกการณ์ ถึงสถานการณ์ขัดแย้งพื้นที่ชายแดนกลับประเทศไทย โดยยืนยันว่าฝ่ายกัมพูชายึดหลัก 4 ข้อ ซึ่งหากตรวจสอบข้อมูลจากผู้เกี่ยวข้องฝ่ายไทย ไม่ว่าจะเป็นของกองทัพบก ,พลตรีณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาค 2 ในฐานะอดีตผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี รับผิดชอบพื้นที่อีสานใต้มายาวนาน รวมถึงข้อมูลจากพลตรีวันชนะสวัสดี หรือ ผู้พันเบิร์ด รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ก็จะพบว่าสวนทางกับคำชี้แจงของฮุนมาเน็ตอย่างสิ้นเชิง โดยไล่เรียงมีประเด็นดังนี้

1.ฮุน มาเนต บอกว่า กัมพูชายึดมั่นในจุดยืนในการรักษาสันติภาพ มิตรภาพ และความร่วมมืออันดีกับไทย

แต่ข้อเท็จจริงพบว่า ที่ผ่านมากัมพูชาละเมิด MOU43 มาโดยตลอด ทั้งขยายชุมชน สร้างกาสิโน ปลูกพืชไร่ประชิดชายแดนที่เป็นการทำลายสันปันน้ำ ไทยประท้วง 400 กว่าครั้ง แต่ฝ่ายกัมพูชาให้ความร่วมมือแก้ไขน้อยมาก นอกจากนี้วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 68 กัมพูชายังเผาศาลาตรีมุข และเคลื่อนกำลังขึ้นมาวางที่ต้นพญาสัตบรรณ ซึ่งล้ำอธิปไตยไทยเข้ามาประมาณ 150 ม. รวมถึงขุดคูเลททำลายสันปันน้ำละเมิด MOU43

อีกทั้งการละเมิดแต่ละครั้งนำไปสู่การปะทะ เและจะมีข้อตกลงหยุดยิง ได้แก่
-ข้อตกลงหยุดยิงช่องสะงำจอม
-ข้อตกลงหยุดยิงจอมโปรเสม็ด
-ข้อตกลงปฏิบัติร่วมไทยกัมพูชาประสาทตาเมือน
-ข้อตกลงปฏิบัติร่วมไทยกัมพูชาประสาทตาควาย
-ข้อตกลงปฏิบัติร่วมไถ่กัมพูชาช่องกร่าง
-MOU43
-คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทยกัมพูชา

รวมถึงครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 68 ที่เกิดเหตุปะทะช่องบก เพราะทหารกัมพูชาเปิดฉากยิงทหารไทยก่อน

 

ข่าวที่น่าสนใจ

2.ฮุน มาเนต บอกว่าการตัดสินใจของกัมพูชาในการส่งประเด็นปัญหาบริเวณวัดตาเมือนธม วัดตาเมือนโตช วัดตะกระเป่ย และพื้นที่หม่อมเตยไปยังศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ICJ คือการแสวงหาการแก้ไขปัญหาชายแดนในพื้นที่ดังกล่าวโดยสันติโดยเร็วที่สุดและในที่สุด แทนที่จะปล่อยให้ปัญหาไม่ได้รับการแก้ไขเป็นเวลานาน ซึ่งอาจนำไปสู่ความขัดแย้งด้วยอาวุธอีกครั้ง

ข้อเท็จจริง ทั้งๆที่สองประเทศมีกลไกแก้ไขปัญหาร่วมกันอยู่แล้ว โดยคณะกรรมการปักปันเขตแดนร่วม หรือ JBC เพื่อร่วมกันจัดทำแนวเขตแดนระหว่างกันให้ชัดเจนและเป็นเป็นที่ยอมรับกันทั้งสองฝ่าย โดยทั้งสองฝ่ายมีข้อตกลง MOU43 สาระสำคัญข้อ 5 ระบุไม่ให้ทั้งสองฝ่ายดัดแปลงภูมิประเทศตามแนวชายแดน ซึ่งอาจมีผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสันปันน้ำ และยังมี MOU43 เพื่ออำนวยให้ JBCทำงานง่ายขึ้น ที่สำคัญไทยประกาศไม่ยอมรับเขตอำนาจศาลโลกมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 แล้ว

 

 

3.ฮุน มาเนต บอกว่าให้ความร่วมมือกับฝ่ายไทยต่อไปในการส่งเสริมการวัดเขตแดนและการกำหนดแนวเขตพื้นที่ชายแดนที่เหลือระหว่างสองประเทศ นอกเหนือจากพื้นที่สี่พื้นที่ข้างต้น โดยใช้กลไกJBC

แต่ข้อเท็จจริง ปัจจุบันก็เห็นชัดว่าฝ่ายกัมพูชาได้ปรับปรุงภูมิประเทศ และละเมิด mouมาตลอด

4.ฮุน มาเนต บอกว่าดำเนินการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศต่อไป ผ่านกลไกที่มีอยู่ทั้งหมด เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนของทั้งสองประเทศ

แต่ข้อเท็จจริงเรากลับพบว่า กัมพูชายังเสริมกำลังทหาร อาวุธยุทโปกรณ์ พยายามจะนำกำลังขยายไปควบคุมพื้นที่อื่นๆตลอดแนวชายแดน ทั้งๆที่พื้นที่เหล่านั้นเดิมทั้งสองฝ่ายไม่มีการวางกำลัง เป็นป่าเป็นเขา ที่สำคัญไทยพยายามแก้ปัญหาโดยสันติ อดทนอดกลั้น เจรจาขอให้ถอนกำลังที่รุกล้ำอธิปไตยไทยออกไปหลายครั้ง แต่กัมพูชาก็ไม่ยอมถอน สุดท้ายมีการปะทะที่ช่องบก และทำให้ไทยต้องยกระดับการเปิดปิดชายแดนตอบโต้

ทั้งหมดทั้งมวลคือข้อเท็จจริงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งแตกต่างจากคำกล่าวอ้างของ ฮุน มาผู้นำกัมพูชา ซึ่งการพยายามรุกล้ำอธิปไตยของไทยในครั้งนี้ ยังไม่สามารถฟันธงได้ว่า มีสาเหตุที่แท้จริงมาจากอะไร ต้องการยึดแผ่นดินไทยในพื้นที่ทับซ้อน ไปเป็นของตัวเอง หรือ ฮุน เซน พ่อของฮุนมาเนต พยายามสร้างคะแนนนิยมให้กับลูกชาย เนื่องจากขณะนี้ว่ากันว่าในกัมพูชาความนิยมในตัวของฮุน มาเนตลดดลงอย่างมาก จึงพยายามจุดประเด็นชาตินิยม เพื่อดึงเรตติ้งให้กับลูกชายคืนมา

ก่อนหน้านั้น เฟซบุ๊กนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตของกัมพูชา โพสต์คลิปแถลงการณ์ของนายฮุนมาเนต พร้อมข้อความระบุว่า

គោលជំហររបស់រាជរដ្ឋាភិបាលកម្ពុជាពាក់ព័ន្ធការដោះស្រាយបញ្ហាព្រំដែនជាមួយប្រទេសថៃ ÷
១. កម្ពុជាប្រកាន់ខ្ជាប់នូវគោលជំហររក្សាសន្តិភាព មិត្តភាព និងកិច្ចសហប្រតិបត្តិការល្អជាមួយថៃ
២. ការសម្រេចចិត្តរបស់កម្ពុជាដើម្បីយកបញ្ហាប្រាសាទតាមាន់ធំ ប្រាសាទតាមាន់តូច ប្រាសាទតាក្របី និងតំបន់មុំបី ទៅតុលាការយុត្តិធម៌អន្តរជាតិ (ICJ) គឺដើម្បីស្វែងរកដំណោះស្រាយបញ្ហាព្រំដែននៅតំបន់ទាំងនោះដោយសន្តិវិធីអោយបានឆាប់ចប់ជាស្ថាពរ ជាជាងបន្សល់ទុកបញ្ហាអោយនៅបន្តស្រពិចស្រពិលរយៈពេលវែង ដែលអាចបង្កអោយកើតមានជាជម្លោះប្រដាប់អាវុធសារជាថ្មី
៣. បន្តសហការជាមួយភាគីថៃដើម្បីជំរុញការវាស់វែង ខ័ណ្ឌសីមា និងបោះបង្គោលព្រំដែនរវាងប្រទេសទាំងពីរដែលនៅសេសសល់ (ក្រៅពីតំបន់ទាំង៤ខាងលើ) ដោយប្រើប្រាស់យន្តការគណៈកម្មការព្រំដែនចម្រុះ(JBC) កម្ពុជា-ថៃ
៤. បន្តរក្សាទំនាក់ទំនងរវាងប្រទេសទាំងពីរ តាមរយៈគ្រប់យន្តការដែលមានស្រាប់ ដើម្បីជាឧត្តមប្រយោជន៍សម្រាប់ប្រជាពលរដ្ឋនៃប្រទេសទាំងពីរកម្ពុជា-ថៃ។
ថ្ងៃសៅរ៍ ទី៧ មិថុនា ឆ្នាំ២០២៥

 

ท่าทีของรัฐบาลกัมพูชาเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาชายแดนกับไทย

  • 1. กัมพูชายึดมั่นในจุดยืนในการรักษาสันติภาพ มิตรภาพ และความร่วมมืออันดีกับไทย
  • 2. การตัดสินใจของกัมพูชาในการส่งประเด็นปัญหาบริเวณวัดตาเมือนธม วัดตาเมือนโตช วัดตะกระเป่ย และพื้นที่หม่อมเตยไปยังศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) คือการแสวงหาการแก้ไขปัญหาชายแดนในพื้นที่ดังกล่าวโดยสันติโดยเร็วที่สุด และในที่สุด แทนที่จะปล่อยให้ปัญหาไม่ได้รับการแก้ไขเป็นเวลานาน ซึ่งอาจนำไปสู่ความขัดแย้งด้วยอาวุธอีกครั้ง
  • 3. ให้ความร่วมมือกับฝ่ายไทยต่อไปในการส่งเสริมการวัดเขตแดนและการกำหนดแนวเขตพื้นที่ชายแดนที่เหลือระหว่างสองประเทศ (นอกเหนือจากพื้นที่สี่พื้นที่ข้างต้น) โดยใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทย (JBC)
  • 4. ดำเนินการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศต่อไปผ่านกลไกที่มีอยู่ทั้งหมดเพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนของทั้งสองประเทศ
    วันเสาร์ที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๖๘

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ร้อยเรียงความดี … ซีพี–ซีพีเอฟ อยู่เคียงข้างชุมชน เดินหน้าช่วยน้ำท่วมภาคเหนือต่อเนื่อง
ช่วยต่อเนื่อง! ซีพีเอฟ เร่งกระจายความช่วยเหลือถึงมือประชาชนแนวชายแดน
"โฆษกรัฐบาล" ยันพรุ่งนี้ "ภูมิธรรม" พร้อมคณะ บินมาเลย์ เจรจา "ฮุน มาเนต" โต้กล่าวหาไทยจะยอมรับ แผนที่ 1:200,000
ส่งกำลังใจให้ชาวเหนือ! ซีพี-ซีพีเอฟ ส่งวัตถุดิบช่วยน้ำท่วม หนุนโรงครัวพระราชทาน "เชียงราย-น่าน" เต็มกำลัง
มื้อนี้ที่ห่วงใย ... ซีพีเอฟ ส่งต่อกำลังใจสู่ศูนย์อพยพชายแดน
สะเทือนใจ ! ตา-ยาย ขับรถพ่วงข้างเพื่อ อพยพ ไปยังพื้นที่ปลอดภัย ถูกรถชนจนเสียชีวิตทั้งคู่ ส่วนลูกชายเป็นทหารพรานที่ช่องจอม จ.สุรินทร์

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​