ประธานาธิบดีทรัมป์ คุยอวดมานานว่า มีแต่ตัวเองเท่านั้นในโลกนี้ที่จะยุติสงครามยูเครนได้ แต่หลังจากพยายามผลักดันการเจรจาหลายเดือน ไม่มีทีท่าว่าสองฝ่ายจะหยุดสู้รบ ทั้งยังมีการโจมตีด้วยโดรนหนักกว่าเดิม และไม่มีฝ่ายใดยอมถอยในการเจรจา CNN ระบุว่า ทรัมป์ใช้การเปรียบเทียบชวนอึ้งในการยอมรับว่า สงครามใหญ่ที่สุดในยุโรปนับจากสงครามโลกครั้งที่สอง ไม่มีวี่แววจะจบลงในอนาคตอันใกล้ และกำลังคิดว่านี่ไม่ใช่เวลาดีที่สุดในการเข้าไปแทรกแซง
โดยระหว่างให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรี ฟรีดริช แมร์ซ ผู้นำเยอรมนี ที่ห้องทำงานรูปไข่ ทำเนียบขาว เมื่อวาน (5 มิถุนายน)ตามเวลาท้องถิ่น ทรัมป์ กล่าวว่า เวลาเห็นเด็กสองคนเกลียดกัน ตีกันอย่างเอาเป็นเอาตาย ทะเลาะกันในสวนสาธารณะ พยายามเข้าไปจับแยก แต่พวกเขาไม่ยอม บางครั้งก็ควรปล่อยให้พวกเขาตีกันสักพัก แล้วค่อยจับแยกออกจากกัน
ทรัมป์ บอกว่า เขาพูดเรื่องการเปรียบเทียบนี้ให้ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินฟัง ระหว่างพูดคุยทางโทรศัพท์นาน 75 นาทีเมื่อวันพุธ (4 มิถุนายน) และเปรียบเทียบอีกว่า เหมือนฮ็อกกี้และกีฬาอื่น ๆ ที่ผู้ตัดสินจะปล่อยผู้เล่นไปต่อสองสามวินาที หรือสักพักหนึ่ง ก่อนเข้าไปจับแยก
CNN ระบุว่า การเปรียบเทียบเช่นนี้ คือการยอมรับอย่างตรงไปตรงมาสำหรับทรัมป์ ว่าหมดหนทางแก้ปัญหา จากที่เคยประกาศจะยุติสงครามนองเลือด มาเป็นการมองรัสเซียกับยูเครนเหมือนเด็กตีกัน หรือเกมฮ็อคกี้ ทรัมป์วางตัวเองเป็นผู้ตัดสิน จากบทบาทผู้ไกล่เกลี่ย
ที่ผ่านมา ทรัมป์ลังเลใช้มาตรการแซงชั่นใหม่กับรัสเซีย ไม่กดดันรัสเซียบนโต๊ะเจรจา แต่ก็ไม่ไฟเขียวความช่วยเหลือทางทหารใหม่ ๆ แก่ยูเครน เพราะหวังว่าถ้าจบสงครามได้เร็ว ความช่วยเหลือทางทหารก็ไม่จำเป็น สัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์เคยพูดขึงขังให้เวลา 2 สัปดาห์เพื่อดูว่า ปูตินต้องการยุติสงครามจริงหรือไม่ ต่อมาก็ไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้อีก และมีความเป็นไปได้น้อยมากว่าทรัมป์จะมีมาตรการใดออกมา หากเส้นตายที่กำหนดขึ้นเอง มาถึงในวันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน
ท่าทีใหม่แบบปล่อยไปตามยถากรรมของทรัมป์ จะถูกทดสอบในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ทรัมป์มีกำหนดร่วมประชุมสุดยอดหลายเวที ที่จะถูกพันธมิตรกดดันให้แสดงจุดยืนแข็งกร้าวมากขึ้น
ผู้นำสหรัฐฯน่าจะได้พบกับ ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ ผู้นำยูเครน ในที่ประชุมสุดยอด จี-7 ที่รัฐแอลเบอร์ตา ประเทศแคนาดาช่วงกลางเดือนมิถุนายน ตลอด 3ปีที่ผ่านมา การประชุมสุดยอด จี-7 ถูกใช้เป็นเวทีระดมการสนับสนุนตะวันตกให้กับยูเครน และเซเลนสกี้เข้าร่วมในฐานะแขกรับเชิญ แต่ที่ปรึกษาทรัมป์ บอกไว้แล้วว่า ทรัมป์จะไม่สนับสนุนมาตรการแซงชั่นใหม่ๆ กับรัสเซีย
ไม่กี่สัปดาห์ต่อจากนั้น จะมีการประชุมสุดยอดนาโต ซึ่งเป็นเวทีที่ถูกจับตาเช่นกันว่าสหรัฐฯจะให้การสนับสนุนยูเครนหรือไม่ แต่การประชุมสุดยอดนาโต จะมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มงบทหารของประเทศสมาชิก เพื่อเลี่ยงความขัดแย้งกับสหรัฐฯ
อย่างไรก็ดี จุดยืนของทรัมป์ที่แสดงออกมาล่าสุด อาจไม่ใช่ท่าทีสุดท้ายก็เป็นได้ เพราะหลังจากบอกว่า ปล่อยให้ตีกันสักพัก ทรัมป์ยืนยันว่า ยังต้องการยุติการเข่นฆ่า ถึงอย่างนั้น ก็เป็นความเห็นที่สะท้อนการยอมรับสภาพในระดับหนึ่ง ว่าแนวโน้มยุติสงครามไม่ง่าย และแยกตัวเองออกจากความขัดแย้งที่เคยบอกว่าตัวเองเป็นคนเดียวที่แก้ไขได้