จากกรณีที่เกิดเหตุเด็ก ปวช. ปี 3 สถาบันเทคโนโลยีแห่งหนึ่งย่านมีนบุรี ถูกยิงเสียชีวิตคาลานตลาดนัด บริเวณสามแยกหทัยมิตร แขวงบางชัน เขตคลองสามวา ท้องที่ สน.นิมิตรใหม่ หลังจากซ้อนท้ายจักรยานยนต์มากับเพื่อน ส่วนเพื่อนคนขี่รถจักรยานยนต์ได้รับบาดเจ็บบริเวณข้อเท้าซ้ายเนื่องจากรถจักรยานยนต์ล้ม
ข่าวที่น่าสนใจ
วันนี้ ( 4 มิ.ย.) ที่สน.นิมิตรใหม่ เมื่อเวลาประมาณ 14:00 น. พลตำรวจตรี นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางไปประชุมกับชุดสืบสวนและสอบสวน เพื่อติดตามความคืบหน้าคดี โดย พลตำรวจตรี นพศิลป์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ฝ่ายผู้เสียชีวิตและเพื่อน ทั้งหมด 7 คน ใช้รถจักรยานยนต์ 4 คัน ซ้อนท้ายกันกลับจากทำกิจกรรมมุ่งหน้ากลับบ้าน
ขณะที่มาถึงถนนพระยาสุเรนทร์ แยกลำกะโหลก ก็ได้พบกับคู่กรณี 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ 2 คัน เป็นพาหนะ จากนั้นผู้ก่อเหตุก็ขับขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตามกลุ่มคนตาย ก่อนจะใช้อาวุธปืนยิงใส่รถจักรยานยนต์ของกลุ่มคนตาย ที่บริเวณถนนหทัยราษฎร์ ทำให้กลุ่มผู้ตาย ต้องขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีกระเจิดกระเจิงไปคนละทาง โดยผู้ตายได้ขับรถไปยังถนนหทัยราษฎร์ กระทั่งถึงน้ำปั๊มน้ำมัน ปตท.ใกล้ปากซอยหทัยราษฎร์ 33 ผู้ก่อเหตุก็ยิงปืนใส่อีก 1 นัด แล้วขับขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตามจนไปถึงบริเวรใกล้บริเวณแยกหทัยมิตร จึงยิงปืนอีกครั้งเป็นนัดที่ 3
กระสุนเข้าด้านหลังผู้ตายซึ่งซ้อนท้าย เพื่อนที่่ขับจึงพาเข้าไปหลบที่ลานที่กำลังมีการเตรียมการก่อสร้างตลาดแห่งใหม่ ใกล้แยกหทัยมิตร แต่ผู้ตายทนพิษบาดแผลไม่ไหว จึงเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ในส่วนปมประเด็นเรื่องความขัดแย้งนั้น ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องความขัดแย้งระหว่างสถาบัน แต่เป็นปัญหาส่วนตัว โดยเพื่อนของผู้ตายได้เล่าว่า กลุ่มผู้ตายมีความขัดแย้งกับกลุ่มของผู้ก่อเหตุมาตั้งแต่สมัยเรียนระดับมัธยม เมื่อจบการศึกษาระดับมัธยม ก็ต่างคนก็ต่างแยกย้ายไปเรียนสายอาชีวะ แต่ก็มีการท้าทายผ่านทางเฟซบุ๊กกันมาโดยตลอด จนกระทั่งภายหลังทางกลุ่มผู้ก่อเหตุได้มีการออกจากโรงเรียนไป และปัจจุบันนี้ก็ไม่ได้เป็นนักศึกษาแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ยังฝากถึงนักเรียน นักศึกษาสถาบันทั้ง 2 แห่ง ว่า อย่านำเหตุการณ์ในครั้งนี้ไปเป็นประเด็นก่อเหตุในล้างแค้นกันเอาคืนกัน เพราะเป็นเรื่องความขัดแย้งส่วนตัว ขณะนี้ทางเจ้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆไม่ว่าจะเป็นภาพกล้องวงจรปิดหรือพยานแวดล้อมบุคคล เพื่อออกหมายจับผู้ก่อเหตุให้เร็วที่สุด.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
