“อธิบดี DSI” เผยความคืบหน้า คดีอั้งยี่-ฟอกเงิน ฮั้วสว.67 สอบพยานแล้วกว่า 60 ปาก

“อธิบดี DSI” เผยความคืบหน้า คดีอั้งยี่-ฟอกเงิน ฮั้วสว.67 สอบพยานแล้วกว่า 60 ปาก

วันนี้ ( 30 พ.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ห้องรับรองกรมสอบสวนคดีพิเศษ ชั้น 2 อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ (อาคารเอ) ถนนแจ้งวัฒนะ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยความคืบหน้าคดีพิเศษที่ 24/2568 กรณีความผิดฐานฟอกเงินของบุคคลหรือคณะบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) รวมถึงผู้ที่เป็นสมาชิกอั้งยี่และผู้สนับสนุน ว่า ปัจจุบันคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้ดำเนินการสอบปากคำพยานไปแล้วกว่า 60 ปาก อยู่ระหว่างการรวบรวมถ้อยคำให้การ ส่วนพยานที่สอบปากคำมาจากหลากหลายกลุ่ม ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ทั้งนี้ เรื่องกรอบระยะเวลา พนักงานสอบสวนพยายามเร่งรัดดำเนินการอย่างเร็วที่สุด ส่วนกรณีการดำเนินการของคณะอนุกรรมการสืบสวนและไต่สวน ที่มีเจ้าหน้าที่ กกต. และดีเอสไอ รวม 7 ราย นั้น ตนไม่สามารถก้าวล่วงได้

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

เมื่อถามว่าระยะเวลาใกล้งวดเข้ามาแล้วที่จะต้องพิจารณาออกหมายเรียกผู้ต้องหา เนื่องจากมีการตั้งข้อสังเกตว่า ที่ดีเอสไอยังไม่พิจารณาออกหมายเรียกผู้ต้องหาในคดีอั้งยี่-ฟอกเงิน เนื่องจากรอกระบวนการทำงานของคณะอนุกรรมการสืบสวนและไต่สวนให้เสร็จสิ้นก่อนหรือไม่ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ปฏิเสธยืนยันว่า ไม่ได้เป็นเงื่อนไข เพราะเราก็รวบรวมพยานหลักฐานไปอีกส่วนหนึ่งแยกต่างหากจากกัน

ต่อข้อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่าหากคณะอนุกรรมการสืบสวนและไต่สวน ไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 โดยเฉพาะมาตรา 77 (1) บุคคลนั้นก็จะไม่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาอั้งยี่-ฟอกเงินในส่วนของคดีอาญาดีเอสไอใช่หรือไม่นั้น อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวกัน ก่อนตัดบทผู้สื่อข่าวแล้วเดินออกจากวงสัมภาษณ์ทันที

 

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับความผิดตามมาตรา 77(1)แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 ที่สมาชิกวุฒิสภาบางส่วนถูกคณะอนุกรรมการสืบสวนและไต่สวน แจ้งข้อกล่าวหานั้น ระบุว่า ผู้ใดกระทำการจัด ทำ ให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้ เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกลงคะแนนหรือไม่ลงคะแนนให้แก่ผู้ใด ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ฮุนเซนเดือดทหารกัมพูชาถูกยิงดับ
"ในหลวง" โปรดเกล้าฯ พระราชทานเหรียญราชรุจิ แก่ "สมเด็จพระราชินี"
"สาธารณสุขสระแก้ว" เร่งสอบเข้ม ปมหนุ่มกินเนื้อดิบ ติดเชื้อ "แอนแทรกซ์"
"เอกนัฏ" ยันรทสช.ยังไม่แตก คาใจขบวนการปล่อยข่าว ลั่นใครใจไม่อยู่พรรคทำไมไม่ลาออก
อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลเปิดการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการระหว่างประเทศ หัวข้อ "แนวทางการพัฒนาเขื่อนใต้ดิน"
"เสธ.หิ" สวนกลับ "แรมโบ้" ทวงพรรค ชี้ลาออกไปแล้ว "รทสช." ไม่ใช่ของส่วนตัวใคร
"ฮุนเซน" ท้าขึ้นศาลโลก เตือนขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา อาจรุนแรงเหมือนฉนวนกาซา
"นางงาม" ร้อง "กันจอมพลัง" ให้ช่วย หลังถูกไฮโซเก๊ตุ๋นลงทุนสูญเงินเกือบ 2 ล้าน แถมยังแอบอ้างเบื้องสูง
"DITP" ลงพื้นที่ "ระยอง–จันทบุรี" บุกตลาดส่งออกผลไม้ไทย ลุยสร้างภาพลักษณ์ “ทุเรียนไทย” ผลักดันสู่ตลาดโลก
"แม่ทัพภาค 2 " ลั่นพร้อมเจรจาแต่ไม่ยอมใครรุกราน ไม่หวั่นแจงศาลโลก "กัมพูชา"ขู่ฟ้องโดนละเมิด ย้ำหลักฐานตาเมือนธมของไทย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น