“ตำรวจ ปอท.” รวบหนุ่มไทย รับใช้บอสชาวจีน เฝ้าบัญชีม้าแก๊งคอลฯ ฝั่งปอยเปต

"ตำรวจ ปอท." รวบหนุ่มไทย รับใช้บอสชาวจีน เฝ้าบัญชีม้าแก๊งคอลฯ ฝั่งปอยเปต

เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. จับกุมตัว นายวินัย หรือ เปรี้ยว อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ลงวันที่ 7 พฤศจิกายน 2567 ข้อหา “มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, ร่วมกันเป็นอั้งยี่, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น โดยทุจริตหรือหลอกลวง, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์, สมคบโดยตกลงตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงิน” โดยจับกุมตัวได้ที่บริเวณรีสอร์ตในพื้นที่ ม.12 ต.โชคชัย อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปอท. ได้รับมอบหมายจากศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ ให้สืบสวนกรณีผู้เสียหายถูกคนร้ายหลอกให้โอนเงินลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ในเพจเฟซบุ๊กปลอม ที่แนะนำการเทรดหุ้น และได้โอนเงินไปยังบัญชีของผู้ต้องหา ซึ่งเป็นบัญชีม้าหลายคน รวมความเสียหาย จำนวน 3,800,000 บาท และเมื่อปลายปี 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปอท. ได้เปิดปฏิบัติการ Cyber Guardian จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ และตรวจยึดทรัพย์สินที่น่าเชื่อว่าได้มาจากการกระทำความผิด โดยจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งสิ้น 7 ราย และตรวจยึดทรัพย์สินหลายรายการมูลค่ากว่า 80 ล้านบาท

 

 

 

 

 

จากนั้นได้สืบสวนขยายผลติดตามจับกุม นายวินัย หรือ เปรี้ยว ผู้ต้องหารายสำคัญ ซึ่งเป็นนายหน้าชักชวนบัญชีม้าในคดีนี้ไปเปิดบัญชี และสแกนหน้าที่ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา และยังเป็นพ่อบ้านคอยทำแอปฯธนาคารให้บัญชีม้า และเฝ้าบัญชีม้าที่ออฟฟิศฝั่งปอยเปต ต่อมาสืบทราบว่า นายวินัย ได้หลบหนีเข้ามาพักอยู่รีสอร์ตในพื้นที่ อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา เพื่อหาบัญชีม้า จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โชคชัย จ.นครราชสีมา ร่วมกันเข้าตรวจสอบ พบตัว นายวินัย อยู่ที่รีสอร์ตดังกล่าว ขณะกำลังพาคนในพื้นที่ไปเปิดบัญชีและทำแอปฯธนาคาร

 

 

จากการสอบปากคำ นายวินัย สารภาพว่า จุดเริ่มต้นมาจากเคยรับจ้างเปิดบัญชีม้า ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2566 จากนั้นเมื่อบัญชีถูกอายัด และรู้ว่าบัญชีถูกไปใช้เป็นบัญชีม้าให้แก๊ง Call Center จึงไม่กล้ากลับประเทศไทย เนื่องจากกลัวจะถูกจับกุม จึงผันตัวเป็นพ่อบ้าน คอยเฝ้าบัญชีม้าที่รอสแกนหน้า อยู่ที่ออฟฟิศซานโฮ ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา โดยได้รับเงินเดือนจากบอสชาวจีน เดือนละ 15,000 บาท และจะได้รับค่านายหน้าเปิดบัญชีม้า บัญชีละ 1,000 บาท โดยทำมาแล้วเกือบ 2 ปี มีบัญชีม้าที่ชักชวนมาจากทั่ว จ.นครราชสีมา กว่า 200 ราย แต่เมื่อเจ้าหน้าที่มีการเข้าปราบปรามออฟฟิศฝั่งปอยเปต เมื่อช่วงต้นปี 2568 ทำให้ออฟฟิศปิด จึงได้ข้ามแดนผ่านช่องทางธรรมชาติกลับเข้ามาประเทศไทย

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

‘มูลนิธิยังมีเรา’ ร่วม ‘ท็อปนิวส์’ มอบทุนการศึกษา ‘น้องกชพรรณ’ เยาวชนสู้ชีวิต ชาวเชียงใหม่ ต่อยอดพัฒนาความรู้
“นพ.สมิทธิ์” แจงชัด แพทยสภาส่งข้อมูลให้ “สมศักดิ์” ครบถ้วน อย่าทำเข้าใจผิด ไม่ส่งเอกสารเพิ่มเพราะไม่เกี่ยวมติลงโทษ 3 หมอ
โจรกระชากกระเป๋า เข้ากราบเท้าแม่ขอโทษที่ทำตัวไม่ดี ก่อนนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
กลาโหมกัมพูชาแถลงเป็นทางการกล่าวหาทหารไทยยิงก่อน
วิจารณ์หนัก "พีระพันธุ์" ล่องหนไม่เข้าสภาฯร่วมถกงบฯ 69 พาทีมงานใกล้ตัวบินเซี่ยงไฮ้ 6 วัน ปิดข่าวเงียบ
“ภูมิธรรม” ส่งผบ.ทบ.ไทย เคลียร์กัมพูชา เหตุปะทะ “ช่องบก” ให้ทหารสองฝ่ายอยู่ตามแนวเดิม รอสถานการณ์นิ่งสงบ เดินหน้าคุยเขตแดน
"นฤมล" รุกหนักการเมือง แต่งตั้ง "เอกราช" นั่งรองหน.กล้าธรรม ลุยขับเคลื่อนภารกิจภาคอีสาน
สมาชิกวุฒิสภา ลงพื้นที่ จ.ระยอง จี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบโรงงานผลิตน้ำแข็ง
นักศึกษาเกาหลีที่อเมริกาถูกเตือนเรื่องโพสต์โซเชียล
“ภูมิธรรม” ยันไร้ศึกแพทย์กับนักการเมือง ปมชั้น 14

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น