ประเด็นที่หลายคนตั้งคำถามว่า เมื่อศาลปกครองสูงสุดตัดสินอย่างนี้แล้ว นางสาวยิ่งลักษณ์จะกลับมาประเทศไทย โดยเฉพาะในเชิงกฎหมาย คือ การยอมติดคุก แต่ในเชิงของคดีที่ต้องชดใช้เงินหนึ่งหมื่นล้านบาท ก็ปล่อยให้ถูกฟ้องล้มละลายไป จะเป็นอย่างนั้นหรือไม่ นายแก้วสรร กล่าวว่า แน่นอนครับก็ปล่อยให้ฟ้องล้มละลายไป รอจนสามปีก็ถือว่าคดีจบแล้ว ถือว่าสิ้นกระแสความ แต่สิ่งที่สำคัญจะต้องกลับมาติดคุกก่อน ทั้งนี้ตนได้ตั้งคำถามต่อว่า หากเป็นอย่างนั้นนางสาวยิ่งลักษณ์จะกลับมาเพื่ออะไร เพราะเงินหมดแล้ว หรือหากกลับมาจริงๆ ก็จะต้องไม่ต้องติดคุก หรือต้องติดให้น้อยที่สุดมากกว่า”

ส่วนชะตากรรมที่เกิดขึ้นกับนางสาวยิ่งลักษณ์ จะส่งสัญญาณถึงไปถึงนายทักษิณ โดยผลจะออกมาเป็นลบหรือไม่ นายแก้วสรร กล่าวว่า ศาลจะตัดสินอย่างไรก็เป็นอำนาจของศาล แต่เท่าที่จากเช็คดูก็สามารถเชื่อถือได้ ส่วนนายทักษิณจะรู้สึกอย่างไร หนีไม่หนีก็ขึ้นอยู่กับตัวเอง ตนไม่รู้ว่าจะคาดเดาอย่างไร

เมื่อถามว่านักฎหมายหลายคนมองว่า นายทักษิณ อาจจะไม่โชคร้ายแค่คดีหนึ่งปีที่ต้องกลับไปติดคุกใหม่ แต่อาจจะมีคดีอื่นตามเป็นชุดใหญ่ นายแก้วสรร กล่าวว่า มีคดีม.112 รออยู่แล้ว คดีอื่นมีปัญหาเรื่องการช่วยเหลือให้นอน รพ.ตำรวจจริง โดยนายทักษิณรู้เห็นเป็นใจ อาจโดนฐานสนับสนุนเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพิ่มเข้าไปอีก ความผิดมีอยู่แต่ทั้งนี้อยู่ที่ใจของนายทักษิณเอง พร้อมกล่าวว่าปฏิกิริยาที่คนในพรรคเพื่อไทยเคลื่อนไหวรู้สึกหดหู่ เช่น โพสต์ข้อความว่าถูกปล้นความยุติธรรมซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่ใช่การแสดงความหดูหู่แต่ต้องอธิบายตนเอง ส่วนเรื่องนายทักษิณจะหนีออกนอกประเทศหรือไม่ ตนมองว่านายทักษิณเป็นผู้ที่ถือตนเองเป็นหลัก กล้าใช้น้อง ใช้ลูกสาว ให้เป็นนายกทั้งที่ไม่พร้อม หากย้อนกลับไปก็ได้ใช้ชื่อลูกๆ เพื่อซุกหุ้นตั้งแต่เด็กๆ ที่สำคัญจะเห็นว่าใครก็ตามที่ช่วยนายทักษิณและติดคุกเป็นแถวๆ เขาก็จะนิ่งเฉย พูดง่ายๆ ว่าเป็นคนที่เห็นแก่ตัว ดังนั้นการที่จะยอมติดคุกเพื่อเสียสละดำรงไว้ซึ่ง พรรคเพื่อไทยและลูกสาว ตนมองว่าเขาไม่ใช่คนเสียสละอย่างนั้น

รับชมรายการจับตาประเทศไทย ทางช่อง Top News (คลิกที่นี่)