ตร.แถลงรวบแก๊งคอลเซนเตอร์ 5 ราย ลวงเหยื่อลงทุนทำภารกิจปลอม พร้อมยึดเงินสด 3 ล้านบาท

ตร.ปอท. ทลายเครือข่ายแก๊งคอลเซนเตอร์ หลอกเหยื่อให้ลงทุนทำภารกิจปลอม จับกุมผู้ต้องหา 5 ราย พร้อมยึดเงินสด 3 ล้านบาท

ตร.แถลงรวบแก๊งคอลเซนเตอร์ 5 ราย ลวงเหยื่อลงทุนทำภารกิจปลอม พร้อมยึดเงินสด 3 ล้านบาท – Top News รายงาน

 

เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) แถลงข่าว กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ทลายเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ใช้กลโกงหลอกให้ลงทุนในภารกิจปลอม Cracking Down Mission Scams

โดย เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (กก.1 บก.ปอท.) ตรวจสอบพบว่า กลุ่มคนร้ายมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการหลอกลวงที่ซับซ้อน โดยเริ่มต้นจากการโฆษณาผ่านโซเชียลฯ เพื่อรับซื้อภาพถ่าย และชักชวนผู้เสียหายให้แอดไลน์พูดคุย กับบุคคลที่อ้างว่าเป็นพนักงานของบริษัทจัดการโฆษณาออนไลน์ หลอกลวงว่าจะได้รับผลตอบแทนหรือโบนัสจากการส่งภาพถ่ายเข้าร่วมโปรโมทและร่วมลงทุน

 

รวบแก๊งคอลเซนเตอร์

ข่าวที่น่าสนใจ

ซึ่งช่วงแรก ผู้เสียหายจะได้รับผลตอบแทนจริง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ จากนั้น คนร้ายจะชักชวนให้ผู้เสียหายเข้ากลุ่มไลน์ เพื่อทำภารกิจส่งเสริมการตลาด โดยอ้างว่า ทำงานง่าย ได้ค่าตอบแทนสูงถึงร้อยละ 30-50 ของยอดเงินลงทุน มีการแอบอ้างชื่อบุคคล ที่มีชื่อเสียงในวงการธุรกิจเป็น “โค้ช” และมี “หน้าม้า” เข้ามาร่วมในกลุ่มเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น โดยผู้เสียหายจะถูกชักจูงให้ลงทุนผ่านเว็บไซต์ STI CURRENCY MARKET (https://sticurrencymarket.com) เมื่อผู้เสียหายโอนเงินลงทุนครบตามจำนวนภารกิจ และต้องการถอนเงิน คนร้ายจะอ้างว่า ผู้เสียหายทำผิดกฎ ไม่สามารถถอนเงินได้ และจะต้องโอนเงินเพิ่มเพื่อ “ปลดล็อก” และแก้ไขข้อผิดพลาด ทำให้ผู้เสียหายสูญเสียเงินจำนวนมาก

จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า มีผู้เสียหายที่ถูกหลอกให้ลงทุนผ่านเว็บไซต์ STI CURRENCY MARKET แล้ว 7 ราย คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 2.4 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังพบว่า มีบัญชีม้าที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มนี้ถึง 67 บัญชี คิดเป็นมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 15 ล้านบาท

เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปอท. จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับ ผู้ร่วมขบวนการนำไปสู่การเข้าตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหา 5 ราย ประกอบด้วย นายเทียน (MR.TIAN) อายุ 29 ปี สัญชาติจีน, นายลี (MR.Li) อายุ 44 ปี สัญชาติจีน, นายสิทธิบูรณ์ อายุ 34 ปี, นายกิตติชัย และ น.ส.สุภาพร พร้อมยึดเงินสด 3 ล้านบาท กลับคืนมาได้ด้วย โดยทั้งหมดถูกแจ้งข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น, ร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม, สมคบกันฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงิน”

 

 

ทั้งนี้ หลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าว ผู้เสียหาย ในคดีได้นำช่อดอกไม้เข้ามอบเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ พร้อมขอบคุณที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ในการจับกุมมิจฉาชีพและติดตามเงินมาคืนได้อย่างรวดเร็ว พร้อมเล่าว่า ตนเป็นหนึ่งในผู้เสียหาย ที่ถูกหลอกลวงจากมิจฉาชีพกลุ่มนี้ ซึ่งตนโชคดีมากที่รู้ตัวเร็ว จึงได้ทำการแจ้งความกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจจนกระทั่งสามารถติดตามจับกุมผู้กระทำผิดและนำเงินของตน มาคืนได้ซึ่งตนอยากจะฝากเตือน ประชาชนอย่าหลงเชื่ออะไรง่ายๆถ้าไม่อยากตกเป็นเหยื่อเหมือนตน

   

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"หมออลงกต" นำเสนอร่างกฎหมาย ยกระดับ อสม. สู่การเป็นวิชาชีพที่มั่นคง หนุนสวัสดิการ-เงินค่าตอบแทนต่อเนื่อง
รองผู้ว่าฯ พิษณุโลกประสาน อบต.วังพิกุล เร่งแก้ปัญหาพนังกั้นน้ำแตก หลังสถานการณ์น้ำท่วมวิกฤต พร้อมมอบถุงยังชีพช่วยชาวบ้าน
“อนุทิน” เตรียมนำโครงการคนละครึ่งกลับมาใช้อีกครั้งในเวอร์ชันใหม่ กระตุ้นเศรษฐกิจ
กาฬสินธุ์ เปิดโครงการมันสำปะหลังสะอาดเพิ่มมูลค่าผลผลิตทางการเกษตร
"นันทิวัฒน์" ฝาก 4.ข้อ "อนุทิน" ควรเร่งทำใน 4 เดือน "ภูมิใจไทย" แย้มแผนแก้ศก. ฟื้น "คนละครึ่ง" ยุคลุงตู่
นักท่องเที่ยวสายมู เที่ยวชมพระอุโบสถเรือหงษ์ หนึ่งเดียวในอุตรดิตถ์ที่สวยงาม

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​