เจ้าหน้าที่ทางการอิหร่าน บอกสำนักข่าว CNN แบบไม่เปิดเผยนาม ว่า อิหร่านประเมินเหตุขัดข้องและการทอดเวลาเจรจา ซึ่งขัดกับความต้องการของอิหร่าน เป็นเกมการเมืองและเล่นกับสื่อของฝ่ายอเมริกา อิหร่านจึงต้องเตรียมรับฉากทัศน์ที่จะเกิดขึ้น หากการเจรจาล้มเหลว
การประเมินของอิหร่านมีขึ้นหลังจาก สตีฟ วิตคอฟฟ์ ทูตพิเศษสหรัฐฯ เตือนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (9 พ.ค.) ว่า หากการเจรจารอบต่อไปที่โอมาน วันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคมนี้ ไม่ได้ผลลัพธ์น่าพอใจ สหรัฐฯจะไม่สานต่อ และจะใช้แนวทางที่แตกต่างออกไป แต่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯรายหนึ่งบอก CNN ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีความปรารถนาบรรลุข้อตกลงกับอิหร่านอย่างจริงใจ และมุ่งมั่นทำให้สำเร็จ นั่นคือการสร้างหลักประกันว่า อิหร่านจะต้องไม่มีทางได้อาวุธนิวเคลียร์มาครอบครอง ทั้งยังหวังจะเห็นสันติภาพตะวันออกกลางอย่างยั่งยืน ความสัมพันธ์แบบใหม่กับอิหร่านและกับประชาชนชาวอิหร่าน
ขณะที่ แหล่งข่าวอิหร่าน กล่าวว่า ฝ่ายสหรัฐฯ ยังไม่พร้อมสำหรับการเจรจาอย่างมีความหมายในทางการเมืองและทางเทคนิค สหรัฐฯมักตอบคำถามแบบทั่วไปและสั้น ๆ เพิกเฉยข้อเสนอหลัก และเปลี่ยนจุดยืนตลอดเวลา สถานการณ์เช่นนี้ ทำให้อิหร่านสรุปว่าการเจรจา ไม่น่าจะนำไปสู่ผลลัพธ์เรื่องการผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตร และผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจอย่างที่คาดหวัง และรัฐบาลเตหะราน กำลังเตรียมรับความเป็นไปได้ที่อาจเกิดขึ้นในทางการเมือง เศรษฐกิจและอื่น ๆ
สตีฟ วิตคอฟฟ์ บอกกับ เบรตบาร์ต ( Breitbart) สื่อแนวขวาในสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมว่า โครงการเพิ่มสมรรถนะแร่ยูเรเนียมคือเส้นแดง และอิหร่านต้องไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งนั่นหมายถึงการรื้อทำลายโรงงานนิวเคลียร์ นาทานซ์ ฟอร์โดว์ และ อีสฟาฮาน ขณะเจ้าหน้าที่อิหร่าน ที่ให้ข่าวกับ CNN ย้ำว่า เรื่องนี้ เป็นเส้นแดงของอิหร่านในการเจรจาเช่นกัน และสหรัฐฯเองก็รู้ดี
ล่าสุด นายอับบาส อารักชี รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน กล่าวผ่านคลิปวิดีโอ ก่อนออกเดินทางมุ่งหน้ากรุงมัสกัต เมืองหลวงโอมาน เพื่อเจรจากับสหรัฐฯรอบที่ 4 ว่า การเพิ่มสมรรถนะแร่ยูเรียมบนแผ่นดินอิหร่าน เป็นศักดิ์ศรีและความสำเร็จของอิหร่านที่ไม่อาจนำมาต่อรองได้ เขาคาดหวังว่าการเจรจาในวันนี้ จะคืบหน้าไปถึงจุดตัดสินใจได้เสียที ทั้งเรื่องการผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรและสิทธิในการพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์อย่างสันติ