“ดนุพร” ลั่นไม่เคยพูด “ทักษิณ” ป่วยวิกฤต แจงยิบถามนายกฯแล้ว ภาพใส่เฝือกคอ-คล้องแขน

“ดนุพร” ลั่นไม่เคยพูด “ทักษิณ” ป่วยวิกฤต แจงยิบถามนายกฯแล้ว ภาพใส่เฝือกคอ-คล้องแขน

วันนี้9 พ.ค. 68 นายดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการแพทยสภามีมติลงโทษแพทย์ 3 รายที่เกี่ยวข้องกับอนุญาตให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไปรักษาตัวที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ ว่า เรื่องนี้ในพรรคยังไม่มีการพูดคุยกัน เพราะอยู่ในช่วงของปิดสมัยประชุมสภา ส่วนที่ในโซเชียล มีการออกมาแซะตนกรณีที่เคยแถลงว่านายทักษิณมีอาการป่วยวิกฤตนั้น ยืนยันว่าตนไม่เคยพูดว่าวิกฤตเลย ตนพูดเท่าที่ได้รับทราบมาเท่านั้นว่าท่านป่วย และได้รับการผ่าตัด

 

 

นายดนุพร กล่าวว่า ความจริงไม่ใช่หน้าที่ที่ตนต้องไปแถลงด้วยซ้ำ เพราะนายทักษิณไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค แต่เนื่องจากมีคนโทรศัพท์เข้ามาสอบถามข้อมูลจากที่พรรคเยอะมาก ตนในฐานะโฆษกพรรค ซึ่งได้รับทราบข้อมูลจากทางพรรคว่านายทักษิณป่วย และต้องผ่าตัดเท่านั้น ซึ่งโดยส่วนตัวไม่ได้เจอนายทักษิณด้วยซ้ำ เพราะนายทักษิณอยู่โรงพยาบาลตำรวจ ภายใต้การควบคุมของกรมราชทัณฑ์ และตนไม่ได้เป็นหมอ ซึ่งคำว่าวิกฤตของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ถ้ายกตัวอย่างเป็นญาติของตน มีอาการป่วยถึงขั้นผ่าตัด ตนก็ต้องบอกว่าถึงขั้นวิกฤตแล้ว แต่ในมุมของหมออาจจะมองว่าไม่วิกฤต ไม่หนักอะไร ซึ่งอยู่ที่มุมมองมากกว่า

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายดนุพร กล่าวว่า ตอนแถลงอาการ “ทักษิณ” สอบถาม “อุ๊งอิ๊งค์” แล้ว ใส่เฝือกคอเพราะเป็นโรคกระดูกคอเสื่อม หมอแนะนำให้ผ่าตัด แต่ขอออกมาก่อน เพราะยังมีหลายโรครุมเร้า คล้องแขนเพราะเส้นเอ็นเปื่อยยุ่ย ผ่าตัดแล้วแต่ยังไม่ปกติ อยู่ รพ.ไม่ได้ออกกำลังกาย ซ้ำก่อนหน้านี้ติดโควิด 3 รอบ หนักถึงขั้นเข้าไอซียู อายุ 70 แล้วจึงยังมีอาการรุมเร้าตลอด

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 67 นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคเพื่อไทย ได้แถลงถึงอาการป่วยของนายทักษิณ ชินวัตร ที่เพิ่งได้รับการพักโทษและออกจาก รพ.ตำรวจกลับไปอยู่ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า โดยต้องใส่เฝือกอ่อนที่คอและที่แขนข้างขวา ว่า นายทักษิณมีอาการป่วยหลายโรค โดยก่อนที่จะกลับเข้ามาในประเทศไทยนั้นนายทักษิณติดเชื้อโควิดมาแล้ว 3 รอบ โดยรอบแรกเป็นรอบที่หนักที่สุด อยู่ในช่วงที่อู่ฮั่นกำลังระบาด มีอาการเจ็บป่วยอยู่เป็นเดือน อาการหนักถึงขนาดต้องเข้าห้องไอซียู หลังจากนั้นก็ติดโควิดอีก 2 รอบ ซึ่งอาการลองโควิดของนายทักษิณนั้น มีอาการตามมาเยอะมาก เนื่องจากนายทักษิณเป็นผู้ป่วยที่มีอายุกว่า 70 ปีแล้ว อาการโควิดนั้นเป็นอาการหนึ่งที่รุมเร้ามาตลอด

ส่วนที่ปรากฏภาพนายทักษิณใส่เฝือกที่คอนั้น นายดนุพร กล่าวว่า จากการที่ได้คุยกับ หัวหน้าพรรค (นางสาวแพทองธาร ชินวัตร) ทราบว่า นายทักษิณเป็นโรคกระดูกคอเสื่อม ซึ่งผลจากการตรวจอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลตำรวจ จากการทำเอ็มอาร์ไอ หมอที่โรงพยาบาลตำรวจได้แนะนำ ให้นายทักษิณเข้ารับการผ่าตัด ซึ่งเป็นไปตามวัย แต่นายทักษิณขอออกมาจากโรงพยาบาลก่อน แล้วจึงจะกลับเข้าไปรักษา เนื่องจากยังมีอีกหลายโรคที่รุมเร้าอยู่

 

ส่วนภาพที่เห็นคล้องแขนออกมานั้น หัวหน้าพรรคบอกว่าเป็นเส้นเอ็นเปื่อยยุ่ย ซึ่งต้องทำกายภาพหลังจากนี้ไม่ต่ำกว่า 1 ปี จึงจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ โดยโรคนี้เป็นโรคที่เกิดขึ้นในผู้สูงอายุหลายๆ คน และสาเหตุที่หายช้าเนื่องจากตลอดระยะเวลา 6 เดือนที่นายทักษิณ อยู่ภายใต้การดูแลของกรมราชทัณฑ์ ที่โรงพยาบาลตำรวจ แทบจะไม่ได้มีการออกกำลังกาย ทำให้กล้ามเนื้อร่วงโรยไปตามวัย เร็วกว่าคนที่สามารถออกกำลังกายได้ และในขณะอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ ก็ได้เข้ารับการผ่าตัด เพื่อที่จะทำให้เส้นเอ็นเข้าสู่สภาวะปกติ แต่ด้วยวัย จึงจำเป็นที่จะต้องใส่เฝือกอ่อนที่แขนไว้ก่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ชาวบ้าน ฮือฮา เศรษฐีใจบุญ ถวายที่ดินมูลค่ากว่า 40 ล้าน สร้างองค์พระใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก
“นายกเบี้ยว” ประกาศ “ภรรยา” คว้าชัยชนะนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี “ลูกพีช” ได้เป็นสท.
“กกต.” แถลงปิดหีบเลือกตั้งเทศบาล พบฉีกบัตร 5 จังหวัด รวม 6 ราย เตรียมประกาศผลอย่างเป็นทางการภายใน 30 วัน
"ลูกสส.คนดัง" สงขลา สั่งสมุนรุมทำร้ายตำรวจ ไม่พอใจถูกห้ามถ่ายรูปในหน่วยเลือกตั้ง
ยะลาคึกคัก จัดพิธี "เวียนเทียน" เที่ยงวัน เนื่องในวันวิสาขบูชา คุมเข้มความปลอดภัยพุทธศาสนิกชน
"รอยตุ๊" โพสต์ขอร้อง "ชัชชาติ" อย่าลงสมัครผู้ว่าฯกทม.อีกสมัย คอมเมนต์เห็นด้วยพรึ่บ
"โฆษกภูมิใจไทย" ปฎิเสธข่าว คว่ำร่างพ.ร.บ.งบประมาณ 69 ชี้ไม่มีเหตุไม่สนับสนุน กม.เป็นประโยชน์พัฒนาประเทศ
รวบ “เจ๊เจี๊ยบ” หลอกคนไทยไปทำงานต่างประเทศ ผู้เสียหายนับร้อย เสียหายกว่า 30 ล้านบาท
"กรมโยธาฯ" แจง 3 ข้อ ปมเหตุก่อสร้างซุ้มประตูเมือง จ.อุดรธานี ล่าช้า
โฆษกเพื่อไทย สยบลือ ร้องหยุดโจมตี "ภูมิใจไทย" พร้อมคว่ำงบฯ 69 ตอบโต้คดีฮั้วสว. ยันพรรคร่วมฯทำงานปกติ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น