“พิชัย” ยกเครื่อง Thai SELECT โฉมใหม่ “ติดดาว” ดันซอฟต์พาวเวอร์อาหารไทยสู่ระดับโลก พร้อมชวนคนไทย-ต่างชาติ สัมผัสรสชาติไทยแท้

"พิชัย" ยกเครื่อง Thai SELECT โฉมใหม่ "ติดดาว" ดันซอฟต์พาวเวอร์อาหารไทยสู่ระดับโลก พร้อมชวนคนไทย-ต่างชาติ สัมผัสรสชาติไทยแท้

เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2568 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงฯ ได้สนับสนุนการพัฒนาและส่งเสริมอาหารไทยและร้านอาหารไทยมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2541 โดยมีตราสัญลักษณ์ Thai SELECT เป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคทั่วโลก ว่าร้านอาหารหรือผลิตภัณฑ์ที่ได้รับตรานี้จะมอบประสบการณ์รสชาติไทยแท้ ผ่านกระบวนการปรุงอาหารที่พิถีพิถันตามต้นตำรับ และได้มาตรฐานคุณภาพในระดับสากล

 

ด้วยกระแสความนิยมอาหารไทยที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ปัจจุบันมีร้านอาหารไทยในต่างประเทศกว่า 18,852 ร้าน โดยในจำนวนนี้ ได้รับตรา Thai SELECT แล้วทั้งสิ้น 1,779 แห่ง และในประเทศไทยเอง ก็มีร้านที่ได้รับตรานี้แล้วถึง 496 แห่ง ขณะเดียวกัน ยังมีผลิตภัณฑ์อาหารไทยสำเร็จรูปที่ได้รับตรา Thai SELECT รวมกว่า 965 รายการ จากผู้ประกอบการ 109 บริษัท ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในมาตรฐานอาหารไทยที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง

นายพิชัย กล่าวว่า “กว่า 2 ทศวรรษ ตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ทำหน้าที่ส่งเสริมและสร้างความเชื่อมั่นให้ร้านอาหารและผลิตภัณฑ์อาหารไทยบนเวทีโลก มาถึงวันนี้ กระทรวงพาณิชย์ต้องการยกระดับให้ Thai SELECT ก้าวขึ้นสู่การเป็น Global Brand ที่สื่อสารกับผู้บริโภคทั่วโลกได้อย่างทรงพลัง เราจึงปรับรูปแบบตราและเกณฑ์การมอบตราครั้งสำคัญ โดยใช้ ‘ดาวเกียรติยศรูปดอกกล้วยไม้’ เป็นสัญลักษณ์ เพื่อสะท้อนถึงคุณภาพระดับสากล รสชาติไทยแท้ และประสบการณ์ที่เปี่ยมด้วยเสน่ห์”

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ร้าน Thai SELECT โฉมใหม่จะถูกแบ่งเป็น 4 ระดับ คือ Thai SELECT 1 ดาว, 2 ดาว, 3 ดาว และ Thai SELECT Casual ครอบคลุมตั้งแต่ร้านเล็ก ราคาย่อมเยา ไปจนถึงร้านหรูระดับพรีเมียมที่มอบประสบการณ์อาหารไทยชั้นเลิศ โดยมีการปรับเกณฑ์ประเมินเข้มข้นขึ้นใน 5 ด้านหลัก ได้แก่ รสชาติและการนำเสนออาหาร บรรยากาศและประสบการณ์ของผู้บริโภค มาตรฐานสุขอนามัย ความเชี่ยวชาญของเชฟ และคุณภาพวัตถุดิบ

ขณะนี้ มีร้านอาหารไทยในต่างประเทศ 177 แห่ง ที่ได้รับ “ดาวเกียรติยศ” โดยมี 2 ร้าน ที่คว้าตราระดับสูงสุด Thai SELECT 3 ดาว ได้แก่ ร้าน Plah ที่ประเทศนอร์เวย์ และร้าน Boon Nam ที่ฟินแลนด์ ร้านที่เหลือยังอยู่ในกระบวนการประเมินตามเกณฑ์ใหม่ โดยสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.)

นายพิชัย กล่าวว่า “ก่อนมาเป็นนักการเมือง ผมเดินทางบ่อยและมักแวะชิมอาหารไทยในหลายประเทศ ซึ่งเจอทั้งร้านที่รสชาติดีและไม่ดี ผมจึงอยากให้คนทั่วโลกได้สัมผัสรสชาติอาหารไทยแท้จริง ไม่ใช่แบบที่ถูกดัดแปลงจนเสียเอกลักษณ์ Thai SELECT คือเครื่องยืนยันว่าร้านนั้นๆ ได้มาตรฐานและให้รสชาติไทยจริง ผมยังไปแจกตรา Thai SELECT ให้ร้านในต่างประเทศด้วยตัวเอง และเพื่อให้ต่างชาติเข้าใจง่าย เราจึงปรับสัญลักษณ์เป็นรูปดาวคล้ายกับมาตรฐาน ‘มิชลินสตาร์’ ซึ่งเป็นสิ่งที่คนทั่วโลกคุ้นเคย”

 

 

 

นอกจากนี้ นายพิชัยยังเผยว่า กระทรวงฯ เตรียมเดินหน้ากลยุทธ์การสื่อสาร Thai SELECT อย่างเข้มข้น ด้วยกิจกรรมส่งเสริมการตลาดในและต่างประเทศ การขยายช่องทางสื่อสารไปยังแพลตฟอร์มใหม่ๆ เช่น การจัดทำ เกมออนไลน์ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ทั่วโลก ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการผลักดันอาหารไทยให้เป็น ซอฟท์พาวเวอร์ ที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรม ตามนโยบายรัฐบาลที่เน้นสร้างรายได้ผ่านการเพิ่มมูลค่าสินค้าและเสริมภาพลักษณ์ของไทยในฐานะ ‘ครัวของโลก’

“ในอนาคต ผมอยากให้คนทั่วโลกรู้ว่า ถ้าจะกินอาหารไทยที่ได้มาตรฐาน ต้องมองหาตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ผมขอเชิญชวนคนไทยเองด้วย ลองไปชิมร้าน Thai SELECT ใกล้บ้าน หรือเวลาเดินทางไปต่างประเทศก็สังเกตร้านที่มีตรานี้ รับรองว่าจะได้สัมผัสรสชาติอาหารไทยแท้ ๆ ที่ผ่านการรับรองแล้วว่าดีจริง หากร้านใดรักษาคุณภาพไม่ได้ ก็จะมีการลดดาวลง เพื่อให้มั่นใจว่าผู้บริโภคจะได้ของดีเสมอ“ นายพิชัย กล่าว

ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับตรา Thai SELECT หรือสมัครขอรับตราสัญลักษณ์ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.thaiselect.com

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

หนุ่มหลอนยาซิ่งเก๋งพุ่งแหกด่านตรวจ ตำรวจตามรวบตัว พบยาอื้อ โดนหนัก 7 ข้อหา
มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา ให้การต้อนรับเยาวชนจาก 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 320 คน อย่างอบอุ่น ในโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 45 จัด “ค่ายประวัติศาสตร์ชาติไทย”
ปลุกเสกกระสุนพลาสติก ยิงเป้า 'วุ้นเส้น' กลางงานถนนคนเดินยูวิลล์มาร์เก็ต ผู้จัดประกาศไล่สิ่งชั่ว–คืนสีสันให้คนโคราช
จนท.เร่งตรวจสอบโครงสร้าง "อาคาร ROUTE 66" ย่าน RCA หลังเกิดเหตุไฟไหม้
"นฤมล" พรรคกล้าธรรม คว้าเก้าอี้เลือกตั้งซ่อม ส.อบจ.เชียงราย
มุกดาหาร ชสอ.แถลงข่าวมหกรรมข้อมูล ล่าสุด ณ เดือนธันวาคม 2567 ชี้ให้เห็นว่า เฉพาะเครือข่ายสหกรณ์ออมทรัพย์ มี สินทรัพย์รวมกันสูงถึง 3.43 ล้านล้านบาท มีการให้เงินกู้แก่สมาชิกเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตไปแล้วกว่า 2.39 ล้านล้านบาท และที่สำคัญที่สุดคือ มียอดเงินรับฝากจากสมาชิกรวมกันสูงถึง 1.43 ล้านล้านบาท ประกอบกับมี ทุนเรือนหุ้นของสมาชิกอีกกว่า 1.37 ล้านล้านบาท ตัวเลขมหาศาลนี้ยืนยันว่าสหกรณ์ออมทรัพย์คือแหล่งเงินออมภาคสมัครใจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศรองจากธนาคารพาณิชย์ และเป็นกลไกสำคัญที่สร้างผลตอบแทนในรูปของ "เงินปันผล" และ "เงินเฉลี่ยคืน" กลับสู่สมาชิกโดยตรง ช่วยลดความเหลื่อมล้าและกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นอย่างเป็นรูปธรรม มหกรรมวันออมแห่งชาติ ปี 2568 ณ จังหวัดมุกดาหาร ด้วยความสำคัญดังกล่าว ในปี 2568 นี้ เราจึงร่วมกับจังหวัดมุกดาหาร จัด "มหกรรมวันออมแห่งชาติ" ภายใต้แนวคิด "พลังสหกรณ์ ส่งเสริมความมั่นคงทางการออมให้คนไทย" และนับเป็นพระคุณอย่างสูง ที่ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของขบวนการสหกรณ์และการออมของภาคประชาชน โดยท่านได้กรุณาให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีเปิดงานในวันที่ 31 ตุลาคม 2568 ณ ศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร ซึ่งเป็นการตอกย้ำว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการออมเป็นวาระแห่งชาติ สาหรับกิจกรรมในวันงาน 31 ตุลาคม 2568 จะมีความหลากหลายตลอดทั้งวัน เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมและส่งต่อแรงบันดาลใจในทุกมิติ ประกอบด้วย: ภาคเช้า กิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ "Mekong Savings Run & Ride 2025" การเดิน-วิ่ง และ ปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพริมฝั่งโขง เป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นสร้างความมั่นคงจากสุขภาพกาย สู่สุขภาพทางการเงิน ภาคกลางวัน เวทีสัมมนาวิชาการ "ก้าวข้ามกับดัก เพื่อโอกาสสหกรณ์ไทยให้ยั่งยืน" และทอล์คโชว์ "อนาคตการออมไทย ขับเคลื่อนโดยพลังสหกรณ์" โดยผู้เชี่ยวชาญระดับประเทศ เพื่อมอบความรู้และเปิดมุมมองใหม่ๆ ทางการเงิน ภาคค่ำ งานเลี้ยงสังสรรค์ "Cooperative Power Night" และพิธีมอบโล่รางวัลเชิดชูเกียรติ "สหกรณ์ส่งเสริมการออมยอดเยี่ยม" เพื่อยกย่องสหกรณ์ที่เป็นต้นแบบในการสร้างวินัย ทางการเงิน ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวมุกดาหารและจังหวัดใกล้เคียง รวมถึงเครือข่ายสหกรณ์ทั่วประเทศ เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงานประวัติศาสตร์ครั้งนี้ เพื่อร่วมกันประกาศเจตนารมณ์และสร้างวัฒนธรรมการออมที่เข้มแข็งให้แก่สังคมไทย เพราะเราเชื่อว่า "เงินออมของสมาชิกทุกคน คืออิฐแต่ละก้อนที่ประกอบกันขึ้นเป็นรากฐานเศรษฐกิจที่มั่นคงของประเทศ" มาร่วมกันทาให้วันที่ 31 ตุลาคม ไม่ใช่เป็นเพียงวันออมแห่งชาติ แต่เป็นวันที่คนไทยทุกคนเริ่มต้นสร้างอนาคตที่มั่นคงให้กับตนเองและประเทศชาติสืบไป. ภาพ-ข่าว อนุศักดิ์ - เสาวภา แสนวิเศษ ผู้สื่อข่าวTOPNEWSทั่วไทย จ.มุกดาหาร ประจาปี 2568 ส่งเสริมความมั่นคงทางการออมให้คนไทย

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​