“อัษฎางค์” แจงที่มาร้องเอาผิด “ดร.พอล” ยันแปลข้อความพบหมิ่นสถาบันฯ ไม่ได้บิดเบือนเนื้อหา

"อัษฎางค์" แจงที่มาร้องเอาผิด "ดร.พอล" ยันแปลข้อความพบหมิ่นสถาบันฯ ไม่ได้บิดเบือนเนื้อหา

“อัษฎางค์” แจงที่มาร้องเอาผิด “ดร.พอล” ยันแปลข้อความพบหมิ่นสถาบันฯ ไม่ได้บิดเบือนเนื้อหา

ไม่มีคำอธิบายรูปภาพ

30 เม.ย.2568 นายอัษฏางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ ได้โพสต์เฟซบุ๊กเขียนจดหมายเปิดผนึกเรื่อง ชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการแปลข้อมูลและแหล่งที่มาของเนื้อหาในกรณี พอล แชมเบอร์ส

 

โดยนายอัษฏางค์ระบุ รายละเอียดว่า เรียนสาธารณชน ตามที่มีผู้พยายามตั้งข้อสังเกตและเผยแพร่ข้อมูลว่า ผมแปลเนื้อหาเกี่ยวกับกรณีของ พอล แชมเบอร์ส ผิดจากความจริง โดยอ้างว่าเนื้อหาต้นทางที่ผมนำมาเผยแพร่นั้น มีการใช้สรรพนามบุรุษที่สาม หรือ He และมิใช่คำพูดโดยตรงของพอล แชมเบอร์สเองนั้น

 

เพื่อความชัดเจนและเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย ผมขอเรียนชี้แจงข้อเท็จจริงดังนี้

1.ข้อความที่ผมนำมาแปลและโพสต์ ไม่มีการใช้สรรพนามบุรุษที่หนึ่ง หรือ I หรือสรรพนามบุรุษที่สาม หรือ He แต่อย่างใด ผมได้แปลและนำเสนอจากข้อความดังกล่าวโดยตรง มิได้มีการเสริม เติม หรือบิดเบือนเนื้อหาแต่อย่างใด

2. เกี่ยวกับ Link ต้นทาง โดยหลักปฏิบัติของผม เมื่อลงบทความหรือข้อเขียนเกี่ยวกับประเด็นสำคัญ ผมมักแนบ link ต้นทางไว้เป็นหลักฐานเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ อย่างไรก็ดี ในช่วงเวลาที่มีข่าวการดำเนินคดีเกี่ยวกับพอล แชมเบอร์ส ผมพบว่าไม่สามารถเข้าถึง link ต้นทางได้ และเข้าใจว่าอาจถูกลบหรือปิดกั้นการเข้าถึง

ข่าวที่น่าสนใจ

ต่อมาเมื่อวันที่เสาร์ที่ผ่านมา ได้มีบุคคลซึ่งระบุว่าตนเองเป็น “บรรณาธิการสื่อสีส้ม ” เข้ามาคอมเมนต์ในโพสต์เก่าของผมที่เผยแพร่ไว้กว่าครึ่งปีแล้ว โดยชี้แจงว่า link ดังกล่าวเป็นเนื้อหาจากงานสัมมนา เมื่อผมลองตรวจสอบ พบว่า ณ ขณะนั้นสามารถเข้าถึงได้แล้ว และพบว่าเป็น link งานสัมมนาจริง อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาเนื้อหาทั้งหมดแล้ว ไม่ปรากฏข้อความที่ผมนำมาแปลปรากฏอยู่ในงานสัมมนาดังกล่าว

3.ข้อสรุปและเจตนา ผมแปลเนื้อหาจากข้อความที่มีอยู่จริงในขณะนั้น โดยไม่มีการสร้างข้อความเท็จ หรือดัดแปลงเนื้อหาแต่อย่างใด ผมตั้งข้อสังเกตเชิงกฎหมายบนพื้นฐานของข้อความที่ปรากฏ โดยมิได้สรุปกล่าวหาบุคคลใดล่วงหน้า กระบวนการดำเนินคดีและการวินิจฉัยข้อกฎหมาย เป็นหน้าที่ของหน่วยงานราชการและฝ่ายตุลาการตามกฎหมายในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ผมยึดถือการเสนอข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา และเคารพกระบวนการยุติธรรมเสมอหากมีความคลาดเคลื่อนหรือข้อสงสัยใด ๆ ผมพร้อมรับฟังด้วยเหตุผลและข้อเท็จจริง ไม่ใช่อคติหรือความพยายามลดทอนความน่าเชื่อถืออย่างไร้สาระ

4. จุดยืนของผมในฐานะประชาชนไทย ผมคือชาวบ้าน ประชาชนคนธรรมดาที่ทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งบัญญัติไว้ชัดเจนว่า “ประชาชนมีหน้าที่พิทักษ์รักษาสถาบันหลักของชาติ” การที่ผมตั้งคำถาม หรือชี้ข้อสงสัยเกี่ยวกับเนื้อหาที่อาจบ่อนทำลายพระมหากษัตริย์ จึงมิใช่การสร้างความแตกแยก แต่คือการทำหน้าที่ของประชาชนผู้จงรักภักดี หากพวกท่านเป็นคนไทยเช่นเดียวกับผม ท่านควรสนับสนุนการพิทักษ์รักษาสถาบัพระมหากษัตริย์ มิใช่เลือกเข้าข้างนักการเมืองหรือนักวิชาการต่างชาติที่มีท่าทีเป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบันฯ ด้วยความเคารพต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชนไทย

พร้อมกันนี้กองบรรณาธิการข่าวต่างประเทศท็อปนิวส์ได้แปลข้อความภาษาอังกฤษต้นทางที่นายอัษฏางค์นำมาเปิดเผยและเห็นว่าดร.พอลหมิ่นสถาบันฯ ซึ่งก็พบว่าเมื่อแปลเป็นภาษาไทยแล้วข้อความภาษาไทยก็ตรงกันกับที่นายอัษฏางค์แปล

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"รัฐบาล" เผยมาตรการเยียวยาประชาชน 2 วิกฤตใหญ่ประเทศ "เหตุปะทะชายแดนไทย–กัมพูชา และน้ำท่วมเหนือ"
"ดร.สามารถ" จวกแรง พอเถอะนะ “มาลี” หลอกปชช.ตัวเองได้ชั่วคราว แต่ไม่มีวันหลอกชาวโลกได้
"โฆษกทบ." โต้ข่าวลือ หน่วยรบพิเศษ ร.31รอ. เข้ายึด "ปราสาทตาควาย-เนิน350" แต่โดนสั่งถอยออกจากพื้นที่
“วราวุธ” กำชับ ทีม ศรส.-พม.บุรีรัมย์ ช่วยเหลือเยียวยาครอบครัว "ส.ต.ธีรยุทธ กระจ่างทอง" สละชีพปกป้องอธิปไตย อยู่กระต๊อบ ไม่มีน้ำ-ไฟฟ้าใช้ "กัน จอมพลัง" - FC รุดมอบ 1 ล้านบาท
"กรมอุตุฯ" เตือน 31 จว. เตรียมรับมือฝนฟ้าคะนองต่อเนื่อง กทม.ก็โดนด้วย
"คณะรวมพลังแผ่นดินฯ" นำมวลชนรำลึก 15 ทหารกล้าพลีชีพ พร้อมรวมสิ่งของบริจาคส่งชายแดน "เสรีพิศุทธ์" แนะไม้เด็ด วิธียึดปราสาทตาควายให้ได้ 100%

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​