“ดีเอสไอ” คุม “ชวนหลิง จาง” ส่งศาล คดีนอมินี โยงตึกสตง.ถล่ม ยังให้การปฏิเสธ จ่อขยายผลหลังพบเส้นทางเงิน 2 พันล้าน

ดีเอสไอคุมตัว "ชวนหลิง จาง" กรรมการไชน่า เรลเวย์ ส่งศาลอาญา หลังถูกจับในคดีนอมินี โยงตึก สตง. ด้าน โฆษกดีเอสไอ เผย "ชวนหลิง จาง" ยังให้การปฏิเสธ ให้ข้อมูลแค่เพียงที่เกี่ยวข้องกับการถือหุ้นของคนจีนเท่านั้น เตรียมขยายผลหลังพบเงิน 2 พันล้าน

“ดีเอสไอ” คุม “ชวนหลิง จาง” ส่งศาล คดีนอมินี โยงตึกสตง.ถล่ม ยังให้การปฏิเสธ จ่อขยายผลหลังพบเส้นทางเงิน 2 พันล้าน – Top News รายงาน

ชวนหลิง จาง

 

เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2568 เวลา 09.55 น. คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ นำตัวนายชวนหลิง จาง กรรมการฯ ในฐานะกรรมการบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด ไปฝากขังที่ศาลอาญา รัชดาภิเษก หลังถูกดำเนินคดีในข้อหาเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 หรือคดีนอมินี

นอกจากนายชวนหลิง จาง ยังมีผู้ต้องหาชาวไทยอีก 3 คน คือ นายประจวบ, นายโสภณ และนายมานัส กรรมการผู้ถือหุ้นชาวไทยที่ถูกออกหมายจับ และเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามจับกุมตัว

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ด้าน พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เปิดเผยว่า จากการที่ได้พูดคุยกับ นายชวนหลิง จาง ยอมรับว่ารู้จักกับผู้ที่ถือหุ้นคนไทย แต่นายชวนหลิง จาง ให้ข้อมูลแค่เพียงที่เกี่ยวข้องกับการถือหุ้นของคนจีนเท่านั้น ไม่ได้พูดถึงคนที่ถือหุ้นคนไทยเลย และในเนื้อหาของสำนวนมีรายละเอียดค่อนข้างเยอะ ก็จะทำการขยายผลต่อไป เพราะตนเองไม่สามารถอธิบายเรื่องเนื้อหาในสำนวนทั้งหมดได้ ดังนั้นจึงขอเวลาให้กับเจ้าหน้าที่ได้ทำงาน และจากการสอบปากคำมีจุดเชื่อมต่อ ในการขยายผลได้มากพอสมควร

ส่วนกรณีที่พบเส้นเงิน 2 พันล้านบาทนั้นมีความเชื่อมโยงกับใครบ้าง พ.ต.ต.วรณัน ระบุว่า เรื่องเงินดังกล่าวเกี่ยวข้องกับคนไทย และเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ต้องทำการขยายผล ว่าแหล่งเงินจริงๆมาจากส่วนไหนอีกบ้าง เพราะตั้งแต่ต้นได้มีการตรวจสอบเรื่องของสถานะ ของผู้ร่วมถือหุ้นคนไทยทั้งสามคน ซึ่งเรื่องของรายละเอียดเป็นการกู้ยืมเงินเพื่อมาทำธุรกิจ ส่วนรายละเอียดมากกว่านี้จะให้ข้อมูลอีกครั้ง เพราะขณะนี้ได้ ทำการตรวจสอบเงินหมุนเวียนของทั้งสามคน

ส่วนความคืบหน้าเรื่องการออกหมายจับกับคนไทยทั้งสามคน เรื่องนี้มีความคืบหน้าค่อนข้างเยอะ หากมีรายละเอียดเพิ่มเติมจะให้ข้อมูลกับสื่อมวลชน เพราะตอนนี้กำลังเร่งดำเนินการ และมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์แน่นอน แต่ทั้งสามคนยืนยันว่ายังอยู่ในไทย และเมื่อข้อเท็จจริงเพียงพอที่จะออกหมายจับ ก็จำเป็นต้องขอให้ศาลอนุมัติหมายจับ เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย

 

เมื่อถามว่าขณะนี้ได้ตั้งประเด็นข้อสงสัยไว้บ้างหรือไม่ พ.ต.ต.วรณัน กล่าวว่า สามารถมองได้หลายมุม แต่ยังยืนยันว่าต้องการจะให้ทั้งสามคนเข้ามาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ด้วยตนเอง

ส่วนจะออกหมายจับใครเพิ่มเติมอีกหรือไม่ ขณะนี้กำลังประชุมร่วมกับคณะพนักงานสอบสวน และกำลังเร่งขยายประเด็น เพราะจากการสอบปากคำ นายชวนหลิง จาง มีข้อเท็จจริงที่ต้องไปค้นเพิ่ม เพราะในการสอบสวนเป็นการฟังความทั้งสองฝ่าย ทั้งพยานหลักฐานที่ได้จากผู้กล่าวหา ดังนั้นหลังจากนี้ก็ต้องฟังจากพยานหลักฐานของฝั่งผู้ต้องหาด้วยเช่นกัน ว่ามีเหตุผลหรือคำอธิบายอย่างไรเพื่อทำให้หักล้างกับพยานหลักฐาน ในการออกหมายจับ

ส่วนเรื่องการประกันตัวนั้น เรื่องนี้ต้องให้ศาลเป็นผู้พิจารณา เบื้องต้นตนเองเข้าใจว่าได้มีการประสานเพื่อที่จะขอยื่นการประกันตัวชั่วคราว และได้มีการอธิบายให้เข้าใจกัน ส่วนจะได้รับการประกันหรือไม่ต้องรอติดตามกระบวนการของชั้นศาล

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ศาลอาญาอนุมัติหมายจับความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 มาตรา 37 และมาตรา 41 จำนวน 4 หมายจับ ได้แก่ 1.บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด โดยนายชวนหลิง จาง กรรมการฯ ในฐานะกรรมการ 2.นายมานัส ศรีอนันท์ 3.นายประจวบ ศิริเขตร และ 4.นายโสภณ มีชัย

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ทภ.1" ย้ำไม่ร่วมถก RBC หากกัมพูชา ไม่ส่งแผนอพยพคน 3 พื้นที่
กู้ภัยหลายพื้นที่ ระดมกำลังค้นหา จนท.กู้ภัยสูญหายใต้น้ำ
ระทึกกลางกรุง! ไฟไหม้ผับดัง ROUTE 66 ย่าน RCA วอด ควันพวยพุ่ง จนท.คุมเพลิงได้แล้ว
ตำรวจโนนไทยใช้รถไถออกตรวจ ชาวบ้านยิ้มแก้มปริ หลังเห็นภาพสุดน่ารักกลางเหตุเศร้า
เขาใหญ่ไม่ขาดเลือด ครั้งที่ 4 นักท่องเที่ยวแห่บริจาคเลือด สร้างความเชื่อมั่นด้านปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ
"นายกฯอนุทิน" จัดตั้งศูนย์เยียวยาช่วยเหลือ ผู้ประสบอุทกภัย กว่า 6.8 แสนครัวเรือน พร้อมบริหารการระบายน้ำ มอบ "ธรรมนัส" เป็นประธาน

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​