“บิณฑ์” เผยผลเครื่องสแกนพื้นที่ พบ 70 ราย กระจุกตัวกลางตึกสตง.ถล่ม เร่งนำออกภาวนาให้มีปาฏิหาริย์

“บิณฑ์” เผยผลเครื่องสแกนพื้นที่ พบ 70 ราย กระจุกตัวกลางตึกสตง.ถล่ม เร่งนำออกภาวนาให้มีปาฏิหาริย์

“บิณฑ์” เผยผลเครื่องสแกนพื้นที่ พบ 70 ราย กระจุกตัวกลางตึกสตง.ถล่ม เร่งนำออกภาวนาให้มีปาฏิหาริย์

 

ข่าวที่น่าสนใจ

1 เมษายน 2568 นายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ พร้อมทีมอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิ ร่วมกตัญญู เดินทางลงพื้นที่มายังบริเวณจุดเกิดเหตุอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน โดยเปิดเผยว่าเมื่อช่วงคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ใช้เวลาประมาณ 10 ชั่วโมง ในการประชุมวางแผนการทำงาน และเข้าให้ความช่วยเหลือผู้ที่ติดค้างภายในอาคารเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ไม่ได้มีการใช้เครื่องมือหนัก ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าไปยังจุดที่สันนิษฐานว่าจะพบร่าง โดยหากในช่วงเช้าที่ผ่านมาไม่สามารถที่จะดำเนินการนำซากปรักหักพังยกขึ้นมา ได้ก็ยังคงจะต้องกลับมาใช้เครื่องมือหนักดำเนินการต่อ

 

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าไปตรงจุดที่เครื่องสแกนตรวจพบสัญญาณชีพและไม่พบผู้เสียชีวิต ที่กระจายอยู่บริเวณรอบข้างแล้ว คาดว่าน่าจะมีผู้เสียชีวิตรวมกระจุกตัวอยู่บริเวณตรงส่วนกลางของตึก ระหว่างชั้นที่ 17-21 เพราะเป็นพื้นที่ที่มีการทำงานกัน ซึ่งจากการสแกนพื้นที่พบว่า มีประมาณ 70 คน วันนี้จึงมีการวางแผนเตรียมที่ จะนำร่างผู้เสียชีวิตออกจากจุดดังกล่าวให้แล้วเสร็จ ซึ่งเดิมทีเจ้าหน้าที่ยังคงหวังว่าอาจจะมีปาฏิหาริย์ ที่จะพบผู้รอดชีวิตเพิ่มเติม ซึ่งสิ่งที่เป็นอุปสรรคในการทำงานคือ ด้วยสภาพโครงสร้างของตึกที่มีความสูงถึง 30 ชั้น ประกอบกับการก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จจึงทำให้ไม่มีแบบแปลนอาคาร อีกทั้งพื้นปูนและผนังของอาคารยังมีความหนากว่า 1 เมตร ทำให้การเจาะเข้าไปเป็นไปด้วยความยากลำบาก โดยเจ้าหน้าที่ทุกคนได้มีการเร่งมือให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่แต่การใช้เครื่องมือบางอย่างไม่สามารถดำเนินการได้ และเจ้าหน้าที่ยังคงต้องรอการใช้เครื่องมือหนักเพียงอย่างเดียว

 

สำหรับขั้นตอนการดำเนินการเจ้าหน้าที่จะต้องใช้วิธีการค่อย ๆ ยกซากชิ้นส่วนจากด้านบนของยอดอาคารที่พังถล่มลงมา ไล่มาด้านล่าง หากเจอร่างผู้เสียชีวิตก็จะให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดำเนินการนำออกมา ก่อนนำข้อมูลเบื้องต้น เช่นลักษณะรูปร่างและเสื้อผ้าที่สวมใส่ ไปยืนยันรายชื่อกับบริษัทและญาติ ก่อนส่งให้นิติเวชตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์ โดยสิ่งเร่งด่วนที่เจ้าหน้าที่ต้องทำคือการนำเศษเหล็กและปูนออกให้ได้โดยเร็วเร็วที่สุด จนกว่าจะเจอบริเวณโถงที่พบตามภาพ ยืนยันการปฏิบัติงานไม่ได้ล่าช้า และเหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่หนักที่สุด

 

ส่วนการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ต่างประเทศขณะนี้พบว่าสามารถทำงานด้วยกันได้เป็นอย่างดี ซึ่งเจ้าที่กู้ภัยร่วมกตัญญูก็เคยไปฝึกร่วมกับเจ้าหน้าที่ต่างชาติมาหลายประเทศ ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าเครื่องมือของต่างประเทศมีความทันสมัยมากกว่าของประเทศไทย โดยการทำงานของเจ้าหน้าที่ยังคงให้ความสำคัญกับเรื่องของความปลอดภัยมากที่สุด

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ผู้ใหญ่เปี๊ยกจัดเลี้ยงผู้ด้อยโอกาส “บ้านประจวบฯ โชค” สานต่อกิจกรรมแห่งการให้กว่า 20 ปี
"ผบ.ฉก.นย." ตราด ลั่นไม่ถอนกำลังตรึงชายแดน พร้อมลุยยึดคืนที่ดินบ้าน 3 หลัง "เขมร" บุกรุก ปักธงชาติประกาศเขตไทยทันทีได้รับคำสั่ง
สมุทรปราการ-มูลนิธิ มวลชนทัพภาค 1 ร่วมกับกองทัพภาคที่ 1 จัดกิจกรรม “ บริจาคโลหิต น้อมรำลึกพระมหา กรุณาธิคุณ 2 มหาราช “
"สุทิน" สื่ออาวุโส ชื่นชมบทบาท "นายกฯอนุทิน" ทีมตปท. นำสถานะไทยกลับสู่เวทีโลกอีกครั้ง หลังหายจากจอเรดาร์ไป 2 ปี
ปทุมธานี พสกนิกรร่วมช่วยกันจัดทำเข็มกลัดไว้ทุกข์ติดเสื้อแจก เพื่อแสดงความไว้อาลัย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
เปิดแล้ว LEGO®Certified Store แห่งแรกในภาคเหนือ ที่ เซ็นทรัล เชียงใหม่!

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​