มติศาล รธน. ให้ “สมชาย เล่งหลัก”พ้น สว. เหตุโดนเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี เจ้าตัวขอลุยการเมืองนอกสภา

มติศาล รธน. ให้ "สมชาย เล่งหลัก"พ้น สว. เหตุโดนเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี เจ้าตัวขอลุยการเมืองนอกสภา

วันที่ 26 มีนาคม 2568 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์วินิจฉัยให้สมาชิกภาพความเป็นสมาชิกวุฒิสภาของนายสมชาย เล่งหลัก สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 111 (4) ประกอบ มาตรา 108 ข. ลักษณะต้องห้าม (1) และมาตรา 48 (5) นับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่มาตรา 82 วรรคสอง คือวันที่ 11 ธ.ค 67 จากเหตุต้องคำพิพากษาศาลฎีกาที่ ลต สส 338/2567 ลงวันที่ 23ก.ย.67 ที่พิพากษาให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของนายสมชายเป็นเวลา 10 ปี นับแต่วันที่มีคำพิพากษา

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

เนื่องจากมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าในการเลือกตั้งสส. เมื่อปี66 นายสมชายซึ่งเป็นผู้สมัครสส. เขต9 สงขลาพรรค ภูมิใจไทยรู้เห็นเป็นใจสนับสนุนให้ลูกน้อง จัดเตรียมเพื่อจะให้เงินแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตนเอง ซึ่งเป็นการทุจริตเลือกตั้ง อันเป็นการฝ่าฝืนพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสส.2561มาตรา73(1) ประกอบมาตรา 138วรรคหนึ่ง นายสมชายจึงเป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามในการดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด และศาลรัฐธรรมนูญให้ถือว่าวันที่ตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาว่างลงคือวันที่ศาลอ่านคำวินิจฉัยให้คู่กรณีฟังตามพ.ร.ป. ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ 2561 มาตรา 76 วรรคหนึ่งที่บัญญัติให้คำวินิจฉัยศาลธรรมนูญมีผลในวันอ่านคือวันที่ 26 มี.ค 68 เป็นวันที่ตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาที่มาจากการเลือกว่างลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 107 วรรคสี่

 

 

นายสมชาย เล่งหลัก อดีตสว. ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า เกี่ยวกับคดีความนี้ตนได้ทำการชี้แจงข้อกล่าวหา เป็นไปตามกติกา ข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง เมื่อศาลพิจารณาวินิจฉัยออกมาเช่นนี้ ตนก็ยอมรับ ซึ่งอาจจะเป็นที่ข้อกฎหมาย อย่างไรก็ตาม การทำงานการเมืองสำหรับตนไม่จำเป็นจะต้องอยู่ในสภาอย่างเดียวเท่านั้น เมื่อเรามีอุดมการณ์อยู่นอกสภาก็สามารถทำได้ ซึ่งประวัติของตนก็ไม่ได้มาจากสายพันธุ์นักการเมืองอยู่แล้ว แต่มาจากชาวบ้าน มาจากศูนย์ มีอุดมการณ์แม้จะมาจากศูนย์ แต่ตนไม่กลับไปเริ่มต้นที่ศูนย์แน่นอน แต่จะกลับไปปฏิบัติหน้าที่นอกสภา อย่างเต็มที่ ผลที่ออกมาในวันนี้ตนก็ยอมรับแต่ไม่ได้ยอมแพ้ ที่ผ่านมาตนไม่ได้ออกสื่อ เพราะเห็นว่าไม่จำเป็นจะต้องออกมาแก้ตัวหรืออธิบายกับประชาชน โดยเฉพาะประชาชนในจังหวัดสงขลาทุกคนเข้าใจ สามารถเข้าถึงตนได้ตลอด

 

 

 

เมื่อถามว่าการทำงานนอกสภาจะเป็นลักษณะแบบใด นายสมชายกล่าวว่า ก็ต้องเป็นไปตามกรอบ ทำหน้าที่ดูแลช่วยเหลือปกป้องและสื่อสารกับพี่น้องประชาชนเหมือนเดิม ตนไม่ได้มาจากสว.เกษียณ แต่มาจากสว.การเมือง เพราะเป็นอดีตผู้สมัครพรรค ตนรู้เข้าใจและเข้าถึงบริบทของการเมืองไม่ว่าสภา ฝ่ายบริหาร และนิติบัญญัติ ว่าทำงานเต็มที่ในการสอดส่องดูแล ดูแลแบ่งปันช่วยเหลือ ประชาชน และตนก็โชคดีที่มีเพื่อนสมาชิกวุฒิสภาอีก 199 คน และตนพร้อมที่จะไปสื่อสารหรือแบ่งปันกับเพื่อนสมาชิกทั้งหมด ซึ่งทุกคนพร้อมเพราะมีการสื่อสารและแบ่งปันกัน ในพื้นที่มาโดยตลอด

” ผมถือว่าข้อกฎหมายผมไม่ทราบ แต่ผมทราบเรื่องข้อเท็จจริง ถือว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมานั้น ตัวผม สังคมน่าจะพอรู้ว่าเป็นการกลั่นแกล้ง หรือว่าวิธีการเตะสกัดทาง การเมือง นี่คือการเมือง” นายสมชาย กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

บุกตรวจโรงงานพลาสติกบ้านบึง พบแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย 32 ราย ดำเนินคดีทั้งนายจ้างและลูกจ้าง
“สมศักดิ์” จ่อฟ้องกัมพูชา ชดใช้ "โรงพยาบาล" เสียหาย 146 ล้าน เดินหน้าเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต ยันไม่มีโรคติดต่อจาก "ศพทหารเขมร"
เปิดภาพ "ทหารไทย" วางรั้วลวดหนามช่องอานม้า พร้อมตรึงกำลังเข้ม ป้องกันทหารกัมพูชาตัดรั้วลวดหนามรอบ2
กัมพูชาพาเจ้าหน้าที่ทูตและยูเอ็นเยี่ยมศูนย์ประสบภัย
"มาลี" โฆษกฯกห.กัมพูชา ปัดข้อกล่าวหา ปมสายลับ โบ้ยไทยใส่ร้ายโยนความผิดให้เขมร
อดีตสตรีหมายเลข 1 เกาหลีใต้เข้าให้ปากคำอัยการ

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​