“เอกนัฏ” ส่ง “ทีมสุดซอย” ตรวจโรงงาน พบลอบนำเข้าฝุ่นแดง 10,000 ตัน สั่งตั้งกรรมการสอบ ลงโทษขั้นเด็ดขาด

“เอกนัฏ” ส่ง “ทีมสุดซอย” ตรวจโรงงาน พบลอบนำเข้าฝุ่นแดง 10,000 ตัน สั่งตั้งกรรมการสอบ ลงโทษขั้นเด็ดขาด

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้รับรายงานว่า พบการปลอมแปลงเอกสารของทางราชการ เพื่อใช้เป็นใบเปิดทางในการนำเข้าฝุ่นแดง จากต่างประเทศเข้ามายังประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย จึงได้สั่งการให้ “ทีมตรวจการสุดซอยกระทรวงอุตสาหกรรม” นำโดย นางสาวฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายเอกนิติ รมยานนท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม และนายเตมีย์ พันธุวงค์ราช ผู้ช่วยปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ลงพื้นที่ตรวจสอบ

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

จากการตรวจสอบบริษัท เคเอ็มซี 1953 จำกัด พบว่า บริษัทฯ เป็นผู้นำเข้าและยอมรับว่า มีการนำเข้าฝุ่นแดงจริง พร้อมแสดงข้อมูลใบขนสินค้า ระหว่างเดือนกรกฎาคม 2567 ถึง มกราคม 2568 จำนวนการนำเข้า 33 ใบขน โดยสำแดงเป็นฝุ่นสังกะสี (Zinc dust) และผงสังกะสี (Zinc concentrate) จำนวน 10,262 ตัน จากประเทศอินโดนีเซีย เม็กซิโก แอฟริกาใต้ โรมาเนีย โมร็อคโก และตุรกี โดยจากการตรวจสอบพบว่าสินค้าที่สำแดงว่าเป็นฝุ่นและผงสังกะสีนั้นคือ “ฝุ่นแดง” เป็นกากอุตสาหกรรมที่เกิดจากกระบวนการหลอมเหล็ก มีการปนเปื้อนด้วยโลหะหนัก เข้าข่ายเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ที่เป็นของเสียเคมีวัตถุตามบัญชี 5.2 ของประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง บัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย พ.ศ. 2556

 

 

 

 

รวมทั้งเข้าข่ายเป็นของเสียอันตรายตามอนุสัญญาบาเซล การนำเข้ามาในประเทศไทย ต้องได้รับอนุญาตจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นหน่วยงานผู้มีอำนาจ (Competent Authority : CA) ของประเทศไทยเท่านั้น อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ไม่มีการขออนุญาตและไม่ได้รับอนุญาต ให้นำเข้าฝุ่นแดงดังกล่าวแต่อย่างใด ทั้งนี้ กลับพบว่ามีการปลอมแปลงเอกสาร ของสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี ด้วยการแก้ไขและดัดแปลงข้อความว่า สินค้าที่นำเข้านั้นไม่เข้าข่ายเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 และไม่เข้าข่ายเป็นของเสียอันตรายตามอนุสัญญาบาเซล โดยการนำหนังสือที่ปลอมแปลงนั้น ไปแสดงเพื่อใช้เป็นใบเปิดทางในการนำเข้าฝุ่นแดงจากต่างประเทศเข้ามายังประเทศไทยโดยไม่ต้องขออนุญาต ซึ่งผิดกฎหมาย คาดว่าการดำเนินการในลักษณะดังกล่าว มีการวางแผนทำกันเป็นขบวนการ โดยอาจมีเจ้าหน้าที่มีส่วนเกี่ยวข้อง กับขบวนการดังกล่าวด้วย

 

 

 

ทีมตรวจการสุดซอยกระทรวงอุตสาหกรรม จึงได้ตรวจสอบเพิ่มเติม พบว่า หนังสือราชการที่ออกโดยสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี ตอบข้อหารือของกรมศุลกากร ในประเด็นสินค้าที่จะนำเข้า เข้าข่ายเป็นวัตถุอันตรายหรือของเสียอันตรายตามอนุสัญญาบาเซลหรือไม่ มีความผิดปกติในหลายประเด็น อาจส่งผลให้มีการนำเข้าขยะและของเสียอันตราย เข้ามาสู่ประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมจึงสั่งการให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้รายงานผลการตรวจสอบภายใน 15 วัน หากพบว่า เจ้าหน้าที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ให้ดำเนินการลงโทษขั้นเด็ดขาด พร้อมทั้งสั่งการให้ขยายผลขบวนการปลอมแปลงเอกสารราชการ เพื่อใช้ในการลักลอบนำเข้า ของเสียอันตรายโดยไม่ถูกต้อง หากเชื่อมโยงถึงผู้ใดให้ดำเนินคดีทั้งหมด

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) 'โลมาขาวจีน' แหวกว่ายน่านน้ำในกวางตุ้ง
'ยลดา' ย้ำ ถนนประสานแผนจากพี่น้องท้องถิ่น แม้ไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบของ อบจ.แต่ทุกสายทางต้องได้มาตรฐานเดียวกัน
ทบ.สดุดีทหารกล้า จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ “จ.ส.อ. อโนทัย ป้องแก้ว” พร้อมปูนบำเหน็จและขอพระราชยศทหารเลื่อนขั้นเป็น “พลตรี” อย่างสมเกียรติ
"นฤมล" ร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ 7 พลเรือน เสียชีวิตเหตุกัมพูชาก่อความรุนแรงชายแดน ชี้ไทยสูญเสียครั้งใหญ่ ศธ.พร้อมดูแลจิตใจเพื่อนนร.ครูในพื้นที่
“เป๊ก ผลิตโชค” ถูกฟันคางเลือดอาบ กลางปั๊มน้ำมันกลางกรุงฯ คู่กรณีอ้างป้องกันตัว
"แรงงานชาวกัมพูชา" แห่เดินทางกลับประเทศ กว่า 7 พันคน ด่านบ้านแหลม" จันทบุรี เหตุกังวัลความปลอดภัย 

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​