รัฐสภาฉลุย “นฤมล” ชงเห็นชอบ “ข้อบังคับความปลอดภัยอาหารอาเซียน” คุ้มครองสุขภาพผู้บริโภค 10 ปท.

“รมว.นฤมล” เสนอรัฐสภาฯ พิจารณาข้อบังคับความปลอดภัยอาหารอาเซียน ลดมาตรการทางการค้า หนุนส่งอาหารไทยขยายตลาดอาเซียน ก่อนที่ประชุมฯลงมติเห็นชอบ

รัฐสภาฉลุย “นฤมล” ชงเห็นชอบ “ข้อบังคับความปลอดภัยอาหารอาเซียน” คุ้มครองสุขภาพผู้บริโภค 10 ปท.

 

ข่าวที่น่าสนใจ

5 มี.ค.2568 ในการประชุมรัฐสภาที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ได้พิจารณาเรื่องด่วนที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ เรื่องความตกลงว่าด้วยกรอบข้อบังคับด้านความปลอดภัยอาหารอาเซียน (ASEAN Food Safety Regulatory Framework Agreement) โดยมี ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นผู้ชี้แจงต่อที่ประชุม เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบตามมาตรา 178 ของรัฐธรรมนูญ

 

 

ศ.ดร.นฤมล กล่าวว่า ความตกลงว่าด้วยกรอบข้อบังคับด้านความปลอดภัยอาหารอาเซียน มีสาระสำคัญ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำแนวทางการดำเนินการทั้งหมดที่ครอบคลุมและมีการบูรณาการเกี่ยวกับความปลอดภัยอาหารของประเทศสมาชิกอาเซียน เพื่อคุ้มครองสุขภาพของผู้บริโภคและอำนวยความสะดวกการเคลื่อนย้ายอย่างเสรีของอาหารปลอดภัยภายในอาเซียนโดยประกอบด้วยข้อบทสำคัญจำนวน 18 ข้อ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดตั้งคณะกรรมการประสานงาน ด้านความปลอดภัยอาหารอาเซียน (ASEAN Food Safety Coordinating Committee; AFSCC) การดำเนินการจัดทำพิธีสาร และการกำหนดให้ความตกลงฯ มีผลใช้บังคับเมื่อประเทศสมาชิกอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ มอบสัตยาบันสารแก่เลขาธิการอาเซียน ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2567 ความตกลงฯ ได้รับการลงนามโดยรัฐมนตรีเศรษฐกิจของอาเซียนครบทั้ง 10 ประเทศเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว

ศ.ดร.นฤมล กล่าวต่อว่า เมื่อความตกลงฯ มีผลใช้บังคับแล้ว จะมีการจัดตั้งคณะกรรมการประสานงาน ด้านความปลอดภัยอาหารอาเซียน ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนประเทศสมาชิกอาเซียนทั้งจากหน่วยงานด้านเกษตร การค้า และสุขภาพ จำนวน 10 ประเทศ โดยมีหน้าที่ในการกำกับดูแลและทบทวนการดำเนินการของความตกลงฯ ประสานงานกับองค์กรที่เกี่ยวข้องของอาเซียน รวมถึงพิจารณาและเห็นชอบข้อเสนอสำหรับการจัดทำพิธีสารในประเด็นที่เกี่ยวข้อง ก่อนนำเสนอในการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสของการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านการเกษตรและป่าไม้ด้านเศรษฐกิจอาเซียน และด้านการพัฒนาสาธารณสุข

 

โดยการจัดทำความตกลงฯใช้เป็นเครื่องมือทางกฎหมายที่สำคัญในการส่งเสริมความร่วมมือและการบูรณาการด้านความปลอดภัยอาหารระหว่างหน่วยงานด้านเกษตร การค้า และสุขภาพของอาเซียนและประเทศสมาชิก โดยมีเป้าหมายหลักในการคุ้มครองสุขภาพของผู้บริโภค และการอำนวยความสะดวกด้านการค้าอาหารปลอดภัยในภูมิภาค โดยการส่งเสริมการปรับมาตรการ สุขอนามัยและสุขอนามัยพืชให้สอดคล้องกัน ลดอุปสรรคทางเทคนิคด้านการค้าอาหาร และลดความแตกต่างของระบบการควบคุมอาหารของแต่ละประเทศ

”ประเทศไทย เป็นประเทศผู้ผลิตและส่งออกอาหารลำดับต้นๆ ของโลกและของอาเซียน โดยหลายประเทศในอาเซียนมีการนำเข้าสินค้าอาหารจากประเทศไทยเป็นตลาดหลัก การจัดทำพิธีสารภายใต้ความตกลงๆจะช่วยลดมาตรการทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี ซึ่งส่งผลให้การส่งออกสินค้าอาหารของไทยที่มีคุณภาพและความปลอดภัยไปยังตลาดอาเซียน ทำให้มีโอกาสขยายตัวได้มากขึ้น คณะรัฐมนตรีจึงขอเสนอความตกลงว่าด้วยกรอบข้อบังคับด้านความปลอดภัยอาหาร อาเซียนนี้มาเพื่อให้รัฐสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบ“ศ.ดร.นฤมล กล่าว

จากนั้น ที่ประชุมรัฐสภาได้เปิดให้สมาชิกอภิปรายแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง ซึ่งส่วนใหญ่เห็นว่า ความตกลงว่าด้วยกรอบข้อบังคับด้านความปลอดภัยอาหารอาเซียนคร้้งนี้ จะทำให้ไทยได้พัฒนามาตรฐานและความปลอดภัยของสินค้าที่จะส่งออกอย่างเช่น อาหารหรือพืชให้ได้มาตรฐาน ซึ่งจะทำให้ปัญหาการตีกลับสินค้าลดน้อยลงได้ และเมื่อสินค้าอาหารของไทยมีคุณภาพและความปลอดภัยก็จะสามารถขยายตลาดในประเทศแถบอาเซียนได้มากขึ้น จนพัฒนาต่อยอดให้ไทยเป็นครัวโลก สร้างรายได้ให้เกษตรกรไทย สามารถไปแข่งขันในตลาดโลกได้ ทั้งนี้ เกษตรกรอาจจะต้องปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลง ซึ่งต้องขอให้รัฐบาลให้ความรู้และชี้แจงขั้นตอนการดำเนินการต่อมาตรฐานใหม่ให้เกษตรกรรับทราบด้วย

หลังจากการอภิปรายที่ประชุมรัฐสภาได้ลงมติเห็นชอบกับความตกลงว่าด้วยกรอบข้อบังคับด้านความปลอดภัยอาหารอาเซียน (ASEAN Food Safety Regulatory Framework Agreement)ด้วยคะแนนเสียง 547 ไม่เห็นชอบ 1 งดออกเสียง 1 และ ไม่ลงคะแนนเสียง 3

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ตำรวจกัมพูชาถูกลงโทษหลังท้าพนันปมพิพาทชายแดน
"กัมพูชา" โชว์ตัดไฟฟ้าจากไทยส่งเข้า "ปอยเปต" หันไปพึ่งเวียดนามแทน
ครม.ไฟเขียว “ยกเว้นภาษี” จากกำไรขายสินทรัพย์ดิจิทัล ปี 68-72 พร้อมส่งเสริมไทยเป็นฮับการเงินโลก
ทำเกินไปมาก "รมว.กัมพูชา" เชิญคณะทูตต่างประเทศ แจงสถานการณ์ชายแดน โบ้ยให้ไทยผิดทั้งหมด ยังไม่จบอ้างถูกเปิดฉากยิงก่อน
"อนุทิน" ลั่นชัดไม่ยอมแลกมท.1 ชี้รัฐบาลควรอยู่ด้วยความเข้าใจ ถามใครแน่ต้องการ เพราะนายกฯไม่เคยพูด
สระแก้ว ฉก.กองกำลังบูรพา ตรวจเข้มแนวชายแดน
สระแก้ว กัมพูชาสั่งการให้ตัดไฟฟ้าจากฝั่งไทย
“สรวงศ์” เผยครม. ไฟเขียวไทยเป็นเจ้าภาพจัดแข่ง F1 วงเงิน 4 หมื่นล้าน ยาว 5 ปี ปักหมุดพื้นที่จตุจักร
"ชวน" ยัน MOU43 ปักปันเขตแดน ยึดข้อตกลงร่วม 2 ปท. ชี้ปัญหาขัดแย้งปชช.ไม่เกี่ยว แต่เกิดจากนักการเมือง
รมว.ต่างประเทศกัมพูชาเรียกพบทูตแจงสถานการณ์ชายแดน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น