“รมว.สุดาวรรณ” นำทีมผู้บริหารวธ.ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการบูรณะพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สงขลาที่เสียหายหนักจากน้ำท่วมใหญ่ปีที่แล้ว

"รมว.สุดาวรรณ" นำทีมผู้บริหารวธ.ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการบูรณะพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สงขลาที่เสียหายหนักจากน้ำท่วมใหญ่ปีที่แล้ว

เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568 นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการซ่อมแซมและปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย

และแนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม “พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สงขลา” ในโอกาสการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ครั้งที่ 1/2568 ณ จังหวัดสงขลา

 

 

โดยมีนายประสพ เรียงเงิน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นางโชติกา อัครกิจโสภากุล รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ผู้บริหาร ข้าราชการ

และเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรมและผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สงขลา ตำบลบ่อยาง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา

นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) กล่าวว่า พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สงขลา สร้างขึ้นเมื่อพ.ศ. 2421 สมัยรัชกาลที่ 5

และเมื่อปี พ.ศ. 2516 กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถาน และดำเนินการบูรณะ แต่ช่วงเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม พ.ศ.2567 พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติแห่งนี้ ได้รับผลกระทบที่เกิดจากฝนตกหนัก มีน้ำท่วมขัง

ทำให้อาคารพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สงขลา มีสภาพชำรุด กระเบื้องหลังคาแตกชำรุดน้ำฝนรั่วบริเวณหลังคา ไม้ฝ้าเพดานเปื่อย ผนังปูนมีรอยแตกร้าว

ซุ้มประตูและกำแพง เหล็กขึ้นสนิมและสีหลุดร่อน ผนังปูนแตกร้าว ไฟฟ้าสนามและไฟส่องอาคารชำรุดเสียหายทั้งหมด นอกจากนี้ ห้องน้ำมีสภาพชำรุดทรุดโทรม

และไม่เพียงพอต่อการให้บริการนักท่องเที่ยวและกลุ่มผู้ใช้บริการ เช่น กลุ่มผู้พิการ ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส ฯลฯ เนื่องจากห้องน้ำมีจำนวนน้อยและไม่มีห้องน้ำสำหรับผู้พิการ

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวอีกว่า จากการลงพื้นที่ในครั้งนี้เพื่อติดตามข้อสั่งการที่ได้ให้กรมศิลปากร โดยสำนักศิลปากรที่ 11 สงขลา เร่งดำเนินการซ่อมแซมและปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน

ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยเป็นการเร่งด่วน ซึ่งได้รับรายงานจากอธิบดีกรมศิลปากรว่า ที่ผ่านมา วธ.โดยกรมศิลปากรได้ดำเนินโครงการบูรณะอาคารจัดแสดง และปรับปรุงภูมิทัศน์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สงขลา ได้แก่

1. บูรณะอาคาร
2.บูรณะซุ้มประตู กำแพงรั้ว
3.ก่อสร้างห้องน้ำ
4.ปรับปรุงระบบไฟฟ้า
5. ติดตั้งระบบกล้อง CCTV
6.ปรับภูมิทัศน์ของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สงขลา

 

 

 

ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการบูรณะซ่อมแซม แต่การดำเนินการมีความล่าช้าออกไปบ้างจากแผนงานที่กำหนดเอาไว้ เนื่องจากช่วงปลายปีที่แล้วมีฝนตกค่อนข้างชุก

อีกทั้งสภาพอาคารพิพิธภัณฑ์มีความเก่าแก่ หลังคาชำรุดเสียหายมากและต้องปรับปรุงเพิ่มเติมหลายส่วน เช่น ห้องน้ำที่มีจำนวนน้อยและคับแคบ

จึงดำเนินการก่อสร้างห้องน้ำให้มีจำนวนเพิ่มขึ้นและขนาดห้องกว้างขวางมากขึ้น เพื่อรองรับผู้เข้ามาเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ทุกกลุ่มทั้งเด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุและผู้พิการให้ได้รับการอำนวยความสะดวกมากที่สุดและใช้บริการได้มากขึ้น

“เท่าที่ได้หารือกับอธิบดีกรมศิลปากรและผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 11 สงขลาได้รับรายงานว่า ขณะนี้กำลังเร่งดำเนินการบูรณะปรับปรุงพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สงขลา

เพื่อให้แล้วเสร็จทันเวลาตามแผนงานที่กำหนดไว้ ดิฉันจึงได้กำชับให้การบูรณะปรับปรุง ขอให้คงรูปแบบเดิมของอาคารไว้ให้มากที่สุด เพื่อคงสภาพความเป็นโบราณสถานของชาติ

รักษาคุณค่าทางประวัติศาสตร์และเป็นแหล่งเรียนรู้และท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมให้แก่เด็ก เยาวชนและประชาชนทั่วประเทศ และส่งเสริมให้พิพิธภัณฑ์แห่งนี้

ได้รับการอนุรักษ์ดูแลอย่างต่อเนื่อง ทำให้สภาพอาคารและภูมิทัศน์โดยรอบมีความสวยงาม เหมาะสมกับความเป็นโบราณสถานของชาติ

 

 

 

อย่างไรก็ตาม จากการประเมินเบื้องต้นคาดว่า จะดำเนินการซ่อมแซมแล้วเสร็จใกล้เคียงตามเวลาที่กำหนดไว้โดยตั้งเป้าหมายจะทยอยเปิดให้เข้าชมบางส่วนในปีนี้

จะต้องของบประมาณเพิ่มเติมในการบูรณะปรับปรุงและดูแลในปีถัดไป ที่สำคัญกรมศิลปากรตั้งเป้าหมายพัฒนาให้พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน

เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของจังหวัดสงขลาให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติมาเที่ยวชมและศึกษาเรียนรู้

ก่อให้เกิดผลดีต่อสังคมและเศรษฐกิจ ช่วยส่งเสริมอาชีพและสร้างรายได้ให้แก่ประชาชน ชุมชนท้องถิ่น ช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัดสงขลาและประเทศ” นางสาวสุดาวรรณ กล่าว

 

ทั้งนี้ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สงขลา เดิมเป็นคฤหาสน์ของพระยาสุนทรานุรักษ์ (เนตร ณ สงขลา) ผู้ช่วยราชการเมืองสงขลา สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2421 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5

โดยแรกเริ่มเป็นคฤหาสน์ของสายตระกูล ณ สงขลา ต่อมาเป็นสถานที่ของหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งเป็นศาลากลางจังหวัดสงขลาก่อนจะย้ายไปสร้างที่ใหม่

และเมื่อ พ.ศ. 2516 กรมศิลปากรประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานด้วยคุณค่าความสำคัญทางประวัติศาสตร์ และศิลปกรรมที่สวยงามโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์แบบจีนผสมยุโรป

ต่อมากรมศิลปากรเริ่มดำเนินการบูรณะเพื่อเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สงขลา และได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จ
พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10

เมื่อครั้งทรงดำรงพระราชอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สงขลา เมื่อวันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2525

 

 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ศาลล้มละลายกลาง" สั่งยกเลิกการฟื้นฟูกิจการ "บมจ.การบินไทย" นำบริษัทกลับตลาดหุ้นส.ค.นี้
"มูลนิธิพระบรมราชานุสรณ์ฯ" ร่วม "มูลนิธิเพชรรัตน - สุวัทนา" เชิญร่วมกิจกรรมเสวนา “ราชธรรมธีรราชาฯ"
"ดร.ปิติ" ยก 10 ข้อ เตือนสติไทย โดน "กัมพูชา" ปั่นไอโอ เร่งทำเอกสารไม่รับอำนาจศาลโลก ตัดไฟ อินเตอร์เน็ตจริงๆ
"พล.ต.ณัฏฐ์" รองมทภ.2 ลั่นถึงกัมพูชา นี่หรือเจตนาที่ดี รุกล้ำกว่า 600 ครั้ง มีข้อตกลงร่วม MOU ให้เดินหน้าเจรจาแต่ไม่ทำ
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) หุ่นยนต์ AI จีนดำดิ่งปกป้อง 'แนวปะการัง' ในไหหลำ
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) 'เส้นทางสายไหมดิจิทัล'หนุนตามแนว'BRI'
"เสธ.หิ" สวนกลับ "ศาสตรา" สส.สงขลา เป็นนร.หนีเรียนมาด่าครู ยันปรับลดค่าไฟ-น้ำมันคืบหน้า แก้กม.พลังงานรออีกไม่นาน
ฉก.อรัญประเทศ ร่วมกับ น.ฝ.ด.11 เข้มช่องทางธรรมชาติชายแดนไทย-กัมพูชา รวบผีพนันคนไทย พร้อมบัญชีม้า
ชาวบ้านเอือมระอา!! ส่งคลิปเด็กแว้นท่อดัง รวมตัวขี่รถย้อนศร
ตม.สระแก้ว ปิดล้อมตรวจค้นหมู่บ้านเขมรกลางทุ่งนาจับ 4 เขมร หลบหนีเข้าเมือง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น