สมาคมภัตตาคารไทย ยื่นนายกฯ ทบทวนคำสั่งห้ามนั่งในร้านอาหาร

“นายกสมาคมภัตตาคารไทย” ยื่นหนังสือนายกฯ จี้ทบทวนคำสั่งห้ามนั่งกินในร้านอาหาร เผยเสียหายแล้ว 1.4 พันล้านต่อวัน

นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย เปิดเผยว่า ได้ทำหนังสือถึง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม  ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือศบค. เพื่อขอให้ทบทวนคำสั่ง ศบค. ที่ไม่อนุญาตให้นั่งรับประทานอาหารในร้านอาหาร ล่าสุด พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ในฐานะประธานศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศปก.ศบค. ได้รับทราบแล้ว

โดยสมาคมภัตตาคารไทย มีข้อเรียกร้องเสนอนายกรัฐมนตรี พิจารณา 2 ข้อ คือ 1.อนุญาตให้ร้านอาหารสามารถนั่งรับประทาน ในร้านได้ไม่เกิน 21.00 น. และงดนั่งดื่มแอลกอฮอล์ เริ่มในวันที่ 7 พฤษภาคม 2564 เนื่องจากในช่วงการระบาดของไวรัสโควิด -19 ที่ผ่านมา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้ร่วมกับหน่วยงานด้านสาธารณสุขจัดทำมาตรฐาน SHA ขึ้นมา เป็นมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล มีร้านอาหารกว่า 2,000 ร้านได้รับมาตรฐานนี้ จึงมั่นใจได้ว่ามีมาตรฐานป้องกันการติดเชื้อ มีความปลอดภัย ส่วนร้านอาหารที่เป็นอาหารจานเดียวริมทางหรือร้านเล็ก ๆ ที่เป็นตึกแถว ขอให้พิจารณาอนุญาตกลับมาให้นั่งทานในร้านได้เช่นกัน แต่ร้านต้องลดที่ลงอย่างน้อย 50% ของที่นั่งเดิม มีการเว้นระยะห่างระหว่างโต๊ะไม่ต่ำกว่า 1 เมตร ไม่อนุญาตให้ลูกค้าที่ไม่ได้มาด้วยกันนั่งรวมโต๊ะเดียวกันเด็ดขาด  ด้านร้านอาหารประเภทปิ้งย่าง ชาบู บุฟเฟ่ต์ ไม่อนุญาตในนั่งโต๊ะเดียวกันเกิน 4 คน เว้นระยะห่างโต๊ะไม่ต่ำกว่า 2 เมตร หรือ 1 เมตร มีฉากกั้น ไม่อนุญาตให้ตักอาหารบุฟเฟ่ต์เอง รวมทั้งจำกัดจำนวนคนในการเดินตักอาหารให้เหมาะสมด้วย

2.ขอให้มีมาตรการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบการร้านอาหาร โดยพิจารณาเยียวยา ค่าจ้าง เงินเดือนพนักงาน 50% งดการจัดเก็บภาษีในรอบระยะเวลาบัญชี 1 ปีที่ผ่านมา ให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบ ผ่อนผันการชำระดอกเบี้ย เป็นเวลา 6 เดือน และพักการชำระเงินต้นเป็นเวลา 1 ปี และขอให้ ศบค.ประสานเจ้าของห้างสรรพสินค้าลดค่าเช่าอย่างน้อย 50% โดยเจ้าของพื้นที่ที่ให้ส่วนลดสามารถนำไปลดหย่อนภาษีจากรัฐบาลในรอบบัญชีถัดไป ซึ่งเป็นการช่วยประคับประคองร้านอาหารที่ได้รับผลกระทบมาตลอดทั้งปี

นางฐนิวรรณ กล่าวว่า ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการร้านอาหารส่วนใหญ่ยังไม่ฟื้นตัวจากผลกระทบของการระบาดโรคโควิด-19และจากมาตรการควบคุมใน 2 ระยะการระบาดที่ผ่านมา ร้านจำนวนไม่น้อยต้องเลิกกิจการพร้อมกับหนี้สิน และจำนวนมากสุ่มเสี่ยงต้องปิดกิจการ มูลค่าความเสียหายจากคำสั่งล่าสุดนี้อยู่ที่ 1,400 ล้านบาทต่อวัน

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ดร.สามารถ" ชง 4 คำถามถึงรัฐบาล รฟม.ใช้เกณฑ์ชดเชยเอกชนอย่างไร ลดค่ารถไฟฟ้าเหลือ 20 บาท แผนซื้อคืนสัมปทาน คืบหน้าถึงไหนแล้ว
"นิด้าโพล" เผย คนไทยไม่เชื่อคำทำนาย "ฮุน เซน" ฟุ้งไทยเปลี่ยนตัวนายกฯใน 3 เดือน ชี้เป็นคนไม่น่าไว้ใจ
ทั่วไทยเจอฝนฟ้าคะนอง 42 จว.อ่วม ฝนถล่ม เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก  กทม.เจอฝน 70%
กระทรวงต่างประเทศ กัมพูชา โหมหนัก ออกแถลงการณ์ 8 ข้อ ย้ำกล่าวหาไทยติดอาวุธรุกล้ำแดน ปิดด่านไม่หารือ จี้ยอมรับอำนาจศาลโลก
ระยอง แห่หลวงพ่อองค์ดำอัญเชิญจากอินเดีย ประดิษฐานไว้วัดเขาโบสถ์ ให้ประชาชนกราบไหว้ขอพร เพื่อความเป็นสิริมงคล
สวธ. จัดประกวด Cosplay World Thailand 2025 หนุนคนรุ่นใหม่ แสดงพลัง Soft Power ผ่านศิลปะไทยประยุกต์ ต่อยอดสู่อาชีพในอนาคต
หลายหน่วยงาน เข้าช่วยเหลือ เด็กออทิสติก หลังแม่ผูกคอหนีปัญหาหนี้สิน ก่อนฟื้นคืนชีพต่อหน้าเจ้าหน้าที่
ด่านผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน อ.คลองหาด จ.สระแก้ว เงียบเหงา คนกัมพูชาทำงานในไทยรอดูสถานการณ์หลังไทยผ่อนปรน
"กรมบังคับคดี" ร่วมงานมหกรรมการเงินหาดใหญ่ MONEY EXPO 2025 เดินหน้าจัดงานไกล่เกลี่ยหนี้ ช่วยประชาชนเข้าถึงความยุติธรรมอย่างเป็นธรรม
"นิพนธ์" สวนเดือดผู้บริหารปชป. ลั่นเลือดแท้รับได้มติพรรค แต่รับไม่ได้พวกใช้อำนาจสั่ง ขู่ไล่คน เพื่อบังคับยัดเยียด ยอมรับมติโจร

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น