“ตำรวจ” เตือน “Jagat” แอปฯล่าเหรียญ สัญชาติอินโดฯ ไม่ได้จดทะเบียนในไทย อันตรายหลายจุด

รู้จัก “Jagat” แอปฯล่าเหรียญ สัญชาติอินโดฯ ตำรวจเผย ไม่ได้จดทะเบียนในไทย เตือน! อันตรายหลายจุด เสี่ยงมิจฉาชีพบุกชาร์จทุกรูปแบบ

“ตำรวจ” เตือน “Jagat” แอปฯล่าเหรียญ สัญชาติอินโดฯ ไม่ได้จดทะเบียนในไทย อันตรายหลายจุด – Top News รายงาน

 

กำลังเป็นกระแสอยู่ในโลกออนไลน์อยู่ตอนนี้กับ Jagat แอปพลิเคชันจากอินโดนีเซีย ที่ให้ผู้ใช้เปิดโลเคชันตามเก็บเหรียญที่สามารถแลกเป็นเงินจริงๆ ได้ โดยกระบวนการคล้ายเกมโปเกม่อน แต่ที่ต่างไปคือ มีเหรียญจริงๆ ที่ซ่อนไว้ตามแม็ปที่โชว์ให้เห็น ทำให้วัยรุ่นไทยหลายคน ออกล่าหาเหรียญดังกล่าวเป็นจำนวนมาก

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ล่าสุด เพจ ไม่เป็นตำรวจไม่รู้หรอก Police Don’t Cry ก็ได้ออกมาโพสต์เตือนวัยรุ่นที่กำลังล่าเหรียญอยู่ตอนนี้ โดยระบุข้อความว่า “ตามหาเหรียญ Jagat เสี่ยงอะไรบ้าง เตือนบุตรหลานด้วยนะครับ อยู่ดีๆ ต้นปี 2568 ก็มีบริษัทจากอินโดมาโปรยเหรียญ ให้คนไทยตามหากัน เป็นกระแสในโลกออนไลน์ ในฐานะตำรวจ ที่ต้องประเมินความเสี่ยง จึงทำข้อมูลมาเตือนให้ประชาชนรับรู้กันครับ

ความเสี่ยงที่ต้องรู้ : บริษัทที่ทำเรื่องนี้ เป็นสัญชาติอินโดฯ เข้าไปดูโพร์ไฟล์ใน LinkedIn ไม่มีทีมงานคนไทยเลย หากเกิดเหตุไม่รู้จะติดต่อกับใคร

App ออกแบบให้คนที่ไม่ระวัง อาจเผลอไปกด สมัครแบบเสียเงิน รายสัปดาห์ รายเดือน และรายปี โดยไม่รู้ตัวได้ โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน

การแชร์พิกัดตำแหน่งของผู้ใช้ อาจเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพ เฝ้าติดตาม และฉวยโอกาสลงมือขโมยทรัพย์สินไปได้

คำแนะนำสำหรับผู้ปกครอง : พูดคุยกับบุตรหลานเกี่ยวกับความเสี่ยงในการตามหาเหรียญผ่าน App Jagat ก่อนที่จะสูญเสียนะครับ ร่วมกันเตือนภัย เพื่อความปลอดภัยของทุกคน!

ทั้งนี้ ยังได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแอปฯ Jagat โดยระบุว่า เมื่อวันที่ 15 มกราคม ที่ผ่านมา แอปฯ นี้ได้เปิดทำแคมเปญการตามล่าหาเหรียญ โดยกิจกรรมจะจัดที่ กรุงเทพฯ , ภูเก็ต , พัทยา , เชียงใหม่  และเชียงราย ซึ่งบางที่เป็นพื้นที่รกร้าง บางที่เป็นพื้นที่ส่วนตัว

ตำรวจ

สำหรับ Jagat เป็นแอปฯ มาจากประเทศอินโดนีเซีย โดยผู้ก่อตั้งเป็นคนอินโดฯ และมีทีมงาน 17 คน เป็นต่างชาติหมดเลย ทั้ง อินโดฯ , สิงคโปร์  และเวียดนาม ไม่มีคนไทยในโปรเจกต์นี้

และเมื่อเช็กใน DBD ข้อมูลธุรกิจในประเทศไทย ปรากฏว่าไม่ได้จดทะเบียนประกอบธุรกิจในประเทศไทย ซึ่งตรงนี้หากโดนนำข้อมูลส่วนตัวไปใช้ จะไม่มีใครสามารถคุ้มครองเราได้ ข้อควรระวัง คือเข้าไปแล้วจะมีพ็อปอัปให้กดจ่ายตังเพิ่ม และตรงนี้หากเยาวชนที่เคยผูกบัตร พ่อ แม่ ไว้เผลอกดไปจะโดนดูดเงินไปโดยไม่รู้ตัว

ข้อควรระวังอีกอย่างคือ ข้อมูลพื้นที่ต่างๆ แอปฯนี้สร้างขึ้นมาเพื่อแชร์โลเคชัน การที่เราเข้าไปสมัครใช้ แล้วเราอนุญาตทุกอย่าง คนอื่นก็จะเห็นโลเคชันของเราด้วย อันนี้ก็อันตรายเหมือนกัน เพราะถ้ามิจฉาชีพเข้ามาใช้ก็จะรู้ได้เช่นกันว่าเราอยู่ที่ไหน และแคมเปญหาเหรียญนี้เสี่ยงมาก บางพื้นที่เป็นที่รกร้าง มิจฉาชีพอาจไปดักรอ และจ้องเรา บางทีเข้ามาตีเนียนว่าหาเหรียญเหมือนกัน แล้วก็ก่อเหตุขโมยของๆ เราไปก็ได้

ดังนั้น ขอให้ชั่งใจกันก่อนที่จะใช้ เพราะตำรวจยังไม่มีข้อมูลว่าจดทะเบียนที่ไทย และมีทีมงานคนไทยเป็นใครบ้าง และไม่สามารถหาข้อมูลจากเว็บไซต์ของบริษัทได้เลย ดังนั้นถ้าเกิดเหตุอะไรขึ้น เราก็จะจับมือใครดมไม่ได้

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ปทุมธานี พสกนิกรร่วมช่วยกันจัดทำเข็มกลัดไว้ทุกข์ติดเสื้อแจก เพื่อแสดงความไว้อาลัย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
เปิดแล้ว LEGO®Certified Store แห่งแรกในภาคเหนือ ที่ เซ็นทรัล เชียงใหม่!
เกือบขิต! สาวใหญ่ทำลอตเตอรี่หาย 22 ใบ ใกล้วันหวยออก สุดท้ายหาเจอเพราะบนไว้กับ'หลวงปู่สรวง'ดีใจ จัดโรงทานหอยทอดแจกกลางตลาด
มูลนิธิแพรกษาเพื่อการศึกษา ร่วมกับ S.MILES Group มอบทุนการศึกษา ปลูกต้นเฟื่องฟ้า กว่า 1,000 ต้น สร้างพื้นที่สีเขียวให้กับเยาวชน
นนทบุรี หมดเงินก็หมดค่า ! ยายวัย 90 ปี ร้องสื่อถูกหลานสาวแท้ๆกับสามีเอาเงินไป 3.5 ล้านก่อนไล่ออกจากบ้าน
"หมอวรงค์" คาใจเหตุผลจริงๆ ไทยยอมลงนามถอยอาวุธหนัก ถามแรงจะยอมไหม วันหนึ่งกัมพูชาถอนธงไตรรงค์บนยอดภูมะเขือ

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​