“ภูมิธรรม” สั่งซีลเข้มชายแดน 2 ชั้น สกัดยาเสพติด ขู่ย้ายกราวรูด หาก 6 เดือนไม่เห็นผลงานจนท.

“ภูมิธรรม” สั่งซีลเข้มชายแดน 2 ชั้น สกัดยาเสพติด ขู่ย้ายกราวรูด หาก 6 เดือนไม่เห็นผลงานจนท.

Top news รายงาน วันนี้ ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปราศรัยหาเสียงถึงเรื่องการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์และยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้าน ว่าจะปราบให้หมดในปีนี้ว่า เป็นเรื่องที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ตนอยู่แล้ว

 

ซึ่งขณะนี้ทางรัฐบาลก็ซีเรียสเรื่องนี้อยู่แล้ว ตนรับผิดชอบโดยตรง อย่างแรกที่กำลังทำ คือ เคร่งครัดป้องกันยาซึ่งมีต้นทางจากนอกประเทศ ให้ไม่สามารถเข้าประเทศมาได้และมากเท่าที่สุดเท่าที่จะทำได้ ขณะนี้ก็ได้ประชุมกันทุกหน่วย และในวันที่ 30 มกราคมนี้ ก็จะดีเดย์แถลงการทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปปส. ปปง. และหน่วยที่เกี่ยวข้อง โดยมีนายกรัฐมนตรีเปิดงาน

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ตามด่านเราป้องกันได้พอสมควร การข่าวเราก็ถือว่าดีพอสมควร สามารถตรวจสอบได้ และใช้เครื่องมือเพื่อให้ตรวจจับได้มากขึ้น แต่ว่าชายแดนของประเทศไทยนั้น 240 กิโลเมตร มันยาวมาก จึงมีช่องทางธรรมชาติเต็มไปหมด ดังนั้นเราได้ร่วมมือกันในคราวนี้เป็นการบูรณาการ เพื่อจะซีลชายแดนทั้งหมด ทำการซีล 2 ชั้น ซึ่งก่อนนี้มันไม่ทั่วถึง จึงจะทำการซีลชายแดนให้เข้มข้นขึ้น 14 จังหวัด 51 อำเภอ 76 สถานีตำรวจ ก็คิดว่าน่าจะเป็นมาตรการที่ให้ผลดีมากขึ้น กำหนดไว้ 6 เดือน ถ้าหาก 6 เดือนไม่เห็นผลก็ต้องมีมาตรการที่เข้มข้นมากขึ้นในการที่จะจัดการให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งถ้าใครคิดว่าตัวเองไม่เหมาะสมที่จะอยู่ตรงนี้เราก็จะให้สมัครใจย้าย แต่ไม่ใช่ว่าย้ายไปดีขึ้น ถือว่าคุณไม่สามารถทำงานที่มีประสิทธิภาพทำงานสำคัญก็ต้องย้าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเราให้ความสำคัญกับนายอำเภอและผู้กำกับ ที่จะต้องดูแลพื้นที่ในขนาดเล็กลงไปให้ได้

 

 

เมื่อถามว่า ที่ว่าจะย้ายนั้น เป็นในส่วนใดบ้าง นายภูมิธรรม กล่าวว่า ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด หรือมีส่วนในการไม่ทำให้ยาเสพติดมันลดลง เราก็ต้องให้สมัครใจย้าย ส่วนกรณีฝั่งแก๊งคอลเซ็นเตอร์นั้น เราทำทั้งหมด คราวนี้ที่ทำในเรื่องชายแดนมีทั้งเรื่องยาเสพติด มีทั้งเรื่องค้ามนุษย์ มีทั้งเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มันเป็นเส้นทางเดียวกันที่จะเข้าจะออกประเทศ นี่คือภัยความมั่นคงที่มนุษย์สร้างขึ้น เราก็จะดำเนินการอย่างเข้มข้นอย่างจริงจัง

 

 

นายภูมิธรรม ยังกล่าวถึงกรณีชาวอินโดนีเซีย 32 คนลักลอบเข้ามาว่า ชาวอินโดนีเซีย 32 คน ที่เราเช็คแล้ว 12 คนเข้ามาผ่านทางตม.สุวรรณภูมิ และนั่งรถไปจังหวัดตาก 8 คนในนั้น เราเช็คได้ว่าผ่านทางด่านจังหวัดตาก อีก 4 คนยังไม่ทราบ โดยได้แสดงพาสปอร์ตเข้ามาและอ้างว่าเข้ามาท่องเที่ยว ส่วนอีก 20 คนนั้นยังไม่ทราบว่าเข้ามาจากทางไหน โดยมีรายละเอียดเยอะ กำลังให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"รอยเตอร์" แฉยับ "ฮุน เซน" อยู่ฉากหลังก่อความขัดแย้งไทย สู่เหตุนองเลือด ปืนใหญ่กัมพูชาถล่มพื้นที่พลเรือนผู้บริสุทธิ์
“บช.น.” แจ้งเลี่ยงเส้นทางชุมนุม “อนุสาวรีย์ชัยฯ” 2 ส.ค.นี้
ปกครองอำเภอศรีราชา ร่วม สภ.บ่อวิน เดินหน้าลุยกวาดล้างยาเสพติด ตามนโยบายทำสงครามกับยาเสพติดของรัฐบาลประกาศจุดยืน NO Drugs NO Dealers
นายอำเภอวังจันทร์ รุกค้นหาผู้เสพรายใหม่ พร้อมขยายผลผู้ค้ายาเสพติด ภายใต้การสั่งการของ นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง
ฉะเชิงเทรา ปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติดภายใต้แผนปฏิบัติการ No Drugs No Dealers
"ชาวสุรินทร์" รับไม่ได้ "เขมร" ไร้มนุษยธรรม ยิงปืนใหม่ใส่ รพ.-รร.ติดแนวชายแดน ตัดสินใจปลดอักษร ลบป้ายภาษากัมพูชาออก

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​