“จุลพันธ์” แจงสภาฯ ออกพ.ร.ก.เก็บภาษีขั้นต่ำบริษัทข้ามชาติ คาดเก็บรายได้เข้ารัฐ 1.2 หมื่นล้าน

“จุลพันธ์” แจงสภาฯ ออกพ.ร.ก.เก็บภาษีขั้นต่ำบริษัทข้ามชาติ หรือ pillar 2 คลังคาดเก็บรายได้เข้ารัฐ 1.2 หมื่นล้าน

“จุลพันธ์” แจงสภาฯ ออกพ.ร.ก.เก็บภาษีขั้นต่ำบริษัทข้ามชาติ คาดเก็บรายได้เข้ารัฐ 1.2 หมื่นล้าน – Top News รายงาน

จุลพันธ์

เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2568 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้พิจารณาพระราชกำหนดภาษีส่วนเพิ่ม พ.ศ.2567 ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ และได้ประกาศใช้พระราชกำหนดฉบับดังกล่าวไปเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2568

โดยนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงถึงเหตุผลและความจำเป็นของการออกพระราชกำหนดฉบับนี้ว่า เพื่อรับรองว่าอัตราภาษีที่แท้จริงของกลุ่มนิติบุคคลข้ามชาติขนาดใหญ่ จากการประกอบกิจการในแต่ละประเทศนั้น ต้องไม่น้อยกว่า 15% หากน้อยกว่าจำนวนดังกล่าวในประเทศใด ประเทศอื่นที่ปรับใช้มาตรการดังกล่าว มีสิทธิ์จัดเก็บภาษีส่วนที่ยังขาดอยู่ หรือที่เรียกว่าภาษีส่วนเพิ่มแทนได้ ซึ่งปัจจุบันหลายประเทศมีมาตรการในการตราฏหมาย เพื่อจัดเก็บภาษีส่วนเพิ่มจากกลุ่มนิติบุคคลข้ามชาติขนาใหญ่แล้ว ดังนั้นเพื่อเป็นการรักษาผลประโยชน์ของประเทศไทย ในการจัดเก็บภาษีส่วนเพิ่มที่เกิดขึ้นในประเทศไทย และเป็นการรักษาสิทธิ์ในการจัดเก็บภาษีของประเทศไทยจากภาษีส่วนเพิ่มที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ ซึ่งจะต้องเริ่มคำนวณภาษีส่วนเพิ่มตั้งแต่ปี พ.ศ.2568 จึงเป็นกรณีฉุกเฉินที่มีความจำเป็นรีบด่วน ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เพื่อประโยชน์ในการที่จะรักษาความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ จึงจำเป็นต้องตราพระราชกำหนดนี้

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

สำหรับสาระสำคัญของพระราชกำหนดฉบับนี้ สรุปได้ดังนี้

1.กำหนดให้กลุ่มนิติบุคคลข้ามชาติ ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศไทย ไม่ว่ากลุ่มนิติบุคคลข้ามชาติของไทยที่ลงทุนในต่างประเทศ หรือกลุ่มนิติบุคคลข้ามชาติของต่างประเทศ ที่ลงทุนในไทย ที่มีรายได้ตามงบการเงินรวมของบริษัทแม่ลำดับสูงสุด ไม่น้อยกว่า 750 ล้านยูโร หรือราว 2.6 หมื่นล้านบาท อย่างน้อย 2 ใน 4 รอบ ระยะเวลาบัญชีก่อนหน้าที่พิจารณาหน้าที่ในการเสียภาษีส่วนเพิ่ม จะต้องเสียภาษีในอัตราภาษีที่แท้จริงร้อยละ 15

2.กำหนดให้ผู้มีหน้าที่เสียภาษีส่วนเพิ่ม จะต้องแจ้งข้อมูลยื่นรายงานและยื่นแบบแสดงรายการพร้อมทั้งชำระภาษีส่วนเพิ่มภายใน 15 เดือน นับแต่วันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชีของนิติบุคคลแม่ลำดับสูงสุดของกลุ่มนิติบุคคลข้ามชาติ อย่างไรก็ดีหากเป็นรอบระยะเวลาบัญชีแรกของกลุ่มนิติบุคคลข้ามชาติที่อยู่ในบังคับต้องปฏิบัติตามกฎหมายภาษีส่วนเพิ่ม ให้ขยายเวลาเป็น 18 เดือน นับแต่วันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชีของนิติบุคคลแม่ลำดับสูงสุดของกลุ่มนิติบุคคลข้ามชาติ

พระราชกำหนดฉบับนี้ เป็นไปตามแนวทางมาตรฐานที่องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนาหรือ โออีซีดี จัดทำขึ้น และเป็นไปตามหลักการของ สาหลักที่ 2 หรือ pillar 2 ซึ่งเป็นกติกากลางที่โออีซีดี ที่ปัจจุบันมีกว่า 40 ประเทศแล้วเข้าร่วมแล้ว โดยกระทรวงการคลังประเมินว่า การจัดเก็บภาษีส่วนเพิ่มในปี 2568 จะสามารถจัดเก็บรายได้ราว 1.2 หมื่นล้านบาท

หากย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ ร่างกฎหมายฉบับนี้ได้มีประเด็นมาแล้วเมื่อช่วงกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เมื่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พูดในงานสัมนาพรรคเพื่อไทย ที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตำหนิรัฐมนตรีพรรคร่วมรัฐบาลที่ไม่เข้าร่วมประชุมครม. ซึ่งมีวาระการพิจารณาร่างพระราชกำหนดฉบับนี้ จนเป็นที่จับตาถึงความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาล ต่อมารัฐมนตรีที่ถูกพาดพิงต้องออ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ผอ.สถาบันวิจัยและพัฒนา ม.ราชภัฏศรีสะเกษ ระบุ ประเทศไทยยังไม่ควรรีบเปิดด่านช่องสะงำ เหตุประชาชนชายแดนยังหวั่นใจเรื่องความมั่นคง
"สม รังสี" ปลุกคนเขมร กล้าลุกฮือต่อสู้ ตระกูลฮุน เลียนแบบ "เนปาลโมเดล" กำจัดรัฐบาลฉ้อฉล
เกิดเพลิงไหม้ร้านทำเบาะ เสียหายหนัก ดับเพลิงช่วยชีวิตแมวรอดหวุดหวิด
โรงเรียน–วัดคู่เมืองโคราช ร้อยสายสัมพันธ์กว่า 90 ปี ปลูกฝังคุณธรรม ควบคู่วิชาการ
"KMA" ชี้แจงหยุดจำหน่ายสินค้า “Multi Face Stick” สี P1 Aurora Pink นานแล้ว หลัง อย.พบสารปรอทเกินค่ามาตรฐาน
จัดครั้งแรกในไทย! 'Forbes Under 30 Summit Asia 2025' รวมพลนักธุรกิจรุ่นใหม่ทั่วเอเชีย 'ธนิศร์-กรวัฒน์ เจียรวนนท์' ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ ขับเคลื่อนอนาคตในยุคเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยี "Jumpstarting the Future"

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​