นายกสมาคมฯไก่ เผย 2567 ปีทองส่งออกเนื้อไก่ไทยยอดขายรวมพุ่งกว่าแสนล้านบาทจากความต้องการลูกค้าทั่วโลก

นายกสมาคมฯไก่ เผย 2567 ปีทองส่งออกเนื้อไก่ไทยยอดขายรวมพุ่งกว่าแสนล้านบาทจากความต้องการลูกค้าทั่วโลก ชี้ระบบการผลิตดีจนเป็นที่ยอมรับดันอัตราเติบโตสูงกว่า 30% สูงสุดในรอบหลายปี คาดปี 68 โตได้อีก จี้ ผู้ประกอบการรักษามาตรฐานฟู้ดเซฟตี้

วันนี้ ( 17 ธ.ค.) ดร.ฉวีวรรณ คำพา นายกสมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และประธานกรรมการบริหาร บริษัทในเครือฉวีวรรณ ผู้ส่งออกเนื้อไก่รายใหญ่ของไทย ได้เปิดเผยถึงสถานการณ์การส่งออกเนื้อไก่ไทยในปี 2567 ว่าเติบโตกว่า 30% เมื่อเทียบกับช่วงหลายปีก่อน

ถือเป็นปีทองของการส่งออก จากปัจจัยเรื่องภาวะสงครามในหลายประเทศ ที่ทำให้ความต้องการบริโภคเนื้อไก่จากไทยเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งผู้ประกอบการของไทยมีการพัฒนาระบบการผลิตที่ได้มาตรฐานทั้งตามหลักฮาลาน และตามหลักสากล จนสามารถสร้างความมั่นในเรื่องความปลอดภัยของอาหาร หรือฟู้ดเซฟตี้ให้กับคู่ค้าทั้งในตลาดยุโรป จีน มาเลเซีย และเกาหลี ซึ่งเป็นตลาดใหญ่

โดยยอดการสั่งซื้อเนื้อไก่ของไทยในปี 2567 มีมากกว่าแสนล้านบาท และยังทำให้หลายโรงงานที่ผลิตเนื้อไก่เพื่อการส่งออก มียอดคำสั่งซื้อยาวไปจนถึงกลางปีหน้า

ดร.ฉวีวรรณ ยังบอกอีกว่าปัญหาค่าเงินบาทที่แข็งเกินไปจนทำให้ในช่วงที่ผ่านมาสร้างความเสียหายต่อผู้ส่งออกโดยรวมหลายร้อยล้านบาท แต่ภายหลังจากที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับการเลือกให้กลับมาเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาอีกครั้ง ก็ดูเหมือนว่าความมั่นใจในการสั่งซื้อเนื้อไก่จากไทยมีมากตามไปด้วย จนทำให้ปัญหาเรื่องค่าเงินเบาบางลง

 

 

 

“ แต่สิ่งที่อยากบอกผู้ประกอบการของไทยก็คือ เรื่องมาตรฐานการผลิตและมาตรฐานความปลอดภัยทางอาหาร โดยเฉพาะเรื่องของฮาลาน ที่ผู้ผลิตเนื้อไก่จะต้องทำให้ดียิ่งขึ้น เพราะชาวมุสลิม มีเครือข่ายประชากรอยู่ทั่วโลก ดังนั้นหากไทยสามารถสร้างความมั่นใจในเรื่องดังกล่าวได้ รับรองว่าการส่งออกเนื้อไก่ไปต่างประเทศจะโชติช่วงอย่างแน่นอน”

ส่วนเรื่องการหาตลาดใหม่ผู้ประกอบการไม่เคยหยุดนิ่ง และยังพยายาม ที่จะขยายการส่งออกให้เพิ่มแต่หากได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลผู้ประกอบการก็พร้อมที่จะเปิดทุกตลาดที่เชื่อมั่นว่าเมื่อส่งออกไปแล้วจะไม่ขาดทุน โดยตลาดตะวันออกลาง ที่มีแนวโน้มดีขึ้น

ดร.ฉวีวรรณ ให้ความเห็นเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจของไทยในภาพรวมว่ายังมีความโชคดีที่แม้ว่าหลายประเทศจะมีสงคราม แต่ไทย ก็ยังเป็น จุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวจีน ที่ในวันนี้ไม่เพียงแต่เข้ามาท่องเที่ยว แต่ยังมีการขยายการลงทุนเข้ามาในไทย ซึ่งแม้อาจจะกระทบต่อภาคการผลิตของไทยในเรื่องของการแข่งขันด้านราคา

เพราะการเข้ามาของกลุ่มทุนจีนมีข้อได้เปรียบทั้งเรื่องเงิน และการนำแรงงานเข้ามาเอง แต่ผู้ประกอบการไทยก็ต้องพัฒนาตัวเองให้สามารถต่อสู้ได้แบบใครดีใครอยู่

“ เราไม่สามารถกีดกันไม่ให้เขาเข้ามาทำธุรกิจในบ้านเราได้ เพราะรัฐบาลเองก็มีนโยบายสนับสนุนให้ต่างชาติเขามาลงทุน แต่ภาครัฐก็ต้องให้ความสำคัญในเรื่องการส่งเสริมให้นักลงทุนไทยมีขีดความสามารถในการธุรกิจทางธุรกิจด้วย”

ชี้ขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม 15 % ต้องดูความพร้อมของประชาชน

 

 

 

โดย ดร.ฉวีวรรณ ให้ความเห็นเรื่องแนวทางการปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มจาก 7 % เป็น 15 % ของรัฐบาลว่า น่าจะเป็นอีกแนวทางหนึ่งในการหารายได้ของรัฐเพราะที่ผ่านมารัฐบาลแจกเงินให้กับประชาชนเป็นจำนวนมาก และยังมีมาตรการที่จะแจกเงินให้กับประชาชนในอีกหลายกลุ่ม แต่ในภาวะที่ประเทศไทยยังไม่พร้อมที่จะดำเนินการในเรื่องนี้ รัฐบาลก็ควรที่จะค่อยๆ ดูสถานการณ์ทางเศรษฐกิจไปก่อน

“ เพราะหากรีบร้อนจนเกินไปจะทำให้มีผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก เข้าใจว่ารัฐพยายามหาเงินเพื่อให้สมดุลกับรายจ่าย เช่นเดียวกับเรื่องการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ 400 บาท ซึ่งหากผู้ประกอบการรับได้ก็ไม่มีปัญหา แต่หากในบางจุดที่ยังไม่สามารถจ่ายได้และยังเป็นหนี้สถาบันการเงินอยู่ และรัฐก็ไม่มีนโยบายช่วยเหลือ เรื่องการปล่อยกู้จากแบงก์รัฐ ซ้ำยังกำหนดมาตรการต่างๆ มาควบคุมผู้ประกอบการจนทำให้มีรายจ่ายเพิ่มก็ถือว่ายิ่งซ้ำเติมให้อยู่ลำบาก”

ดังนั้นสิ่งที่อยากฝากถึงรัฐบาลในเรื่องของการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในปีหน้าว่า รัฐควรหันกลับมาให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการให้สามารถสร้างผลผลิตที่มีคุณภาพทั้งภาคการเกษตรและการส่งออก เพื่อให้ได้คำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้น จึงจะเป็นผลดีทั้งต่อการปรับค่าแรงขั้นต่ำและการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มในอนาคต

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ชาวบ้าน ฮือฮา เศรษฐีใจบุญ ถวายที่ดินมูลค่ากว่า 40 ล้าน สร้างองค์พระใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก
“นายกเบี้ยว” ประกาศ “ภรรยา” คว้าชัยชนะนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี “ลูกพีช” ได้เป็นสท.
“กกต.” แถลงปิดหีบเลือกตั้งเทศบาล พบฉีกบัตร 5 จังหวัด รวม 6 ราย เตรียมประกาศผลอย่างเป็นทางการภายใน 30 วัน
"ลูกสส.คนดัง" สงขลา สั่งสมุนรุมทำร้ายตำรวจ ไม่พอใจถูกห้ามถ่ายรูปในหน่วยเลือกตั้ง
ยะลาคึกคัก จัดพิธี "เวียนเทียน" เที่ยงวัน เนื่องในวันวิสาขบูชา คุมเข้มความปลอดภัยพุทธศาสนิกชน
"รอยตุ๊" โพสต์ขอร้อง "ชัชชาติ" อย่าลงสมัครผู้ว่าฯกทม.อีกสมัย คอมเมนต์เห็นด้วยพรึ่บ
"โฆษกภูมิใจไทย" ปฎิเสธข่าว คว่ำร่างพ.ร.บ.งบประมาณ 69 ชี้ไม่มีเหตุไม่สนับสนุน กม.เป็นประโยชน์พัฒนาประเทศ
รวบ “เจ๊เจี๊ยบ” หลอกคนไทยไปทำงานต่างประเทศ ผู้เสียหายนับร้อย เสียหายกว่า 30 ล้านบาท
"กรมโยธาฯ" แจง 3 ข้อ ปมเหตุก่อสร้างซุ้มประตูเมือง จ.อุดรธานี ล่าช้า
โฆษกเพื่อไทย สยบลือ ร้องหยุดโจมตี "ภูมิใจไทย" พร้อมคว่ำงบฯ 69 ตอบโต้คดีฮั้วสว. ยันพรรคร่วมฯทำงานปกติ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น