“ณัฐวุฒิ” ประกาศลั่นบนเวทีหาเสียงอุบลฯ ช่วยชาวนาไร่ละพัน โอนพรุ่งนี้!

ณัฐวุฒิ ประกาศบนเวทีลั่น ช่วยชาวนาไร่ละพันโอนแน่พรุ่งนี้ พร้อมชวนดู นายกฯอิ๊งค์ แถลงผลงาน ลั่น รัฐบาลนี้ไม่มีขายแผ่นดิน

“ณัฐวุฒิ” ประกาศลั่นบนเวทีหาเสียงอุบลฯ ช่วยชาวนาไร่ละพัน โอนพรุ่งนี้! – Top News รายงาน

 

ณัฐวุฒิ

เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2567 เวลา 14.00 น. ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี จ.อุบลราชธานี นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กล่าวบนเวทีปราศรัยช่วยนายกานต์ กัลป์ตินันท์ ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุบลราชธานี ว่า ตนมีข่าวแว่วๆ จากกรุงเทพฯ มาบอกให้สบายใจกันก่อน ขอให้พี่น้องชาวนาฟังทางนี้ ได้ยินมาว่างบช่วยเหลือชาวนาไร่ละพันของ จ.อุบลราชธานี น่าจะโอนในวันที่ 12 ธันวาคมแล้ว

นายณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า วันนี้ตนมาในฐานะสมาชิกพรรคเพื่อไทย (พท.) มาในฐานะเพื่อน ในฐานะพี่น้อง มาในฐานะคนหนึ่งที่ช่วยงานรัฐบาลชุดนี้อยู่ และอยากมาบอกพี่น้องว่าวันที่ 12 ธันวาคม เวลา 10.00 น ขอให้เปิดทีวีดู น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงนโยบายรัฐบาลที่จะแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ประกาศแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนทั้งระบบ

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า รัฐบาลพยายามแก้ปัญหาเศรษฐกิจ พิชิตความยากจน รัฐบาลกำลังทำงานเดินหน้า ก็อยากได้ผู้บริหารท้องถิ่น อย่างนายก อบจ. เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน จะได้เข้ามาทำงานประสานในเรื่องงบประมาณในเรื่องโครงการพัฒนาทั้งหลาย ทั้งนี้ มีคนมาถามตนว่ารัฐบาลจะอยู่ได้ไหม เพราะรู้สึกไม่สบายใจเพราะเห็น นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ดำเนินรายการสนธิทอล์กออกมาแล้ว ออกมายื่นหนังสือ หลายคนมีความเป็นห่วงและไม่สบายใจ ตนขอพูดตรงนี้ว่ารัฐบาลไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่มีทุจริตคอร์รัปชั่น ไม่มีใครชาติ ไม่มีเสียดินแดน

“ดังนั้น มั่นใจได้ว่าอยู่ยาวๆ จนหมดสมัย ประชาชนที่เห็นต่างกับรัฐบาล เราก็ไม่ได้ไปท้าทายเขาเราเป็นรัฐบาล ไม่หาเรื่องเผชิญหน้าประชาชน แต่เมื่อมั่นใจว่าไม่ได้ทำความผิด มั่นใจว่ารัฐบาลกำลังเดินหน้าเรื่องนโยบาย ก็ไม่มีความจำเป็นต้องกังวล บางคนก็ห่วงว่าจะเสียดินแดน ทำให้ตกเป็นของเพื่อนบ้าน จะเสียได้อย่างไร ยังไม่ได้คุยอะไรกันเลย ยังไม่ได้มีกรรมการอะไรไปตกลงเลย เมื่อต่างคนต่างบอกว่าดินแดนตรงนี้เป็นของประเทศตัวเอง ก็ต้องมี บันทึกความเข้าใจพื้นที่ทับซ้อนของไหล่ทวีป หรือเอ็มโอยู 44″

นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า นี่คือปกติของประเทศที่มีชายแดนติดกันจะมีพื้นที่ที่ตกลงกันไม่ได้เรียกว่าพื้นที่ทับซ้อน โดยปกติพื้นที่ทับซ้อนก็ไม่มีใครเข้าไปครอบครองก็ปล่อยเอาไว้ และสิ่งที่เป็นประเด็นอยู่จึงทำให้ต้องมีบันทึกข้อตกลงขึ้นมา เพราะทั้งสองประเทศมองว่าถ้าจะคุยกันเรื่องนี้ต้องคุยกันตามข้อตกลงเพื่อให้เกิดความเห็นตรงกัน ยังไม่มีใครเสียแผ่นดิน ยังไม่มีใครเสียแผ่นน้ำ

“ดังนั้นให้สบายใจได้และที่สำคัญเอ็มโอยู 44 ที่มีประเด็นอยู่ก็เพราะว่ารัฐบาลทั้งสองประเทศเห็นตรงกันว่าใต้ทะเลตรงนั้น มีก๊าซมหาศาลมีพลังงานปิโตรเลียมมูลค่าไม่ต่ำกว่า 10 ล้านล้านบาท จึงต้องพูดคุยกัน ใครจะเป็นรัฐบาลเพื่อขายดินแดน รัฐบาลนี้ไม่มี รัฐบาลนี้มาเพื่อบริหารประเทศให้ชาวนาขายข้าวได้ราคา ขายยางพาราได้ราคาดีขึ้น”

  

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) บุกโรงงาน 'หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์' ฝีมือจีน
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) จีนเปิดเที่ยวบิน 'เสิ่นหยาง-กรุงเทพฯ'หนุนท่องเที่ยวข้ามภูมิภาค
"ซาบีดา" เปิดโครงการส่งเสริม สืบสานศิลปวัฒนธรรม ประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่นจ.นครสวรรค์ "ต้นไม้วัฒนธรรมหลากสีแห่งเมืองสวรรค์" ปลูกพลังวัฒนธรรม สู่เมืองสวรรค์อย่างยั่งยืน
ตม.ประจวบฯ สานสัมพันธ์ จัดหางานจังหวัดฯ สวัสดีปีใหม่
ส่องลุคแฟชั่นผ้าไทยสไตล์ "ซาบีดา" สวมเสื้อแซว ทรงไทยจิตรลดา นุ่งมัดหมี่โฮล ราชินีแห่งผ้า อัตลักษณ์ประจำจังหวัดสุรินทร์
อบจ.ปทุมธานี เตรียมจัดงานใหญ่ รำลึกสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ประจำปี 2568

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​