วธ.ชู “วัดผาลาด” สู่แหล่งท่องเที่ยว เชิงศาสนา-วัฒนธรรมฯ

วธ.ชู "วัดผาลาด" สู่แหล่งท่องเที่ยว เชิงศาสนา-วัฒนธรรมฯ

วันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) เปิดเผยว่า ในโอกาสที่คณะรัฐมนตรีกำหนดจัดการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 1/2567 ณ จังหวัดเชียงใหม่

กระทรวงวัฒนธรรม ได้ลงพื้นที่ตรวจราชการ ณ วัดผาลาด อำเภอเมืองเชียงใหม่ ซึ่งได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานโดยกรมศิลปากร เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2544

 

โดยมี นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร และ นายประสพ เรียงเงิน อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม รวมถึงหัวหน้าส่วนราชการให้การต้อนรับ

สำหรับ “วัดผาลาด” ปรากฏหลักฐานในเอกสารตำนาน และพงศาวดารว่า มีประวัติศาสตร์ร่วมกับพระธาตุดอยสุเทพ โดยอาคารเสนาสนะที่สำคัญ ได้แก่ เจดีย์เป็นศิลปะพม่า สมัยครูบาศรีวิชัย

วิหารสร้างขึ้นในสมัยครูบาศรีวิชัย โดยช่างชาวพม่า ฐานโบราณสถาน (โบสถ์) (วิหารพระเจ้ากือนา) อยู่ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเจดีย์

ซึ่งมีปูชนียวัตถุที่สำคัญ ได้แก่ พระพุทธรูป ศิลปะพม่า บ่อน้ำที่มีการสร้างทับซ้อนกันหลายยุคหลายสมัยและศาลาเก่า ซึ่งปัจจุบันนักท่องเที่ยวนิยมเดินทาง ขึ้นสู่วัดผาลาดตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ไม่เพียงเท่านั้น “วัดผาลาด” มีเรื่องเล่าต่อๆ กันมาว่า เดิมทีที่นี่เรียกชื่อว่า “ผะเลิด” เพราะคนที่ดินตามช้างมาตามลำธารน้ำตก แล้วเกิดลื่นหกล้มกันหลายคน บ้างก็ว่าช้างก็ลื่นเหมือนกัน

จึงให้เรียกชื่อว่า “วัดผะเลิด” แต่ต่อมาเรียกเป็น “วัดผาลาด” ตามชื่อผาน้ำตก แม้จะไม่ปรากฏหลักฐานว่าวัดสร้างขึ้นตั้งแต่เมื่อใด แต่ก็คาดว่ามีอายุหลายร้อยปี

จากสิ่งก่อสร้างต่างๆ ที่มีอยู่ในวัด โดยช่วงหนึ่งที่นี่เป็นวัดร้าง และถูกบูรณะขึ้นอีกครั้งในราว พ.ศ.2534 ให้มีสถานภาพเป็นวัดและสถานที่ปฏิบัติธรรม

 

โดยบรรยากาศภายในวัดเต็มไปด้วยความเงียบสงบ ให้ความร่มเย็นจากต้นไม้น้อยใหญ่ที่มีอยู่ตามธรรมชาติ บางส่วนก็มีการตกแต่งเพิ่มเติมเพื่อความสวยงาม

และยังได้ยินเสียงของสายน้ำที่ไหลเอื่อยๆ ให้ยิ่งรู้สึกได้ถึงความสงบทั้งร่างกายและจิตใจ รวมทั้งสิ่งก่อสร้างสำคัญภายในวัดมีอยู่หลายจุด ไม่ว่าจะเป็น “เจดีย์”

ล้วนเป็นเจดีย์โบราณที่ถูกปกคลุมด้วยมอส และเฟิร์นสีเขียวดูชุ่มชื้น องค์เจดีย์เป็นศิลปะสมัยครูบาศรีวิชัยแต่สร้างโดยช่างชาวพม่า จึงทำให้ลักษณะของเจดีย์จึงออกมาเป็นศิลปะแบบพม่า

 

 

สันนิษฐานว่ารูปทรงน่าจะคล้ายกันกับเจดีย์ที่วัดมหาวัน ถนนท่าแพ เชียงใหม่ เจดีย์องค์ที่เห็นอยู่นี้ถูกขุดเจาะนำของสำคัญที่บรรจุอยู่ภายในเจดีย์ออกไป

ตั้งแต่ช่วงสมัยสงครามโลกแล้ว และทำให้ยอดเจดีย์พังลงมา ต่อมาจึงมีการบูรณะให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์มากขึ้นแบบในเห็นในปัจจุบัน

 

 

 

 

ด้าน นางสาวสุดาวรรณ ยังใช้โอกาสนี้ เชิญชวนนักท่องเที่ยว มาร่วมชมความงดงามของวัดผาลาด ซึ่งถือเป็นการท่องเที่ยวเชิงศาสนา วัฒนธรรม

และนับว่าเป็นเส้นทางโบราณ ที่เต็มไปด้วยความงดงามของธรรมชาติ และโบราณสถานสำคัญตลอดเส้นทาง ที่สำคัญจะเป็นการเสริม ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางศาสนาและวัฒนธรรมต่อไป

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ฮุน มาเนต" โพสต์ส่งตัวแทนกัมพูชา ยื่นจดหมายถึงศาลโลกแล้ว ลั่นจะไม่ถอยหนี หวังฮุบ 4 พื้นที่พิพาท
เตือนภัย "มิจฉาชีพ" อ้างเป็นทนาย-ตำรวจ หลอกช่วยเหลือคืนเงินผู้เสียหายคดีออนไลน์ พบสูญเงินกว่า 10 ล้าน
"ทัพเรือ" แจงคลิป ทหารเขมรสอดแนม ฐานชำราก ยันเขตแดนไทยอยู่ห่างพื้นที่อ้างสิทธิ์ทางบก 200 เมตร
"ทหาร ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์" จับต่างด้าวเถื่อนลอบเข้าไทย จ่าย 55,000 ใช้ไทยทางผ่านไปทำงานมาเลเซีย
‘สุชาติ’ ขึ้นศาลไต่สวนมูลฟ้องคดีถูก ‘รักชนก- สหัสวัติ’ หมิ่นประมาท จ่อมอบทนายความฟ้องอีก 1 คดี
"ชัยวัฒน์" ร้องศาลปกครอง โดนไล่ออกไม่เป็นธรรม ปมป.ป.ช.ชี้มูลทุจริตฮั้วสร้างตึกอุทยานฯ
โอกาสทอง ! เปิดให้เช่าพื้นที่ตลาดศาลายา เพื่อประกอบกิจการ ทำเลดีจากการเคหะแห่งชาติ
จันทบุรี องคมนตรี ตรวจเยี่ยมแนวชายแดนบ้านแหลมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ
‘มูลนิธิยังมีเรา’ ร่วม ‘ท็อปนิวส์’ มอบทุนการศึกษา ‘3 พี่น้องยอดกตัญญู’ เยาวชนสู้ชีวิต ชาวระนอง ต่อยอดพัฒนาความรู้
วิทยาลัยการทัพบก รุ่นที่ 69 ผนึกพลังแห่งศรัทธา ร่วมส่งกำลังใจสู่แนวหน้า หนุนทหารชายแดนไทย–กัมพูชา ปกป้องอธิปไตยไทยเต็มที่

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น