โจ ไบเดน เปิดทำเนียบขาวต้อนรับทรัมป์

ประธานาธิบดี โจ ไบเดน เปิดห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาว ต้อนรับ โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทั้งสองให้คำมั่นว่าจะทำการเปลี่ยนผ่านอย่างราบรื่น

 

ภาพการจับมือและทักทายด้วยใบหน้ายิ้มแย้มของทั้งคู่ ถือเป็นภาพประวัติศาสตร์ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แสดงความเป็นสุภาพบุรุษประชาธิปไตยต่อคู่แข่ง ที่ปฏิเสธทำแบบเดียวกันนี้ หลังไม่ยอมรับความพ่ายแพ้การเลือกตั้งเมื่อ 4 ปีที่แล้ว โดยอ้างว่ามีการโกงการเลือกตั้ง

 

ไบเดน วัย 81 กล่าวว่า “เราตั้งตารอที่จะให้มีการเปลี่ยนผ่านอย่างราบรื่น อย่างที่ได้เคยกล่าวไป ว่าจะทำทุกอย่างที่ทำได้ เพื่อให้คุณรู้สึกว่า ได้รับความสะดวก และได้รับในสิ่งที่ต้องการ เราจะมีโอกาสพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องนั้นในวันนี้ ยินดีต้อนรับกลับมาอีกครั้งหนึ่ง”

 

ขณะที่ ทรัมป์ ตอบกลับว่า “การเมืองเป็นเรื่องยาก หลาย ๆ ครั้ง มันไม่ใช่โลกที่สวยงาม แต่มันเป็นโลกที่สวยงามในวันนี้ ผมขอบคุณมากที่จะเกิดการเปลี่ยนผ่านอย่างราบรื่น มันจะราบรื่นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ผมขอบคุณกับเรื่องนั้นมาก โจ”

 

ทั้งสองนั่งเคียงข้างกันให้นักข่าวได้ถ่ายภาพ ก่อนพูดคุยกันเป็นการส่วนตัว บุคคลอื่นที่อยู่ในห้องขณะทั้งสองสนทนากัน มีเพียง เจฟฟ์ เซียนตส์ หัวหน้าคณะทำงานของไบเดน กับ ซูซี่ ไวลส์ ว่าที่หัวหน้าคณะทำงานของทรัมป์

 

แครีน ฌอง ปิแอร์ โฆษกทำเนียบขาว แถลงหลังจากนั้นว่า การพูดคุยกินเวลานานเกือบ 2 ชั่วโมง และเป็นไปอย่างอบอุ่นและสุภาพอย่างมาก ทรัมป์มาพร้อมกับคำถามชุดหนึ่ง ทั้งสองหารือกันเรื่องยูเครน และตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นโจทย์ใหญ่ของว่าที่รัฐบาลทรัมป์ ตลอดจนประเด็นปัญหาต่างๆในประเทศ

 

ด้าน เจ้ค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ กล่าวว่า ทรัมป์แคลงใจเรื่องการให้ความช่วยเหลือของสหรัฐฯแก่ยูเครน แต่ไบเดนย้ำความสำคัญที่จะต้องยืนหยัดเคียงข้างยูเครน ต่อต้านการรุกรานของรัสเซีย ซึ่งถือเป็นผลประโยชน์แห่งชาติของสหรัฐฯ เพราะความมั่นคงและเเข็งเเกร่งในยุโรปจะสามารถปกป้องไม่ให้สหรัฐฯ ถูกดึงเข้าไปอยู่ในสงคราม

 

ทั้งนี้ ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ผู้นำสหรัฐคนปัจจุบัน จะพบปะกับว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ หลังสิ้นสุดการเลือกตั้ง แต่ทรัมป์ปฏิเสธเปิดทำเนียบขาวต้อนรับไบเดนเมื่อ 4 ปีก่อน และปลุกเร้าผู้สนับสนุนจนนำไปสู่การก่อม็อบบุกอาคารรัฐสภา เพื่อล้มผลเลือกตั้ง เมื่อ 6 มกราคม 2564 ทั้งยังไม่ไปร่วมพิธีสาบานตนของไบเดน

 

การพบปะกันครั้งนี้ เมลาเนีย ทรัมป์ ไม่ได้เดินทางมาด้วย ซึ่ง จิล ไบเดน สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง ได้มอบจดหมายที่เขียนด้วยลายมือให้กับทรัมป์ เพื่อแสดงความยินดีกับว่าที่สตรีหมายเลขหนึ่งคนต่อไป

 

กำหนดการหลังจากนี้ คือในวันที่ 17 ธันวาคม คณะผู้เลือกตั้ง 538 เสียงที่มาจากการเลือกตั้งเมื่อ 5 พฤศจิกายน จะประชุมกันในเมืองหลวงของแต่ละรัฐ กับ ดิสตริก ออฟ โคลัมเบีย เพื่อลงคะแนนเลือกประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการ จากนั้น ในวันที่ 6 มกราคม รองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส ในฐานะประธานวุฒิสภาโดยตำแหน่ง จะเป็นประธานการนับคะแนนเสียงคณะผู้เลือกตั้ง ในที่ประชุมร่วมของสภาคองเกรส ก่อนประกาศรับรองชัยชนะของทรัมป์อย่างเป็นทางการ

 

20 มกราคม ไบเดนและแฮร์ริส จะออกจากทำเนียบขาว ส่วนทรัมป์ จะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐฯ

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ระทึก ไฟไหม้ "โรงงานผลิตกระดาษทิชชู" นิคมฯ เหมราช สระบุรี เสียชีวิต 8 ราย สูญหาย 2 ราย
ดันแพลตฟอร์มข้อมูลที่อยู่อาศัยระดับชาติ "การเคหะแห่งชาติ" ลุยเชื่อมโยงข้อมูลทุกพื้นที่ พัฒนาที่อยู่อาศัยของประเทศอย่างยั่งยืน
กรมโยธาธิการและผังเมือง เร่งตรวจสอบคันกั้นน้ำ กำจัดผักตบชวา ยกระดับระบายน้ำ รับมือฤดูฝน
นายกฯงดแถลง หลังประชุมครม. ลุ้นศาลรธน. สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ แจงปมไม่ตั้งรมว. กลาโหม บอกมี "บิ๊กเล็ก" อยู่แล้ว
"ภูมิธรรม" โยนนายกฯแจง เหตุผลเว้นเก้าอี้รมว.กลาโหม เชื่อฝีมือ "บิ๊กเล็ก" ทำหน้าที่ดูแลปัญหาชายแดนได้
‘ทนายวิญญัติ’ เผย ‘ทักษิณ’ ต้องมาศาลสู้คดี ม.112 ย้ำเจ้าตัวประสงค์ เข้าฟังการพิจารณาทุกนัด เชื่อจะมีการพิสูจน์คลิปคุยกับสื่อเกาหลี
"สุริยะ" แจง "พงศ์กวิน" หลานชาย นั่งรมว.แรงงาน ผ่านพิจารณาของนายกฯ ชี้มีผลงานในเพื่อไทยต่อเนื่อง
"ทักษิณ" มาแล้ว ฟังศาลสืบพยานโจทก์นัดแรกคดี 112-พ.ร.บ.คอมฯ เข้าประตูข้าง เลี่ยงเจอสื่อมวลชน
"นายกฯ" เผยทรงเป็นพระมหากรุณาธิคุณ โปรดเกล้าฯครม.ใหม่ หน้านิ่งโดนสื่อซักปมศาลรธน.พิจารณาคำร้องสว.วันนี้
ไม่สนผลสอบกรมโยธา "เอกนัฏ" เดินหน้าจัดการ "ซิน เคอ หยวน" โดนตั้งข้อหาอ่วม 1,016 คดี

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น