“โฆษก มท.” แจงมติครม.ปัดให้สัญชาติต่างด้าว ย้ำทั้ง 4.8 แสนราย ต้องผ่านขั้นตอนตามกม.

โฆษก มท. เผยมติ ครม. 29 ต.ค. 67 เป็นการเร่งรัดแก้ปัญหาคนไทยที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน ไม่ใช่การให้สัญชาติคนต่างด้าว ย้ำทั้ง 4.8 แสนรายยังต้องผ่านขั้นตอนตามกฎหมาย และเพิกถอนได้ทันทีกรณีขาดคุณสมบัติ

“โฆษก มท.” แจงมติครม.ปัดให้สัญชาติต่างด้าว ย้ำทั้ง 4.8 แสนราย ต้องผ่านขั้นตอนตามกม. – Top News รายงาน

เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2567 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติอนุมัติหลักเกณฑ์เพื่อเร่งรัดการแก้ไขปัญหาสัญชาติ และสถานะให้แก่บุคคลที่อพยพเข้ามาในอยู่ในราชอาณาจักรเป็นเวลานาน และกลุ่มบุตรที่เกิดขึ้นในราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 29 ต.ค. 67 ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในสังคม และมีบางส่วนที่ยังมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนนั้น

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ในข้อเท็จจริงแล้ว มติ ครม. ดังกล่าวเป็นการปรับแก้หลักเกณฑ์เพื่อเร่งรัดการแก้ไขปัญหาสัญชาติและสถานะบุคคลให้แก่บุคคลที่อพยพเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเป็นเวลานาน และกลุ่มบุตรที่เกิดในราชอาณาจักร ให้มีขั้นตอนและระยะเวลาใหม่เพื่อให้เร่งรัดกระบวนการดำเนินการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งเป็นไปตามระเบียบและกฎหมายที่ใช้บังคับก่อนอยู่แล้ว มิได้เป็นการยกเว้นการต้องดำเนินการตามข้อกฎหมายที่อยู่แต่อย่างใด และในปัจจุบันบุคคลทั้ง 2 กลุ่ม ตามมติ ครม. ก็เป็นผู้ที่ได้ยื่นต่อทางการและอยู่ในกระบวนการเพื่อขอมีถิ่นที่อยู่ถาวร และขอมีสัญชาติแล้ว

“ตามหลักเกณฑ์ที่สภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอต่อ ครม. และมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการต่อนี้ ได้กำหนดเงื่อนไขไว้ด้วยว่ากรณีบุคคลที่ได้รับสัญชาติไทยตามมติ ครม. ได้รับสัญชาติแล้ว ปรากฏในภายหลังว่า มีพฤติกรรมหรือคุณสมบัติไม่เป็นไปตามกฎหมาย เช่น มีพฤติการณ์เป็นที่น่าเชื่อว่าเป็นบุคคลที่เป็นภัยต่อสังคม หรือจะก่อเหตุร้ายให้เกิดอันตรายต่อความสงบสุขหรือความปลอดภัยของประชาชนหรือความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยสามารถถอดถอนสัญชาติไทยในภายหลัง ตามกฎหมายว่าด้วยสัญชาติได้” น.ส.ไตรศุลี กล่าว

โฆษก มท.

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า หลักเกณฑ์ฯ ที่ผ่าน ครม. เป็นการดำเนินการตามหลักสิทธิมนุษยชนสากล และเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลในการสร้างความเท่าเทียมในชีวิตขั้นพื้นฐานของประชาชน ซึ่งกลุ่มคนดังกล่าวเป็นกลุ่มที่อพยพเข้ามาในประเทศไทย ก่อนปี พ.ศ. 2542 จำนวน 3.4 แสนคน และเป็นคนไทยที่เกิดในประเทศไทย จำนวน 1.4 แสนคน แต่ติดเงื่อนไขจากกฎหมายในอดีต ทำให้ไม่สามารถใช้ชีวิตอย่างคนไทยได้ตลอดช่วงชีวิตที่ผ่านมา เพราะไม่มีสถานะทางทะเบียน ไม่ใช่เป็นการให้สัญชาติแก่คนต่างด้าวแต่อย่างใด

ทั้งนี้ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ได้สำรวจจัดทำทะเบียนประวัติของกลุ่มคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทยไว้ในอดีตจนถึงปี พ.ศ. 2542 และสำรวจเพิ่มเติมตั้งแต่ปี 2548 – 2554 พบว่ามีกลุ่มคนไร้สัญชาติคงเหลืออยู่ทั้งสิ้น ประมาณ 4.8 แสนราย อาทิ ชนกลุ่มน้อยและกลุ่มชาติพันธุ์ที่อพยพเข้ามาอยู่ในประเทศไทยเป็นเวลานาน มากกว่า 20 ปี จำนวน 19 กลุ่ม ในจำนวนนี้ เป็นบุคคลบนพื้นที่สูงและชุมชนบนพื้นที่สูง ประมาณ 124,000 ราย รวมถึงผู้ที่ตกหล่นจากการสำรวจในอดีตประชากร ประมาณ 215,000 คน และกลุ่มบุตรที่เกิดในราชอาณาจักรของชนกลุ่มน้อย 29,000 คน และกลุ่มบุตรที่เกิดในราชอาณาจักรของบุคคลที่ไม่มีสถานะตามทะเบียนประมาณ 113,000 คน

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

รมว.มาเลเซียหนุนกัมพูชาส่งคดีพิพาทชายแดนไปศาลโลก
เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ ตรวจสอบข้อเท็จจริงหลังได้รับร้องเรียนพบผู้บุกรุกปลูกสร้างที่พักรุกล้ำชายหาด
ทล.ระยอง รวบคาด่านตรวจหนุ่มเจอด่านมีพิรุธเจอยาบ้าเพียบ
จันทบุรี ประตูด่านถาวรบ้านแหลม บ้านผักกาด และ จุดผ่อนปรนยังเปิดปกติ ประชาชนหน่วยงานเอกชนส่งกำลังใจมอบสิ่งของ ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 11 จำนวนมาก
เดินหน้าไล่นายกฯ "กลุ่มรวมพลังแผ่นดิน" ประกาศชุมนุม 28 มิ.ย. ชี้กระทำการเป็นปฏิปักษ์ชาติ
เช็คเสียงรัฐบาล "เพื่อไทย" ดึงสส.เพิ่ม ตัวเลขขยับบวก 267 หลัง "ไผ่ ลิกค์" โพสต์ปริศนา 263++
"ชาวเขมร" กร่างไม่หยุด บุกป่วนปราสาทตาควาย ทหารไทยต้องปรามหยุดร้องเพลงยั่วยุ
"วันนอร์" ฟุ้งเสียงสภาฯปริ่มน้ำ เคยผ่านมาแล้ว ฝากรัฐบาลต้องฟังเสียงปชช.ให้สำคัญความมั่นคง
"ดร.สามารถ" ชี้ไม่ผิดคาด ปชป.ยืนร่วมรัฐบาล ซัด กก.บห.ไม่ติดใจ คลิปนายกฯพูดแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม พรรคจะไม่ได้รับการอภัย
"ฮุน มาเนต" สาธุ คลิป "หลวงตาสุจ" ประกาศมอบกายถวายชีวิตให้รัฐบาลเขมร

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น