นายสิรภพ อัตโตหิ หรือ แรปเตอร์ , นางสาวภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือ น้องมายด์ พร้อมด้วยตัวแทนจากกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม , กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย , ศิลปะปลดแอก , เยาวชนปลดแอก , ราษฎร, Root, วีโว เดินทางมายัง สถานทูตสหรัฐ เป็นที่แรก เพื่อยื่นจดหมายเรียกร้องให้ สถานทูตสหรัฐ ติดตามสถานการณ์และเข้าเยี่ยมผู้ต้องหาที่ถูกดำเนินคดี ในมาตรา 112 ซึ่งถูกคุมขังอยู่ภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร จำนวน 7 คน โดยเฉพาะ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน และ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง ซึ่งได้อดอาหารมาเป็นเวลา 45 วัน และ 30 วันตามลำดับ เพื่อทำให้แน่ใจว่า เพนกวิน และ รุ้ง จะได้รับการดูแลจากบุคลากรทางการแพทย์อย่างเหมาะสม
ด้าน นายสิรภพ อัตโตหิ หรือ แรปเปอร์ ตัวแทนกลุ่มเยาวชนปลดแอก กล่าวว่า ต้องการให้สถานทูต ติดตามสถานการณ์ทางการเมืองและปัญหาของประเทศไทย ที่มีการเรียกร้องให้ปล่อยตัวนักโทษทางการเมือง ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ทุกคนจะต้องได้รับสิทธิ์๋ประกันตัว และออกมาต่อสู้คดีตามขั้นตอนของกฎหมาย เนื่องจาก ทั้ง 7 คน ศาลยังไม่ได้ตัดสินว่า เป็นผู้กระทำผิด จึงเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยเฉพาะ เพกวินและรุ้ง ที่อดอาหาร และมีอาการป่วย จึงอยากให้ตัวแทนสถานทูต ได้เข้าเยี่ยมและได้เห็นกับตาในสิ่งที่เกิดขึ้น
ด้าน น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือ มายด์ ระบุว่า ช่วงนี้ รัฐบาลพยายามใช้สถานการณ์โควิด-19 ในการห้ามทำกิจกรรมเรียกร้องการปล่อยตัว ยิ่งตอกย้ำ ให้นานาประเทศรู้ว่า เป็นการปิดกั้นเสรีภาพการแสดงออก ที่สามารถทำได้ตามประชาธิปไตยอยู่แล้ว ซึ่งไม่มีใครสมควรโดนจับกุม เพราะเป็นการแสดงออกตามสิทธิและเสรีภาพ ส่วนที่เดินทางเข้ายื่น ทั้ง 3 สถานทูต เนื่องจาก ทั้ง 3 ประเทศเห็นกับหลักสิทธิมนุษยชนเป็นหลัก ตอนนี้ไม่สามารถพึ่งพาใครได้ และรัฐบาลไทย ไม่ได้ให้ความเป็นธรรมกับประชาชนที่ถูกจับกุม จึงอยากขยายความจริงให้ทั่วโลก และให้ดังอยู่ตลอดเวลา จากนั้น ทางกลุ่มปลดแอก ก็ได้เดินทางไปยัง สถานทูตเยอรมัน และสถานทูตสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อยื่นจดหมายเนื้อความเดียวกัน
ขณะที่ การดูแลความปลอดภัย ทาง ตำรวจ สน.ลุมพินี ได้จัดกำลังตำรวจ ร่วม 10 นาย มาคอยดูแลความเรียบร้อย บริเวณด้านหน้าสถานทูต ตั้งแต่ช่วงเช้า หลังได้รับการประสานจาก กลุ่มผู้ชุมนุมว่า จะนัดรวมตัวมายื่นหนังสือ โดยไม่ได้เป็นการร้องขอจากทางสถานทูตแต่อย่างใด โดยบรรยากาศโดยรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย