นี่เป็นภาพวงจรปิดภายในศาลาทำบุญวัดชนะสงสารพิทยาธร ต.คลองนครเนื่องเขต อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา เผยให้เห็นภาพชายลักษณะผอม ผมสั้นเกรียน เดินสำรวจตู้บริจาคภายในศาลาอย่างใจเย็น ก่อนจะเดินย้อนกลับมาที่ตู้บริจาคที่เป็นเณรถือบาตร ทำการยกมือไหว้ก่อนจะเดินอ้อมไปด้านหลัง งัดแผ่นเหล็กที่มีแม่กุญแจคล้องอยู่ ก่อนจะหยิบเงินที่ประชาชนมาบริจาคไว้ก่อนหน้านี้ออกไปหมด ก่อนจะเดินหายออกจากวัดไป
โดยวันนี้ ( 28 ก.ค. 67 ) ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานจาก นายชวลิต คฤหเดช กรรมการวัดชนะสงสารพิทยาธร ว่ามีหัวขโมยเข้ามางัดตู้บริจาคภายในวัด พร้อมนำคลิปภาพวงจรปิดให้ผู้สื่อข่าวดูพฤติกรรมของโจรรายนี้ โดยนายชวลิต เปิดเผยว่า ทางวัดมาทราบเรื่องเมื่อวานนี้ เนื่องจากมีญาติโยม มากวาดศาลาการเปรียญเพราะจะมาทำบุญในวันนี้ ก่อนจะไปกวาดศาลาทำบุญที่มีพระปางต่างๆ และมีตู้รับบริจาคตั้งอยู่ ก่อนจะสังเกตุพบว่า ด้านหลังเณรถือบาตร ซึ่งเป็นตู้บริจาคของทางวัด ถูกงัดออกจนเป็นรูขนาดใหญ่และเงินบริจาคที่ประชาชนมาเอาไว้ได้หายไปหมด ทางคณะกรรมการวัดจึงได้ย้อนภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ในศาลาดู พบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ช่วงเวลา 2 ทุ่ม 40 นาที คืนวันที่ 26 กรกฏาคม ที่ผ่านมา โจรรายนี้ได้เดินเข้ามา ซึ่งตู้บริจาคที่เป็นตู้ไม้มีเงินบริจาคอยู่ แต่ไม่มาก เมื่อโจรรรายนี้ส่องดูแล้วแต่ก็ไม่สนใจ เดินย้อนกลับมาที่เณรถือบาตร ก่อนจะยกมือไหว้สำนึกผิด ขอโทษ จากนั้นก็เดินอ้อมไปด้านหลัง เพื่องัดแผ่นเหล็กด้านหลังออก ค่อยหยิบเงินออกมาอย่างใจเย็นจนหมดตู้แล้วก็เดินหลบหนีไป
นายชวลิต เปิดเผยต่อว่า เมื่อ 2 เดือนก่อนวัดก็เคยเป็นข่าวมาแล้ว 1 ครั้ง กรณีที่พระลูกวัด งัดตู้เชฟภายในกุฏิเจ้าอาวาส นำเงินสด 5 แสน ที่เบิกมาง่ายค่าแรงช่างซ่อมโบสถ์ ก่อนจะหลบหนีไปจนตอนนี้ก็ยังไม่สามารถติดตามจับกุมตัวได้ พอมารอบนี้ก็ยังมีใจรใจบาป เข้ามางัดตู้บริจาคของทางวัดอีก ตนเองคิดว่าด้านในมีเงินบริจาคเป็นจำนวนมาก เพราะเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา มีการแข่งขันเรือประเพณี มีชาวบ้านเข้ามาท่องเที่ยวดูการแข่งเรือ แล้วก็มาไหว้พระทำบุญภายในศาลแห่งนี้เป็นจำนวนมาก ตนเองก็อยากฝากไม่อยากให้โจรรายนี้ไปก่อเหตุที่วัดไหนอีก เป็นบาปเป็นกรรมและที่สำคัญเงินเหล่านี้ ญาติโยมบริจาคมาให้วัด เพื่อใช้ทำนุบำรุงศาสนา จ่ายค่าน้ำค่าไฟ ไม่น่าจะเข้ามาขโมยกันแบบนี้ เบื้องต้นขณะนี้ทางวัดรอไวยวัฏจกรวัดเดินทางมาถึง เพื่อเดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดี กับหัวขโมยรายนี้ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองฉะเชิงเทรา
