ทีมนักกีฬาว่ายน้ำจีนโอด ถูกตรวจสารกระตุ้นกว่า 200 ครั้งภายใน 10 วัน ขณะเตรียมแข่งโอลิมปิกในกรุงปารีส หลังนักกีฬาของทีมเผชิญคดีสารต้องห้ามเมื่อเร็วๆนี้
เจ้าหน้าที่ทีมนักกีฬาว่ายน้ำของจีนได้ออกมาเปิดเผยว่า นับตั้งแต่เดินทางมาถึงกรุงปารีส เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิค นักกีฬาว่ายน้ำจีนถูกตรวจสารต้องห้ามอย่างหนักรวมกว่า 200 ครั้งภายใน 10 วัน ซึ่งสร้างความเหน็ดเหนื่อยให้กับนักกีฬา
นายหยู เหลียง นักโภชนาการของทีมว่ายน้ำชาวจีน โพสต์ในเว่ยป๋อ ซึ่งต่อมาถูกลบทิ้งว่า ในช่วง 10 วันนี้ นักกีฬา 31 คนของเราผ่านการทดสอบสารกระตุ้นเกือบ 200 ครั้ง โดยหน่วยงานทดสอบระหว่างประเทศ ขณะที่ยังต้องฝึกซ้อมและยังมีสภาวะเจ็ทแล็ก โดยการตรวจเกิดขึ้นถี่มากตั้งแต่ตอนเช้าเวลา 6.00 นาฬิกา หรือแม้แต่ช่วงพักบ่าย พร้อมเสริมว่า นักว่ายน้ำจีนถูกเรียกตรวจวันละ 20 คน และ 1 คนถูกตรวจถึง 5-7 ครั้ง
สำนักข่าว South China Morning Post (SCMP)ของจีน รายงานเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคมว่า นักว่ายน้ำชาวจีนตกเป็นถูกตรวจสารต้องห้าม ก่อนการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ปารีส มากกว่าคู่แข่งถึง 2 เท่า โดยอ้างข้อมูลจาก World Aquatics สหพันธ์กีฬาว่ายน้ำนานาชาติ SCMPระบุว่า ในขณะที่นักว่ายน้ำจากประเทศอื่น ถูกตรวจหาสารกระตุ้น 4 ครั้ง ระหว่างวันที่ 1 มกราคม จนถึงการเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ปารีสในวันที่ 26 กรกฎาคม แต่นักว่ายน้ำของจีนถูกทดสอบไม่น้อยกว่า 8 ครั้ง ส่วนในโลกออนไลน์ของจีน ผู้ใช้โซเชียลมีเดียต่างออกมาคอมเม้นแสดงความไม่พอใจในประเด็นนี้อย่างดุเดือด
กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นต่อเนื่อง จากที่เมื่อเดือนเมษายน องค์กรต่อต้านการใช้สารกระตุ้นโลก หรือ WADA ยืนยันรายงานว่า ในเดือนมกราคม 2021 พบการใช้สารไตรเมตาซีดิน(Trimetazidine) หรือ TMZ ในปริมาณต่ำ ในนักกีฬาว่ายน้ำจีน 23 คน สารดังกล่าวเป็นกลุ่มตัวยาที่ใช้เพิ่มการไหลเวียนของเลือด และเป็นหนึ่งในบัญชีสารต้องห้ามของ WADA อย่างไรก็ตาม นักว่ายน้ำกลุ่มดังกล่าว ได้รับอนุญาตให้ลงแข่งขันในโอลิมปิก 2021 ที่กรุงโตเกียว เนื่องจาก หน่วยงานต่อต้านสารกระตุ้นของจีน (CHINADA) ได้ชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรว่า นักกีฬานำสารเข้าร่างกายโดยไม่เจตนา เพราะเป็นสารเจือปนในอาหารที่รับประทานระหว่างการแข่งขันช่วง 2020-2021 เหตุดังกล่าวกระทบต่อความเชื่อมั่นของ WADA เป็นอย่างมาก