คิกออฟ “อนุทิน” นำร่อง โครงการ “มหาดไทยสีขาว” ตรวจสารเสพติดบุคลากรในสังกัดทั่วประเทศ รุกป้องกันปัญหายาเสพติด

มท.คิกออฟ “มหาดไทยสีขาว” นำร่องตรวจสารเสพติดบุคลากรในสังกัดทั่วประเทศ เตรียมคนหนุนอีก 2 กระทรวงใหญ่ ศธ.- อว. ลุยสแกนดึงผู้ติดเข้าสู่การรักษา รุกป้องกันผู้เสพหน้าใหม่

คิกออฟ “อนุทิน” นำร่อง โครงการ “มหาดไทยสีขาว” ตรวจสารเสพติดบุคลากรในสังกัดทั่วประเทศ รุกป้องกันปัญหายาเสพติด

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

19 ก.ค.2567 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า สืบเนื่องจากที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ได้ให้นโยบายหน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทย รวมถึงหน่วยงานภายใต้การกำกับในฐานะรองนายกรัฐมนตรี ให้ดำเนินการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเชิงรุก

 

 

 

 

ล่าสุดกระทรวงมหาดไทย ได้คิกออฟนำร่องโครงการตรวจคัดกรองสารเสพติดในบุคลากรของหน่วยงาน “มหาดไทยสีขาว สร้างพื้นที่ปลอดภัย หยุดยั้งยาเสพติด Safe zone no drugs” โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 18 ก.ค. 67 ซึ่งการตรวจในบุคลากรกลุ่มแรก ๆ จะเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจและเตรียมความพร้อมกำลังคนที่จะไปเป็นผู้ดำเนินการตรวจสารเสพติดบุคลากรมหาดไทยทั่วประเทศ และของหน่วยงานอื่นๆ ที่จะเข้ารับการตรวจโดยความสมัครใจ

 

 

สำหรับการสมัครใจตรวจปัสสาวะเพื่อคัดกรองสารเสพติด เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายที่กระทรวงมหาดไทยประกาศจะต่อสู้กับยาเสพติดอย่างเข้มข้นที่ประกอบด้วยหลายมาตรการ ซึ่งหากในการคัดกรองนั้นพบว่าเป็นผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด ก็จะนำสู่กระบวนการบำบัดรักษา แต่หากเป็นผู้ไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ก็จะได้รับการยอมรับและเกิดเป็นสร้างภาพลักษณ์ที่ดีแก่หน่วยงานต่อไป

 

 

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า พร้อมกับการดำเนินการภายในแล้วระยะต่อไปจะเป็นการขยายไปยังหน่วยงานอื่นด้วย โดยเร็วๆ นี้ กระทรวงมหาดไทยจะทำความตกลงความร่วมมือ (MOU) กับ 2 กระทรวงใหญ่ ที่เกี่ยวข้องกับบุคลากร เยาวชน นักศึกษาจำนวนมากคือ กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) เพื่อดำเนินการคัดกรองสารเสพติดภาคสมัครใจ ซึ่งกระทรวงมหาดไทย โดยกรมการปกครอง จะสนับสนุนกำลังเจ้าหน้าที่ซึ่งผ่านการคัดกรอง แสดงความบริสุทธิ์ใจ โปร่งใสแล้วเข้าสนับสนุนการตรวจของแต่ละหน่วยงานตามกรอบอำนาจหน้าที่

“มหาดไทย ศึกษาฯ และอว. เราได้หารือและเห็นพ้องร่วมกัน ว่าขณะนี้ยาเสพติดเป็นภัยอันตราย ส่งผลร้ายกับการพัฒนาและความมั่นคงประเทศ นอกจากการปราบปรามแล้วต้องใช้มาตรการป้องกันเข้าไปจัดการ สร้างภูมิคุ้มกันลดจำนวนผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติด โดยเฉพาะผู้เสพหน้าใหม่ หรือ New Face ซึ่งเป็นเด็ก เยาวชนในระบบการศึกษา และการทำ MOU กับทั้ง 2 หน่วยงานที่ดูแลสถานศึกษาไม่ว่าจะเป็น โรงเรียน วิทยาลัย มหาวิทยาลัยจะทำให้ดำเนินมาตรการนี้ได้ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น” น.ส.ไตรศุลี กล่าว

 

โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ภายใต้ความร่วมมือตาม MOU นอกจากทุกหน่วยงานจะสนับสนุนบุคลากรให้เข้าร่วมการตรวจคัดกรองสารเสพติดภาคสมัครใจแล้ว ยังจะดำเนินการด้านอื่นๆ อาทิ การประกาศนโยบายสร้างภูมิคุ้มกัน และการป้องกันการเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด นำนโยบายไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม สร้างความตระหนักต่อโทษภัยของยาเสพติด ส่งเสริมบทบาทความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ในการแก้ไขปัญหาในทุกมิติ

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) สัตว์ป่าร่วม 'ปาร์ตี้กินน้ำ' สู้อากาศร้อนจัดในซินเจียง
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) ชาวบ้านฮีโร่! ฝ่าน้ำท่วมช่วย 3 ชีวิตติดรถในกว่างซี
ชุมพร ประชุมรับฟังความคิดเห็นโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมริ่ว
"ผู้การฯ บุรีรัมย์" ยันผู้ต้องสงสัยชาวเขมร "วิน ดา" ผิด 2 ข้อหา มีอาวุธปืน-อยู่ไทยเกินกำหนด ให้การภาคเสธ ตร.สอบเข้มก่อนฝากขัง
3 นิ้วโดนคุกระนาว คดีป่วน "ตชด.ภ.1 ปี 64" จี้ปล่อยตัวทะลุฟ้า “เพนกวิน” โดน 2 ปี ไม่รออาญา เจอปรับอ่วมรวม 3 แสน
บุกตรวจโรงงานพลาสติกบ้านบึง พบแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย 32 ราย ดำเนินคดีทั้งนายจ้างและลูกจ้าง

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​