“รมว.สุดาวรรณ” ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมวัด-โบราณสถาน จ.นครราชสีมา เตรียมพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ พร้อมผลักดัน Soft Power ผ้าไหมไทย

“รมว.สุดาวรรณ” ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมวัด โบราณสถานใน จ.นครราชสีมา ก่อนประชุม ครม.สัญจร วันพรุ่งนี้ เตรียมชงโครงการพัฒนา“วัดธรรมจักรเสมาราม” ศาสนสถานเก่าแก่ยุคทวารวดี เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์

“รมว.สุดาวรรณ” ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมวัด-โบราณสถาน จ.นครราชสีมา เตรียมพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ พร้อมผลักดัน Soft Power ผ้าไหมไทย – Top News รายงาน

รมว.สุดาวรรณ

 

เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2567 นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 (นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์) และคณะข้าราชการเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ตรวจราชการ ณ จังหวัดนครราชสีมา เพื่อเยี่ยมชมการพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม

ตามนโยบายรัฐบาลด้านการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว โดยสนับสนุน Soft Power และพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมในการส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนเชิงวัฒนธรรม

ใช้ภาพรัฐมนตรีนั่งชมการรำต้อนรับ + ภาพรัฐมนตรีเข้าเยี่ยมชมโบราณสถานบ้านโนนวัด + เน้นภาพโบราณคดี , ภาพโครงกระดูก , ภาพไหโบราณ , ภาพเครื่องประดับโบราณต่างๆ

โดยเริ่มจาก บ้านโนนวัด ตำบลพลสงคราม อำเภอโนนสูง มีชาวบ้านจำนวนมากมารอให้การต้อนรับ ทั้งนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมคณะ ได้เยี่ยมชมแหล่งโบราณคดีบ้านโนนวัด ซึ่งเป็นแหล่งที่มีหลุมขุดค้นทางโบราณคดีที่ใหญ่ที่สุด และมีความต่อเนื่องทางวัฒนธรรม ที่ยาวนานที่สุดในประเทศไทย ณ เวลานี้

ข่าวที่น่าสนใจ

โดยนับได้ตั้งแต่ยุคหินใหม่ สำริด เหล็ก เรื่อยมากระทั่งยุคปัจจุบัน กว่า 200 ชั่วอายุคน ภายในมีการขุดพบหลุมศพ กระดูกมนุษย์ เครื่องประดับ และไหโบราณลวดลายงดงาม ซึ่งมีอายุร่วมสมัยกับแหล่งโบราณคดีบ้านเชียงที่จังหวัดอุดรธานี คือประมาณ 4,500 ปี และในอนาคตอาจมีการสนับสนุนให้ขึ้นทะเบียนมรดกโลกอีกด้วย

ใช้ภาพรัฐมนตรีเดินชมบูธย้อมผ้าไหม + ภาพเดินทักทายประชาชน + ภาพเดินดูผ้าไหม + ภาพนั่งฟังรายงานจาก สส.ในพื้นที่ + ภาพตอนถ่ายรูปหมู่หน้าปราสาทนางรำ

ต่อจากนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมคณะ เดินทางไปยังจุดที่ 2 พร้อมตรวจเยี่ยมการพัฒนาศักยภาพแหล่งผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์วัฒนธรรม ได้แก่ “ผ้าไหมลายช่อดอกดงเค็ง” ณ ปราสาทนางรำ ซึ่งลายผ้าดังกล่าวถูกยกให้เป็นลายอัตลักษณ์ ประจำอำเภอประทาย เนื่องจากในอดีต “ต้นเค็ง” เป็นต้นไม้ประจำถิ่น ที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ณ บริเวณที่ตั้งชุมชน ซึ่งลวดลายของผ้าประกอบด้วย ลายช่อดอกเค็ง ลายธารน้ำบึงกระโดน (ปลาซิว) ลายช่อสน และลายกำแพงป้อมปราการ ไม่เพียงเท่านั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ยังเดินทางไปยังจุดที่ 3 คือ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพิมาย ซึ่งก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2507 โดยเริ่มจากการเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง โบราณวัตถุที่จัดแสดงส่วนใหญ่ได้จากการขุดแต่งบูรณะปราสาทพิมาย การขุดแต่งบูรณะโบราณสถาน และการขุดค้นทางโบราณคดี ในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนล่าง ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ สุรินทร์และศรีสะเกษ

โดยในปี พ.ศ. 2532 กรมศิลปากร ได้พัฒนาปรับปรุงพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พิมาย ให้ถูกต้องตามหลักวิชาการพิพิธภัณฑสถานวิทยา ต่อมาเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2536 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติแห่งนี้ ซึ่งปัจจุบันได้รับการยกย่องว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ ที่จัดแสดงถูกต้อง ตามหลักวิชาการพิพิธภัณฑ์ ที่ได้มาตรฐานสากลแห่งหนึ่งในประเทศไทย

โดยภายในพิพิธภัณฑ์ แบ่งออกเป็น 3 ประกอบด้วย ส่วนที่ 1 เป็นอาคารจัดแสดงชั้นบน จัดแสดงเรื่องพัฒนาการของสังคม ในดินแดนแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง แสดงถึงรากฐานการกำเนิดอารยธรรม ซึ่งมีที่มาจากความเชื่อต่างๆ ตลอดจนอิทธิพลวัฒนธรรมภายนอกที่เข้ามามีบทบาทตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์จนถึงปัจจุบัน

ส่วนที่ 2 เป็นอาคารจัดแสดงชั้นล่าง จัดแสดงโบราณวัตถุร่วมสมัยศิลปะเขมร โบราณคดีและประวัติศาสตร์พิมาย กล่าวถึงกำเนิดเมือง การสร้างพุทธสถานประจำเมือง หลักฐานร่องรอยความเจริญด้านสังคม วัฒนธรรม เศรษฐกิจ โดยศึกษาจากหลักฐานต่างๆ ที่พบในพิมายและจังหวัดใกล้เคียง โบราณวัตถุที่สำคัญ อาทิ ประติมากรรมรูปพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 เครื่องถ้วยลพบุรี ร่วมสมัยศิลปะเขมร และเครื่องทองประดับเทวรูปจากปราสาทบ้านถนนหัก อำเภอหนองบุนนาก จังหวัดนครราชสีมา

และ ส่วนที่ 3 เป็นอาคารจัดแสดงกลางแจ้ง จัดแสดงโบราณวัตถุซึ่งเป็นส่วนประกอบสถาปัตยกรรมหินทราย อาทิ ทับหลัง หน้าบัน เสาประดับกรอบประตู กลีบขนุน บัวยอดปราสาท และปราสาทจำลอง ที่พบจากโบราณสถานในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง นอกจากนี้บริเวณรอบอาคารพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พิมาย ยังได้จัดแสดงใบเสมาและทับหลังที่สวยงามอีกด้วย

ขณะที่ นางสาวสุดาวรรณ กล่าวว่าขณะนี้ทางกระทรวงวัฒนธรรม ได้มุ่งขับเคลื่อนนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) ของรัฐบาล ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายใต้กิจกรรม “เที่ยวโบราณสถานยามราตรี” ในพื้นที่โบราณสถานสำคัญ ซึ่งอยู่ในความดูแลของกระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมศิลปากร เช่น ที่อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย กรมศิลปากร ได้ดำเนินโครงการปรับปรุงไฟส่องสว่างโบราณสถานปราสาทหินพิมายให้มีความสวยงาม เหมาะสมกับการท่องเที่ยวในเวลากลางคืน

รวมทั้งปรับปรุง พัฒนาภูมิทัศน์พื้นที่บริการอุทยานประวัติศาสตร์พิมายให้มีความสง่างาม โดดเด่น มีเอกลักษณ์และเข้าสู่มาตรฐานอารยสถาปัตยกรรม เพื่อเป็นโบราณสถานที่เป็นแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาตร์และวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน ช่วยจูงใจให้นักท่องเที่ยว ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติมาเที่ยวชม

สำหรับวันพรุ่งนี้ (2 กรกฎาคม 2567) เวลา 09.00 น. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 4/2567 ณ หอประชุมราชภัฎรังสฤษณ์ มหาวิทยาลัยนครราชสีมาด้วย
        

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"สันติสุข" เทียบเจ็บ "ฮุน เซน" เหมือนคนคลั่งยา จับสมาชิกครอบครัวเป็นตัวประกัน ปลุกระดมทะเลาะไทย พาคนในชาติเดือดร้อนทั่วหน้า
วธ.เตรียมจัดใหญ่งานมหกรรมวัฒนธรรมแห่งชาติ วิถีถิ่น วิถีไทย กลางใจกรุงเทพฯ มางานเดียวเหมือนได้เที่ยวทั่วไทย
เพื่อไทยกร้าวสุด "สส.อีสาน" เล่นใหญ่ เสนอกลางวงประชุมพรรค ลั่นถึงเวลาทวง "มหาดไทย" คืน
กลาโหมกัมพูชากล่าวหาไทยละเมิด MOU 2543
สถานทูตในอิหร่านเตือนคนไทยออกจากเตหะราน
ครม. เห็นชอบแต่งตั้ง "เกษร" เป็นผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย
อิสราเอลขู่คาเมเนอีระวังมีชะตากรรมเหมือนซัดดัม
ศน. ประกาศผลประกวดบรรยายธรรมระดับประเทศ 24 เยาวชนคนเก่ง รับโล่พระราชทาน "กรมสมเด็จพระเทพฯ"
“ไพบูลย์” ย้ำพปชร.ไม่ร่วมรัฐบาล “นายกฯอิ๊งค์” หาก “ภูมิใจไทย” ถอนตัวจากพรรคร่วม
สร.รฟท. ลงพื้นที่อีสาน ให้กำลังใจทหาร "ตาเมือนธม" คารวะทำหน้าที่ ปกป้องอธิปไตยแผ่นดิน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น