ข่าวที่น่าสนใจ
อาทิ “ดร.ดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม” อดีตสว. ซัด “กกต.” เต็มข้อว่า ทำมึนมองไม่เห็นข้อบกพร่องตนเอง ตรวจสอบอะไรไม่ได้ หาคนทำผิดไม่เจอ ทั้งยังปล่อยให้ทุกคนที่ข้องใจไปฟ้องศาลกันเอาเอง ตัวอย่างเช่น วันนี้ “จาตุรันต์ บุญเบ็ญจรัตน์” เลขาธิการกลุ่ม Clean Politic อดีตผู้สมัคร สว. ตบเท้าไปฟ้อง “ศาลปกครองสูงสุด” เพื่อขอให้ศาลเปิดไต่สวนฉุกเฉินคุ้มครองชั่วคราวการประกาศรับรองผลการเลือก สว.ไม่ตรงปกและหวั่นเกรงว่า การเมืองครอบงำสภาสูงยิ่งกว่าสภาผัวเมียเหมือนในอดีต
ขณะเดียวกันมีกระแสข่าวชิงเก้าอี้ประธานและรองประธานวุฒิสภาสะพัดไปทั่ว อาทิ “สรชาติ วิชย สุวรรณพรหม” อดีต สส.หนองบัวลำภู ได้คะแนนนำโด่งมาเป็นอันดับต้น ๆ ของกลุ่มอาชีพ เจ้าตัวปฏิเสธข่าว พร้อมกับออกตัวว่า อยากทำงานเป็นประธานคณะกรรมาธิการวุฒิสภาชุดใดชุดหนึ่งเท่านั้น สำหรับสเปคว่าที่ “ประธานวุฒิสภา” ในดวงใจคิดว่า จะต้องเป็นบุคคลที่ประสานงานได้กับทุกฝ่ายทั้งอำนาจเก่าและอำนาจใหม่ อีกชื่อที่ลือกระฉ่อนว่าเป็นหนึ่งตัวเต็ง “บุญส่ง น้อยโสภณ” อดีตกกต.ดีกรีไม่ธรรมดา อดีตที่ปรึกษารองประธานวุฒิสภา และเคยเป็นประธานกรรมการที่ปรึกษากฎหมายของคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. , อดีตประธานศาลอุทธรณ์ภาค 7 และ อดีต กกต. เคยรับผิดชอบด้านกิจการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย
ขณะที่อาฟเตอร์ช็อก! “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นถึง น้องเขย “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี แต่ไปไม่ถึงฝั่งฝัน แม้แต่ตัวสำรองยังไม่ติด จนทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า “พรรคเพื่อไทย” เสียหน้าเป็นอย่างมาก เพราะความพ่ายแพ้ในครั้งนี้ ถูกเชื่อมโยงกับเรตติ้ง หรือ คะแนนนิยมของ “ทักษิณ” และ “เพื่อไทย” กำลังอยู่ในช่วงขาลงใช่หรือไม่ เป็นคำถามที่สื่อจิ้มไมค์ถาม “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี ตอบว่าผลการเลือก “สว.” ระหว่างพรรคกับตัวบุคคลผู้สมัครไม่มีความเชื่อมโยงกัน
เช่นเดียวกับศึกชิงเก้าอี้นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ผลออกมา “ชาญ พวงเพ็ชร์” ผู้สมัครหมายเลข 1 พรรคเพื่อไทย กำชัยชนะ ส่งแชมป์เก่า “บิ๊กแจ๊ส” พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้สมัครหมายเลข 3 ม้วนเสื่อกลับบ้าน แม้ผลการนับคะแนนจะชนะอย่างเฉียดฉิวเหนือคู่แข่งห่างกันแค่พันกว่าคะแนนก็ตาม ผลที่ออกมาถือว่า กู้หน้า “เพื่อไทย” ไว้ได้ ไม่เช่นนั้นจะถูกบรรดานักวิจารณ์การเมืองถล่มยับว่า “นายใหญ่เพื่อไทย” อยู่ในช่วงขาลงแล้ว ใช่หรือไม่
นับจากนี้ไป ต้องจับตา! ใครจะขึ้นแท่นนั่งบัลลังก์ประธาน และ รองประธานสภาสูง ขณะเดียวกันชัยชนะของ “เพื่อไทย” ในศึกชิงเก้าอี้นายกอบจ.ปทุมธานี “ชาญ พวงเพ็ชร์” กลับมาผงาด ถึงขนาด “ประเสริฐ จันทรรวงทอง” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย ถึงกับการันตีว่า ชัยชนะในครั้งนี้ ถือเป็นการหักล้างลบคำสบประมาท ทั้งยังตอกย้ำว่า กระแสของพรรคเพื่อไทยยังครองใจประชาชนอยู่ และ พิสูจน์ได้ว่ายี่ห้อ “ทักษิณ” ยังไม่สิ้นมนต์ขลัง!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
