สถานการณ์การแพร่รระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)ทั่วโลก ประจำวันที่ 28 เมษายน 2564 ล่าสุด เมื่อเวลา 10.20 น. ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกสะสมมีจำนวน 149,328,858 ราย และมียอดผู้ป่วยที่หายแล้ว 127,465,511 ราย ทั้งนี้ยอดรักษาในโรงพยาบาล 18,714,566 ราย และมียอดผู้เสียชีวิต 3,148,781 ราย
ขณะที่ อันดับ 1 คือ สหรัฐ มีผู้ติดเชื้อรวม 32,927,091 ราย ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 52,008 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 885 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 587,384 ราย
ขณะที่ อันดับ 2 ยังคงเป็น อินเดีย มีผู้ติดเชื้อรวม 17,988,637 ราย ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 362,902 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 3,285 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวมอยู่ที่ 201,165 ราย
ด้านผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกเชื่อว่าจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดในอินเดียสูงกว่าที่รายงานราว 30 เท่า ส่วนผู้เสียชีวิตก็สูงกว่าที่รายงาน 2-5 เท่า เนื่องจากอินเดียมีปัญหาด้านการเก็บและเข้าถึงข้อมูล คนชนบทเข้าไม่ถึงการตรวจโควิด ผู้ป่วยจำนวนมากนอนเสียชีวิตที่บ้านไม่มีใครรู้ ล่าสุดวันนี้อินเดียทำสถิตินิวไฮของโลกอีกแล้ว หลังยอดผู้ติดเชื้อในช่วง 24 ชม.ที่ผ่านมาพุ่งไปอยู่ที่ 362,902 คน ผู้เสียชีวิตก็ทำนิวไฮต่อวันสูงกว่า 3 พันคนต่อวันเป็นครั้งแรก ผู้เสียชีวิตสะสมทั้งหมดทะลุยอด 2 แสนคนเป็นวันแรก
นายรามานัน ลักษมีนารายัน ผู้อำนวยการองค์กรวิจัยด้านสาธารณสุข (CDDEP) ที่กรุงนิวเดลีกล่าวว่าเป็นที่รูักันดีว่าจำนวนจริงของผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตในอินเดียจะสูงกว่าที่รายงานเสมอ มันเป็นอย่างนี้มาโดยตลอด ไม่ใช่เฉพาะเคสโควิด สำหรับเคสโควิดนายรามานันเชื่อว่าตัวเลขจริงจะสูงกว่าที่รายงาน 30 วัน ดังนี้ยอดผู้ติดเชื้อขณะนี้น่าจะมากกว่า 500 ล้านคนแล้ว ส่วนผู้เสียชีวิตน่าจะถึง 1 ล้านคน ยิ่งดูจากภาพการเผาศพหมู่ตามลานกลางแจ้งของแต่ละเมืองแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่ผู้เสียชีวิตจะเป็นไปตามที่รายงาน
สาเหตุหลักที่ตัวเลขรายงานจริงสูง คือมีการ test Covid ไม่มากพอในกลุ่มผู้ติดเชื้ัอ เนื่องจากจำนวนมากไม่มีอาการ จึงไม่ได้เข้ารับการตรวจ ขณะที่ในพื้นที่ชนบทห่างไกล ชาวบ้านเข้าไม่ถึงการ Test Covid เนื่องจากยากจน ไม่ยอมหยุดทำงานเพื่อไปรับการตรวจ
ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตในความเป็นจริงสูงกว่ารายงานก็เป็นเรื่องปกติก่อนเคสโควิด โดย 86 % ของผู้เสียชีวิตเท่านั้นที่มีการแจ้งจดทะเบียนมรณะ และจำนวนมากก็ไม่มีการระบุสาเหตุการเสียชีวิต นอกจากนี้คนอินเดียส่วนใหญ่มักเสียชีวิตกันภายในบ้าน ไม่ใช่ที่โรงพยาบาล แพทย์จึงไม่ได้รับรายงาน เนื่องจากพอเสียแล้วทำการเผาร่างเลย
การจดบันทึกข้อมูลก็เป็นอีกสาเหตุหลัก เกิดจากความผิดพลาดของคนและเจ้าหน้าที่ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าข้อมูลผิดพลาดนี่แหละเป็นสาเหตุสำคัญทำให้คนคิดว่าโรคใกล้ยุติแล้ว ไม่ตระหนักถึงความเป็นจริง และไม่เกิดการเตรียมพร้อม
ความผิดพลาดสำคัญอีกส่วนเกิดจากรัฐบาลประกาศชัยชนะเร็วไปตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่่แล้ว ทำให้คนคิดว่าการแพร่ระบาดใกล้ยุติ จึงไม่มีการเฝ้าระวัง ทั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญที่มหาวิทยาลัยวอชิงตัน สหรัฐประเมินว่ายอดผู้เสียชีวิตจะพุ่งไปเรื่อยจนถึงกลางเดือนหน้า และอาจสูงกว่า 13,000 คนต่อวัน และทุกครอบครัวจะมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 คน