No data was found

ล่าชื่อไล่ “อนุทิน” กลางวิกฤติโควิด

กดติดตาม TOP NEWS

กลายเป็นประเด็นร้อนแรงที่สุดในตอนนี้ หลังกลุ่ม “หมอไม่ทน” ได้ตั้งแคมเปญล่าชื่อเรียกร้องให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สธ.ลาออก จากความล้มเหลวในการแก้ปัญหาการระบาด COVID19

กลายเป็นประเด็นร้อนแรงที่สุดในตอนนี้ หลังกลุ่ม “หมอไม่ทน” ได้ตั้งแคมเปญล่าชื่อเรียกร้องให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สธ.ลาออก จากความล้มเหลวในการแก้ปัญหาการระบาด COVID19 โดยล่าสุดมีผู้สนับสนุน 201,775 คน (12.50 น. 27 เม.ย.) ทั้งนี้กลุ่มหมอไม่ทน ได้อธิบายเหตุผลในการเรียกร้องให้นายอนุทินลาออกว่า

กว่า 1 ปีเต็มที่ผ่านมาของการระบาด COVID-19 เป็นข้อพิสูจน์แล้ว ว่า อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ไม่มีความสามารถมากพอในการควบคุมดูแลการแพร่ระบาดของ COVID19 ทั้งเรื่องการวางนโยบาย การจัดการทรัพยากร การจัดหาวัคซีน และการสร้างความเชื่อมั่นให้บุคลากรทางการแพทย์ นอกเหนือไปกว่านั้น หลายครั้งบทสัมภาษณ์จากนายอนุทิน ยังทำให้เห็นชัดเจนว่าไม่มีวิสัยทัศน์ที่เหมาะสมในการทำงานควบคุมกระทรวงที่เป็นกระทรวงหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่การระบาดไม่สามารถควบคุมได้

เริ่มต้นตั้งแต่ที่พูดว่า “เป็นเพียงไข้หวัดธรรมดา” เมื่อบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อ ก็แจ้งว่า “หมอไม่ระวังตัวเองจนติดโควิด 19-ไม่ได้ติดจากงาน แบบนี้ต้องหวดกัน” และบทสัมภาษณ์อีกมากมาย ที่ประชาชนได้รับทราบโดยทั่วกัน จากความล้มเหลวทั้งหมดนี่ เป็นข้อพิสูจน์แล้วว่าเราไม่อาจจะให้เวลาอันมีค่าของเรา หมดสิ้นไปกับการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพไม่มากพอได้ ขอเรียกร้องให้นายอนุทิน ชาญวีรกูลลาออก และให้ผู้ที่มีความสามารถ มีความเหมาะสมมากกว่าเข้ารับตำแหน่ง ในช่วงเวลาที่ประเทศกำลังตกอยู่ในความวิกฤตนี้

นอกเหนือจากกลุ่มหมอไม่ทนล่าชื่อขับพ้นกระทรวงแล้ว นายอนุทินยังเจอกรณีดราม่าอีกระลอก หลังเพจโรงพยาบาลหลายแห่งอาทิ โรงพยาบาลลำปาง โรงพยาบาลพุทธชินราช โพสต์ให้กำลังใจนายอนุทินที่เสียสละแก้ปัญหาโควิดชนิดสวนกระแสสังคม โดยเฉพาะกรณีนายแพทย์ธนาคาร สาระคำ ในฐานะชาวโรงพยาบาลพุทธชินราช ออกมาแถลงการณ์ในนามส่วนตัว รวมทั้งประณามการแสดงออกทางการเมืองในนามองค์กร “ นายอนุทินไม่มีคุณสมบัติเหมาะสมเป็นรมว.สธ.ตั้งแต่ต้น และจากบทบาทการทำงานที่ผ่านมาเห็นได้ชัดว่านายอนุทินบริหารงานไม่มีประสิทธิภาพ หลายครั้งไม่ได้เข้าใจบริบทการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ นายอนุทินจึงไม่ควรอยู่ในตำแหน่งต่อไปแม้แต่วินาทีเดียว”

 

 

ต้องเรียกว่ามรสุมของนายอนุทินรอบนี้หนักหนาสาหัสสากรรจ์จริงๆ ก่อนหน้านี้ก็โดนหางเลยกรณีออกมาป้องออกมาอุ้ม “เสี่ยโอ๋” นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ที่ถูกข้อครหาว่ามีเอี่ยวทำให้เกิดความเสี่ยงกรณีเกิดการแพร่เชื้อในสถานบันเทิงย่านทองหล่อ ความวัวยังไม่หายความควายเข้ามาแทรก เรื่องเดิมควันไฟยังไม่ทันจางนายอนุทินก็มาเจอเคราะห์ซ้ำกรรมซัด ถูกโจมตีว่าแก้ไขปัญหาแพร่ระบาดเชื้อโควิดไม่ตรงจุดไม่เท่าทันสถานการณ์ส่งผลให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อพุ่งพรวดจากหลักสิบเป็นหลักร้อยทะยานไปเป็นหลักพัน แถมยังมีปัญหาตามมาหลายเรื่อง อาทิ การหาเตียงการบริหารหาโรงพยาบาลให้กับคนไข้ การส่งตัวคนไข้ สารพัดปัญหาจิปาถะยุ่งเหยิงกันไปหมด ที่สุดจากหมอไม่ทนก็ลามเป็นไทยไม่ทน เกิดเป็นกระแสไม่เอาอนุทิน ขณะอีกฝ่ายที่สนับสนุนเห็นด้วยว่านายอนุทินทำงานหนักทุ่มเทมาตลอดก็ผุดแฮชแทก “ทองแท้ไม่กลัวไฟ” มีการโพสต์แฮชแทกเซฟนายอนทินถึง 1.4 แสนครั้ง เรียกว่าพอฟัดพอเหวี่ยงกัน ขณะที่นายอนุทินแม้จะถูกรุกไล่อย่างหนักแต่กำลังใจยังดีและยืนกรานยังไม่ท้อไม่ถอดใจและไม่คิดลาออก ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ก็ยังสนับสนุนแถมให้กำลังใจนายอนุทินอย่างเต็มที่โดยบอกว่าทั้งหมดเป็นด่านหน้าที่ทำงานหนัก เพราะฉะนั้นจึงอยากขอความร่วมมือจากแพทย์ทุกกลุ่มควรทำงานส่งเสริมกันมากกว่าจะมาขัดแย้ง

ความจริงการออกมาเรียกร้องเพื่อให้นักการเมืองแสดงความรับผิดชอบในทำนองคล้ายๆแบบนี้เกิดขึ้นตลอดและมีมาเสมอ บ่อยครั้งเป็นเรื่องที่รัฐมนตรีมีชื่อเข้าไปพัวพันการทุจริต บางครั้งก็เป็นเรื่องปล่อยปละละเลยไม่รับผิดชอบจนทำให้ประเทศชาติเสียหาย ปลายทางบางคนโดนปรับออก บางคนถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย บางคนพ้นจากตำแหน่งเพราะคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ น้อยรายจะแสดงความรับผิดชอบต่อความผิดที่เกิดขึ้นอย่างตรงไปตรงมา แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีหรือไม่เคยเกิดขึ้นเลยที่นักการเมืองจะแสดงสปิริตทางการเมือง

ย้อนกลับไปหลายปีก่อน กรณีผลสอบทุจริตโครงการไทยเข้มแข็งพ่นพิษใส่ นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สธ. จนตัดสินใจไขก๊อกลาออกจากตำแหน่ง เพื่อแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง และแสดงความนรับผิดชอบต่อความรู้สึกของประชาชน หลังคณะกรรมการสอบสวนชุดที่มี นพ.บรรลุ ศิริพานิช เป็นประธาน สรุปผลว่าโครงการดังกล่าวมีพฤติกรรมและหลักฐานที่น่าเชื่อว่าส่อไปในทางทุจริต พบผู้กระทำผิด 12 ราย แบ่งเป็นข้าราชการการเมือง 4 ราย รวมทั้งข้าราชการประจำทั้งที่ยังอยู่ในตำแหน่งและเกษียณอายุราชการไปแล้วอีก 8 รายนั้น โดยในจำนวนนั้นมีนายวิทยารวมอยู่ด้วย

หลังผลสอบออกมาไม่นานใช่เวลาไม่นานนายวิทยาก็ชิงตัดสินใจลาออกจากเก้าอี้ “เทเวสม์ 1” ทันที พร้อมวลีเด็ดทางการเมือง “ บาทเดียวยังไม่ได้โกง ยังไม่เคยอนุมัติงบประมาณแม้แต่บาทเดียว และได้ใช้ความระมัดระวังอย่างถึงที่สุด ขอให้ไม่ต้องกังวล เพราะทุกบาททุกสตางค์ยังไม่มีการทุจริต แต่เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่ออารมณ์ ความรู้สึกของประชาชน ได้แจ้งให้นายกฯทราบแล้วว่าในวันที่ 30 ธ.ค. จะยื่นใบลาออกจากการเป็น รมว.สาธารณสุข โดยไม่ฝืนอารมณ์ความรู้สึกประชาชน”

กรณีของนายวิทยากับกรณีของนายอนุทินในรายละเอียดของปัญหาทั้ง 2 เคสไม่เหมือนกันซะทีเดียว แต่ที่เหมือนกันคือทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ไม่พอใจไม่เชื่อมั่นไม่อยากให้ทำงานต่อไป ปลายทางนายวิทยาเลือกเขียนใบลาออกเคารพเสียงประชาชน ต่างจากนายอนุทินที่ให้คะแนนตัวเองสิบเต็มสิบและขอสวนกระแสสังคมนั่งทำงานต่อไป

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สตช.ปลดป้ายชื่อ “บิ๊กโจ๊ก” หน้าห้องทำงาน ถอดรูปออกจากทำเนียบผู้บังคับบัญชาบนเว็บไซต์ด้วย
สหรัฐ กระแสต้านยิวลามเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำ
โคราชประกอบพิธีบรรพชา สามเณรปลูกปัญญาธรรม 1ทศวรรษแห่งความดี 10 ปีแห่งความยั่งยืน
"สุรพงษ์" ลุยปัตตานี พัฒนาระบบขนส่งรถสาธารณะ เชื่อมแหล่งท่องเที่ยว อำนวยความสะดวกนทท.-ปชช.ในพื้นที่
ผู้โดยสารอินเดีย ซุกงูอนาคอนดาเหลือง 10 ตัวจากไทย
"3 รัฐมนตรี" ยืนยันไทยไม่แทรกแซงกิจการในเมียนมา พร้อมช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ย้ำจุดยืนห้ามรุกล้ำดินแดน
"หมอเหรียญฯ" ลั่นสัญญาลูกผู้ชาย รับปาก "ลุงตู่" สร้างโครงการวิสาหกิจการแพทย์ วันนี้ทำจริงไม่ขายฝัน
ภาคเอกชน เผยสถานการณ์เมียนมากระทบค้าชายแดน ลดลงร้อยละ 30 หากยืดยื้อส่อส่งผลรุนแรง
อากาศร้อนทำพ่อค้าแม่ค้าตลาดใหม่ชลบุรีบ่นอุบผักขึ้น กก. ละ 50 บาทไข่ขึ้นราคาแผงละ 6 บาท ทำคนจับจ่ายน้อยขายของยากไม่คึกคัก
แคมป์ปิ้งจีนที่ไห่หนานสุดคึกคัก

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น