การยุติข้อพิพาทนี้ เกิดขึ้นภายใต้ข้อตกลงที่ว่า ให้แอสตราเซเนกาส่งมอบวัคซีนส่วนที่เหลืออีก 300 ล้านโดสตามสัญญากับสหภาพยุโรปก่อนสิ้นเดือนมีนาคม 2565 การตกลงยุติการต่อสู้ทางกฎหมาย ทางแอสตร้าเซเนกาจะไม่ถูกปรับใด ๆ เว้นแต่จะทำได้ไม่ทันวันที่ตั้งเป้าใหม่
ก่อนหน้านี้ สหภาพยุโรปไม่พอใจเมื่อแอสตราเซเนกาไม่สามารถส่งมอบวัคซีนได้ตามสัญญา ซึ่งทำให้เกิดปัญหาในการเปิดตัววัคซีนโควิด 19 ของสหภาพยุโรป เจ้าหน้าที่กล่าวหาว่าแอสตร้าเซเนกาจัดลำดับความสำคัญในการส่งมอบวัคซีนของสหราชอาณาจักรเหนือคำสั่งซื้อของสหภาพยุโรป
คณะกรรมาธิการยุโรปจึงได้ร้องต่อศาลบรัสเซลส์ให้มีการส่งมอบหรือให้มีการปรับที่ทำผิดสัญญา แต่ทางบริษัทแอสตราเซเนกาแย้งว่าสัญญาระบุว่าต้องพยายามเต็มที่เพื่อบรรลุเป้าการส่งมอบ และปัญหาในการผลิตในโรงงานนั้นเป็นปัญหาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
ช่วงเดือนมิถุนายน ในการพิจารณาคดี ระหว่างรอการยุติคดีในขั้นสุดท้าย ศาลบรัสเซลส์ได้กำหนดตารางการส่งมอบใหม่ให้กับแอสตร้าเซเนกา ซึ่งตอนนี้ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงที่จะขยายกำหนดเวลาส่งมอบออกไปเป็นปีหน้า
แอสตร้าเซเนกาผลิตวัคซีน และจำหน่ายแบบไม่แสวงหาผลกำไร โดยวัคซีนนี้มีราคาถูกและจัดเก็บได้ง่ายกว่าคู่แข่งหลายราย ด้านสหภาพยุโรปที่คาดหวังที่จะขับเคลื่อนโครงการฉีดวัคซีนด้วยแอสตราเซเนกาก่อนหน้าต้องผิดหวัง และใช้วัคซีนไฟเซอร์ บิออนเทค ที่เป็นความร่วมมือกับสหรัฐและเยอรมนีเป็นตัวขับเคลื่อนแทน
แถลงการณ์ของคณะกรรมาธิการยุโรประบุว่า แอสตร้าเซเนกาได้ส่งมอบยา 100 ล้านโดสในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 และจะส่งเพิ่มอีก 135 ล้านโดสภายในสิ้นปี และอีก 65 ล้านโดสภายในเดือนมีนาคม 2565