โฆษกสายการบิน ANA เปิดเผยว่า เที่ยวบิน ANA118 พาผู้โดยสาร 159 คน ขึ้นบินจากสนามบินฮาเนดะ มุ่งหน้านครซีแอตเทิล เวลา 21.47 น. วันที่ 17 มกราคมตามเวลาท้องถิ่น แต่ทำการบินได้เพียงชั่วโมงเดียว ก็ต้องหันหัวกลับไปลงจอดที่โตเกียว หลังจากเกิดเหตุผู้โดยสารที่อยู่ในอาการมึนเมา กัดแขนแอร์โฮสเตส เป็นเหตุให้เธอได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
ส่วนผู้โดยสารที่ก่อเหตุ เป็นชาวอเมริกัน วัย 55 ปี ถูกตำรวจควบคุมตัวทันทีเครื่องบินลงจอดที่สนามบิน ยังไม่มีรายละเอียดมากนักในเรื่องของการสอบสวนของตำรวจ แต่สื่อญี่ปุ่น รายงานว่า ผู้โดยสารชายรายนี้บอกตำรวจว่าเขากินยานอนหลับ และจำอะไรไม่ได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น
เหตุการณ์ผู้โดยสารกัดลูกเรือกลางอากาศ ไม่ได้เกิดครั้งแรก ในปี 2565 ผู้โดยสาร 2 คน ถูกปรับอาน ฐานกัดลูกเรือและผู้โดยสารคนอื่น ๆ บนเครื่องบินอเมริกัน แอร์ไลนส์กับเดลตา แอร์ไลนส์ คนหนึ่งถูกปรับ 8 หมื่น 1 พัน 950 ดอลลาร์ หรือราวๆ 2 ล้าน 9 แสนบาทเศษ อีกคนโดนปรับ 7 หมื่น 7 พัน 272 ดอลลาร์ หรือประมาณ 2 ล้าน 7 แสน 5 หมื่นบาท เป็นค่าปรับก้อนโตที่สุด ที่เอฟเอเอสั่งลงโทษผู้โดยสารฐานประพฤติไม่เหมาะสมบนเครื่องบิน
นี่ก็นับเป็นเหตุไม่ปกติที่ ANA ประสบเป็นครั้งที่ 3 ในเวลาไม่กี่วัน และเป็นครั้งที่ 5 ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการบินญี่ปุ่นในเวลาไม่กี่สัปดาห์ โดยเมื่อวันเสาร์ ที่ 13 มกราคม เที่ยวบินภายในประเทศของ ANA ต้องวกกลับ หลังกระจกห้องนักบินร้าว แต่เป็นรอยร้าวที่เกิดขึ้นชั้นนอกสุดของกระจก 4 ชั้น ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
วันอาทิตย์ 15 มกราคม ปีกซ้ายของเครื่องบิน ANA ชนท้ายเครื่องบิน เดลตา แอร์ไลนส์ ที่สนามบินนานาชาติ โอ แฮร์ ในนครชิคาโก ยังไม่มีรายละเอียดว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร สำนักงานการบินสหรัฐ หรือ FAA กำลังสอบสวนอยู่
อังคารที่ 16 มกราคม เครื่องบินโคเรียน แอร์ เฉี่ยวชนกับเครื่องบิน คาเธย์ แปซิฟิก ที่สนามบินบนเกาะฮอกไกโด ท่ามกลางหิมะตก เสียหายทั้งสองลำ แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
แต่เหตุร้ายแรงที่สุดเกิดขึ้นเมื่อ 2 มกราคม เครื่องบิน เจแปน แอร์ไลนส์ ชนกับเครื่องบินหน่วยยามฝั่งหลังลงจอด ที่สนามบินฮาเนดะ จนไฟลุกท่วม ผู้โดยสาร 379 คนปลอดภัย แต่เครื่องบินหน่วยยามฝั่ง เสียชีวิต 5 คน
