รัฐบาลญี่ปุ่น ได้จัดสรรเงินงบประมาณ1.4 ล้านล้านเยน หรือ ประมาณ 4.15แสนล้านบาท เพื่อการจัดซื้อวัคซีนและยารักษาโควิด 19 โดยจะมีการใช้งบประมาณที่ 8.41 แสนล้านเยน หรือประมาณ 2.4 แสนล้านบาท สำหรับการสำรองวัคซีนเพิ่มเติม รวมถึงผลักดันโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 หลังจากที่ต้องเผชิญกับการระบาดของสายพันธุ์เดลต้า และการฉีดวัคซีนที่ล่าช้า
นอกจากนี้ นายทาโร อาโสะ รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ได้แถลงว่าจะมีงบประมาณ 2.35 แสนล้านเยน หรือประมาณ 6.97 หมื่นล้านบาท ถูกจัดสรรสำหรับการรักษาแบบ “แอนติบอดี้คอกเทล” (antibody cocktail) โดยการทดลองทางคลินิกในต่างประเทศระบุว่า การรักษารูปแบบนี้ช่วยลดความเสี่ยงเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลหรือเสียชีวิตได้ โดยยาแอนติบอดี้คอกเทลนี้ นับเป็นยาตัวแรกที่รักษาโควิด 19 ได้โดยตรง
ก่อนหน้านี้ นายโยชิฮิเดะ สุกะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้เคยแถลงไว้ว่ารัฐบาลจะใช้เงินสำรองกับมาตรการรับมือโรคโควิด 19 อาทิ การสำรองวัคซีนและยาให้เพียงพอสำหรับการรักษาแบบแอนติบอดี้คอกเทล เพื่อตอบสนองการรักษาที่เร่งด่วน
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นมีเป้าหมายฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 ให้ผู้มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ทุกคน และเป็นการสมัครใจ ให้แล้วเสร็จในช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนพฤศจิกายน แม้โครงการฉีดวัคซีนของญี่ปุ่นจะดำเนินไปค่อนข้างช้าเมื่อเทียบกับหลายประเทศพัฒนาแล้วก็ตาม